สวนแห่งหนึ่งในเกาหลีใต้จัดวางรูปปั้นที่อ้างว่าเป็นนายกฯ ญี่ปุ่น คุกเข่าและก้มศีรษะต่อหน้ารูปปั้นเด็กหญิงที่เป็นสัญลักษณ์ของสตรีผู้ให้ความสำราญในช่วงสงครามโลก รูปปั้นนี้สร้างความไม่พอใจอย่างยิ่งให้กับรัฐบาลญี่ปุ่น
รูปปั้นที่มีชื่อว่า “การไถ่โทษชั่วนิรันดร์" ถูกนำมาจัดแสดงในสวนที่เมืองพย็องชัง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาหลีใต้ เจ้าหน้าที่ของสวนกล่าวต่อสื่อมวลชนของเกาหลีใต้ว่า รูปปั้นผู้ชายเป็นสัญลักษณ์ของนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น แสดงความสำนึกผิดต่อสตรีชาวเกาหลีที่ถูกบังคับให้เป็นนางบำเรอให้กับทหารญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลก
ทางสวนได้อธิบายในข่าวประชาสัมพันธ์ในเกาหลีใต้ว่า ศิลปินผู้สร้างสรรค์รูปปั้นนี้ต้องการแสดงถึงบรรดาสตรีผู้ให้ความสำราญที่ควรจะได้รับการไถ่โทษ และหวังว่าญี่ปุ่นจะเผชิญหน้ากับอดีต กล่าวขอโทษอย่างจริงใจ และเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
แต่เมื่อถูกถามจากสื่อของญี่ปุ่น เจ้าของสวนชาวเกาหลีกลับบอกว่า รูปปั้นผู้ชายก็ไม่ได้สื่อถึงนายอาเบะเป็นการเฉพาะ เป็นเพียงสัญลักษณ์ จะเป็นนายอาเบะหรือไม่ก็ได้
รูปปั้นดังกล่าวกลายเป็นประเด็นถกเถียงบนสื่อสังคมออนไลน์ในเกาหลีใต้ ชาวเกาหลีบางคนระบุว่านายอาเบะต้องขอโทษ แต่ก็มีชาวเกาหลีที่แสดงความเห็นว่า ล้ำเส้นเกินไปและยิ่งจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้กับญี่ปุ่นย่ำแย่ลง นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่ชี้ว่าลักษณะการคุกเข่าของรูปปั้นผู้ชายไม่ใช่วิธีแบบคนญี่ปุ่น ที่เท้าทั้ง 2 ต้องราบลงไปกับพื้น ไม่ใช่ตั้งเท้าขึ้น
นายโยชิฮิเดะ ซูงะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้แสดงความไม่พอใจอย่างยิ่งต่อรูปปั้นนี้ เขาระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นยังไม่ได้ยืนยันต่อรายงานที่ว่ารูปปั้นสื่อถึงนายกฯ ญี่ปุ่นหรือไม่ แต่หากเป็นเรื่องจริงก็จะเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศอย่างไม่สามารถยอมรับได้ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้อย่างแน่นอน
รัฐบาลญี่ปุ่นเรียกร้องให้เกาหลีใต้เคารพข้อตกลงทวิภาคีปี 2558 ซึ่งได้คลี่คลายข้อพิพาทว่าด้วยประเด็นหญิงผู้ให้ความสำราญอย่างเป็นที่สิ้นสุดแล้วและไม่อาจรื้อฟื้นได้อีก รัฐบาลญี่ปุ่นจัดสรรเงินทุน 1 พันล้านเยนให้กับเกาหลีใต้ เพื่อยุติความบาดหมางเรื่องสตรีผู้ให้ความสำราญในช่วงสงครามโลก แต่หลังจากเกาหลีใต้เปลี่ยนรัฐบาลในปี 2561 ก็ได้ยุบมูลนิธิที่ดูแลกองทุนดังกล่าว และประธานาธิบดีมุนแจอินของเกาหลีใต้ประกาศว่าจะคืนเงินให้กับญี่ปุ่น.