รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมจะตอบโต้เกาหลีใต้ ที่เริ่มต้นกระบวนการขายทอดตลาดทรัพย์สินของบริษัทนิปปอนสตีล เพื่อนำเงินไปชดใช้ให้กับชาวเกาหลีที่ถูกบริษัทของญี่ปุ่นบังคับใช้แรงงานในช่วงสงครามโลก
ในวันอังคารที่ 4 ส.ค. ถือว่าครบกำหนดระยะเวลาตามกฎหมาย ที่ศาลเกาหลีใต้สามารถบังคับคดียึดสินทรัพย์ของบริษัทนิปปอนสตีลซึ่งเป็นบริษัทญี่ปุ่น ตามคำพิพากษาศาลฎีกาของเกาหลีใต้เมื่อปี 2561 ที่สั่งบริษัทนิปปอนสตีลให้จ่ายเงินชดเชยแก่ชาวเกาหลีที่เคยถูกบริษัทนี้บังคับใช้แรงงานคนละ 100 ล้านวอน (ราว 2 ล้าน 6 แสนบาท)
นายโยชิฮิเดะ ซูงะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่าคำตัดสินและกระบวนการทางกฎหมายของศาลฎีกาเกาหลีใต้เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ รัฐบาลญี่ปุ่นได้แจ้งเกาหลีใต้หลายครั้งแล้วว่า การนำสินทรัพย์ของบริษัทนิปปอนสตีลขายทอดตลาดจะนำไปสู่สถานการณ์รุนแรง ญี่ปุ่นเรียกร้องอย่างแข็งขันให้เกาหลีใต้ยุติประเด็นนี้โดยเร็ว
เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะคงไว้ซึ่งทางเลือกทุกทางในการตอบโต้เกาหลีใต้ เพื่อปกป้องกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชอบด้วยกฎหมายของบริษัทญี่ปุ่นทั้งหลาย
ทางเลือกในการตอบโต้เกาหลีใต้ของญี่ปุ่น เช่น ยกเลิกฟรีวีซ่าที่ให้กับชาวเกาหลีใต้, เพิ่มภาษีศุลกากรกับสินค้าของเกาหลีใต้ รวมถึงการเรียกตัวทูตญี่ปุ่นประจำกรุงโซลกลับประเทศ
ข้าราชการในกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นประเมินว่า เกาหลีใต้ต้องใช้เวลาอย่างน้อยจนถึงสิ้นปีนี้ จึงจะแปรทรัพย์สินของนิปปอนสตีลเป็นเงินสดได้ เพราะต้องประเมินราคา ก่อนที่จะนำประกาศนำทรัพย์สินออกขาย ซึ่งนิปปอนสตีลสามารถถ่วงเวลาได้โดยการยื่นอุทธรณ์ในขั้นตอนต่าง ๆ
ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นยึดถือจุดยืนที่ว่า สิทธิใด ๆ ต่อการเหตุการณ์ในช่วงเวลาของสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลงแล้วอย่างสิ้นเชิงและเป็นที่สุดเมื่อปี 2508 ซึ่งตอนนั้นญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ปรับความสัมพันธ์ระหว่างกันสู่ระดับปกติ โดยญี่ปุ่นได้มอบเงินช่วยเหลือ300 ล้านดอลลาร์ และให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำอีก 200 ล้านดอลลาร์ให้กับเกาหลีใต้.