รอยเตอร์ – บริษัท นิปปอน สตีล คอร์ป ของญี่ปุ่นประกาศจะยื่นอุทธรณ์คำพิพากษายึดทรัพย์ของศาลเกาหลีใต้ ซึ่งถือเป็นความคืบหน้าล่าสุดในคดีความที่กระพือความขัดแย้งระหว่างประเทศ
ศาลสูงสุดเกาหลีใต้มีคำสั่งเมื่อปี 2018 ให้นิปปอนสตีลต้องจ่ายเงินชดเชยให้แก่ชาวเกาหลีใต้ซึ่งถูกบังคับใช้แรงงานในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จำนวน 4 ราย เป็นเงินรายละ 100 ล้านวอน หรือประมาณ 2.6 ล้านบาท
คำพิพากษานี้สร้างความไม่พอใจต่อรัฐบาลญี่ปุ่นที่ยืนยันว่า ปัญหาเรื่องเงินชดเชยได้ตกลงกัน “เป็นที่สิ้นสุดแล้ว” ระหว่างที่ทำสนธิสัญญาสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตสู่ระดับปกติเมื่อปี 1965 และคำสั่งศาลเกาหลีใต้ถือว่าขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ
ต่อมาศาลเกาหลีใต้ยังมีคำสั่งอนุมัติให้ยึดทรัพย์สินของนิปปอนสตีลในแดนโสมขาว และมีรายงานในสื่อเกาหลีใต้ว่า ตั้งแต่เที่ยงคืนวันนี้ (4 ส.ค.) เป็นต้นไป ศาลแขวงแทกูสาขาโปฮังจะมีสิทธิ์นำหุ้นบางส่วนของนิปปอนสตีลในกิจการร่วมค้ากับ POSCO ไปขายทอดตลาด
โยชิฮิเดะ สุงะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ออกมากล่าวย้ำวันนี้ (4) ว่าคำพิพากษาของศาลเกาหลีใต้ “ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน” พร้อมเรียกร้องให้เกาหลีใต้ระงับการยึดทรัพย์สินของบริษัทญี่ปุ่นเพื่อไม่ให้ความขัดแย้งบานปลายยิ่งไปกว่านี้
เพื่อเป็นการตอบโต้คำสั่งศาลเกาหลีใต้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้เพิ่มมาตรการควบคุมการส่งออกวัสดุไฮเทค 3 ชนิดที่ใช้ในการผลิตชิปและสมาร์ทโฟนไปยังเกาหลีใต้ตั้งแต่เดือน ก.ค. ปีที่แล้ว ซึ่งส่งผลกระทบต่อบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ของแดนโสม เช่น ซัมซุง อิเล็กโทรนิกส์, เอสเค ไฮนิกซ์, และ แอลจี ดิสเพลย์
รัฐบาลโซลได้ร้องเรียนองค์การการค้าโลก (WHO) เกี่ยวกับมาตรการจำกัดส่งออกของญี่ปุ่น ซึ่งเวลานี้ยังคงมีผลครอบคลุมเคมีภัณฑ์ 2 จาก 3 ชนิด และเมื่อเดือนที่แล้ว WTO ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อไต่สวนคำร้องนี้