“เผ่าภูมิ” รองเลขาฯเพื่อไทย ชง 4 ข้อนโยบายการเงินในภาวะวิกฤต สับออกมาตรการ Soft Loan ล้านล้านบาท แต่ลงสู่มือประชาชนไม่ถึงครึ่ง เปรียบกอบชูชีพไว้ ไม่ถึงมือคนจมน้ำ ฉะสถาบันการเงินเมินช่วยกู้วิกฤต
เมื่อวันที่ 1 ส.ค.63 นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายการเงินในภาวะวิกฤตจากโรคโควิด-19 ในวาระที่มี คณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังมีมติเห็นชอบให้ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) (แบงค์ชาติ) คนใหม่ โดยมีข้อเสนอ 4 ข้อ ประกอบด้วย 1.“สินเชื่อลงสู่มือประชาชน สำคัญกว่าตัวเลขกรอบวงเงิน” ประชาชนมักได้รับคำกล่าวที่ว่าสภาพคล่องและปริมาณเงินในระบบของไทยนั้นล้นเหลือ แต่ในขณะเดียวกันกลับรู้สึกว่าตนไม่เคยเข้าถึงสภาพคล่องเหล่านั้นเลยเมื่อมีปัญหา
“ปัญหาในไทยไม่ใช่จำนวนเงินในระบบ แต่หากเป็นกลไกที่จะผลักเงินนั้นกระจายถึงมือประชาชนจริง ในวิกฤตโควิด สภาพคล่องเสมือนชูชีพสำหรับคนจมน้ำ ซึ่งตอนนี้คนจมน้ำเกลื่อน ชูชีพมีล้นเหลือ แต่โยนไม่ถึงมือคนจมน้ำ Soft Loan (เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ) ผ่านธนาคารพาณิชย์ 5 แสนล้านบาท ถูกใช้จริงไม่ถึงครึ่ง และ Soft Loan ผ่านธนาคารเฉพาะกิจของรัฐอีก 4.66 แสนล้านบาท ถูกใช้จริงไม่ถึงครึ่งเช่นกัน ทั้งๆที่ผู้คนต่างโหยหาสินเชื่อ เรื่องนี้ต้องแก้ที่กลไก ไม่ใช่เพิ่มกรอบวงเงิน” นายเผ่าภูมิ ระบุ
นายเผ่าภูมิกล่าวต่อว่า 2.“นโยบายการเงินที่หนุนเศรษฐกิจ สำคัญกว่าแค่มิติเสถียรภาพ” โดยเฉพาะในภาวะวิกฤต เสถียรภาพของตลาดเงินนั้นสำคัญก็จริง แต่ที่ผ่านมาเน้นเสถียรภาพมากจนสถาบันการเงินมีเงินกองทุนสูงลิบ แต่กลับไม่ใช้ประโยชน์เพื่อหนุนเศรษฐกิจเท่าที่ควร โควิดเกิดขึ้นกับภาคเศรษฐกิจจริง ในขณะที่ภาคการเงินยังเข้มแข็ง เหตุใดภาคการเงินไม่ยกระดับการกอบกู้วิกฤตครั้งนี้ หนี้เสียจะแค่ลดกำไรของธนาคารพาณิชย์ แต่ไม่กระทบถึงขั้นเสถียรภาพ แต่หากเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อมาก ใช้หลักเกณฑ์เสมือนไม่มีวิกฤต ธุรกิจจะขาดสภาพคล่อง ปิดกิจการ ตกงานกันเป็นโดมิโน ซึ่งตรงนี้อันตรายกว่ากันมาก, 3.“กรอบอัตราแลกเปลี่ยน สำคัญกว่ากรอบเงินเฟ้อ” อย่างน้อยในภาวะวิกฤต เงินบาทที่อ่อนในจังหวะที่เหมาะสม เป็นปัจจัยสำคัญในการเร่งการฟื้นตัวผ่านการส่งออก ประเทศที่ค่าเงินแข่งขันได้ในช่วงที่ตลาดส่งออกเริ่มขยับช่วงแรกๆ จะฟื้นตัวเร็วและฉกชิงตลาดที่กำลังฝุ่นตลบได้ก่อน กรอบเรื่องเงินเฟ้อสำคัญน้อยกว่าความสามารถฟื้นเศรษฐกิจมากในตอนนี้
นายเผ่าภูมิ กล่าวต่อว่า และ 4.“เปิดใจรับนโยบายการเงินแบบนอกตำรา” เงินเฟ้อที่จะต่ำยาวนานและไม่มีทีท่าจะผงกหัวขึ้น และความต้องการให้บาทอ่อน เปิดช่องให้ฉีกตำราการใช้นโยบายการเงินแบบเดิมๆได้ การเปิดใจรับกับการใช้นโยบายการเงินแบบ Unconventional ในระยะสั้นสามารถทำได้ เพราะปัจจุบันยังไม่ต้องพะวงภาวะเงินเฟ้อ และได้บาทอ่อน ได้เงินลงสู่ระบบดังหวัง อาจจะเป็นคำตอบในภาวะที่นโยบายการเงินแบบเดิมเริ่มถึงทางตัน.