xs
xsm
sm
md
lg

ปรมาจารย์แห่งความลึกลับของฆาตกรรมปริศนา ตอนที่ 28 หลักฐานมัดตัว(อวสาน)

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จากบทประพันธ์ของ Ango Sakaguchi (1906-1955)
แปลและเรียบเรียงโดย ฉวีวงศ์

สงครามเพิ่งสงบ สังคมนครหลวงสมัยโชวะพยายามดิ้นรนกลับสู่ยุคทองในอดีตที่ไม่ใช่ว่าไกลโพ้น
ไม่เคยมีเสียดีกว่า ต้องสูญเสียไปแล้วอยากได้คืน...

ความเดิมของตอนที่ 27
...ผมคิดผิด ผมตามติดคุณปิก้าเพราะเชื่อว่าจะจับเขาได้ตอนลงมือฆ่าครั้งต่อไป อีกฝ่ายคงจะจับความคิดตื้น ๆ ของผมได้จึงวางอุบายอย่างแยบยลอีกครั้งคือคุณปิก้าแอบนัดคุณนายอากิโกะไปพบที่น้ำตกบนภูเขามิวะ ส่วนคุณนายอากิโกะทำเป็นไปแช่น้ำแร่ร้อนที่อนเซ็น ขากลับคุณนายใช้ทางลัดที่คุณปิก้าใช้ตอนไปฆ่าคุณชิงูซะ วิ่งไปปรากฏตัวที่น้ำตก เมื่อพบกับคุณนายอากิโกะที่ไปรอคุณปิก้าอยู่ตามนัด คุณนายอายากะก็ทำทีไม่รู้เรื่องอะไรชวนกันเดินเล่น และพอคุณนายอากิโกะเผลอตัวเธอก็ผลักตกลงไปจมน้ำตายในแอ่งน้ำตก เสร็จแล้ววิ่งย้อนกลับไปตามทางลัดมาโผล่ที่ทางสายหลัก เดินกลับคฤหาสน์ผ่านป่าต้นบูนะทำเป็นว่ากลับมาจากอนเซ็น ผมคิดว่าเรื่องมันเป็นอย่างนี้แหละครับ”

ดอกเตอร์โคเซถอดรหัสคดีฆาตกรรมไม่ต่อเนื่องออกเป็นเปราะ ๆ จนเกือบไม่เหลืออะไรให้คนฟังสันนิษฐานต่อไป ผมฟังแล้วอดคล้อยตามเห็นเป็นจริงเป็นจังไปด้วยไม่ได้ แต่นายปิก้ายังหน้าเฉยเป็นทองไม่รู้ร้อน และคุณนายอายากะก็ยังทำหน้าเหมือนเด็กไร้เดียงสานั่งฟังอยู่เงียบ ๆ ไม่เห็นมีทีท่าว่าจะลุกขึ้นมาคัดค้านโต้แย้งแต่อย่างใด พวกเราในห้องต่างคล้อยตามคำสันนิษฐานรูปคดีของดอกเตอร์ และในเวลาเดียวกันก็ไม่เข้าใจว่าหญิงชายสองคนที่ถูกกล่าวหาว่าสมรู้ร่วมคิดกันเป็นฆาตกรนั่งสงบเฉยอยู่ได้ยังไง

บางทีอาจเป็นเพราะเห็นว่าการสันนิษฐานรูปคดีไม่ว่าจะคดีใดก็ตามของดอกเตอร์นั้นยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งคงไม่ต้องบอกว่าสิ่งสำคัญที่สุดอยู่ที่ว่าดอกเตอร์ยังไม่มีหลักฐานที่จะมามัดตัวคนทั้งสองได้

แต่ดอกเตอร์โคเซก็ไม่ได้แสดงว่าหวั่นวิตกกับเรื่องนี้ ยังคงพูดด้วยเสียงเนิบ ๆ ตามแบบของเขาต่อไป

“เอาละครับ ทีนี้เราก็จะมาถึงฆาตกรรมรายสุดท้ายกันเสียที ถ้าหมอเอบิสึกะกับนางพยาบาลโมโรอิไม่มีเรื่องแบบนั้น กันขึ้นมาฆาตกรทั้งสองก็คงจะใช้สองคนนั่นให้เป็นประโยชน์ได้ เรื่องมันมีอยู่ว่า ความจริงแล้วก่อนหน้าที่ท่านทามอนจะเสียชีวิตและก่อนที่พ่อเฒ่าคาตากูระจะเปิดเผยความลับของตระกูล คุณคาซูมะที่เป็นทายาทแท้ ๆ ยังไม่รู้เลยว่าหมอ เอบิสึกะเป็นหลานปู่ของท่านทามอน และฆาตกรทั้งสองก็ไม่รู้มาก่อน การรู้เบื้องหลังของหมอเอบิสึกะอย่างไม่คาดฝันเช่นนั้นทำให้ทั้งสองเล็งเห็นประโยชน์อย่างมาก ซึ่งถ้าหมอไม่เกิดอาการคลั่งเป็นบ้าขึ้นมา ผลสุดท้ายคงถูกสองคนนี้จัดฉากให้รับบทสำคัญที่สุดคือเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่าคุณคาซูมะ ซึ่งเป็นตอนสุดท้ายของคดีฆาตกรรมไม่ต่อเนื่องชุดนี้

จะว่าเป็นความโชคดีในโชคร้ายก็ได้ เพราะหมอเกิดบ้าคลั่งอาละวาดเอากับนางพยาบาลโมโรอิจนได้รับบาดเจ็บ และถูกตำรวจจับไปขังไว้จึงรอดไปได้ และฆาตกรทั้งสองจึงต้องกลับไปใช้แผนฆาตกรรมที่วางไว้แต่เดิม คือจัดฉากให้ดูเป็นว่าคุณคาซูมะฆ่าตัวตาย ผมยังไม่เห็นพื้นที่เกิดเหตุฆาตกรรมคุณคาซูมะด้วยการวางยาพิษ ได้แต่ฟังเรื่องราวจากตำรวจเท่านั้น แต่คดีนี้ผมคาดเอาไว้สิบวันก่อนหน้านี้แล้วว่าจะต้องเกิดขึ้น และการสันนิษฐานคดีนี้ก็จะต้องถูกต้องตามความเป็นจริงเช่นเดียวกับคดีอื่นที่ผมบรรยายให้ทุกท่านฟังมาแล้ว

ผมสันนิษฐานว่า คุณอาซูมะคงจะนอนไม่หลับและกระสับกระส่ายอยู่จนรุ่งสางของวันนี้ เพราะหวาดกังวลกับกระดาษที่ติดอยู่บนเสาในห้องใหญ่เมื่อคืนวาน คุณอาซูมะสบายใจแล้วว่าจะไม่เกิดอันตรายใด ๆ ขึ้นอีกแล้วในเมื่อหมอเอบิสึกะถูกตำรวจจับไปขังไว้แล้วอย่างนั้น จนกระทั่งเห็นกระดาษแผ่นนั้น ผมเห็นใจเลยว่าเขาจะต้องตื่นตระหนกอย่างที่สุด ทีนี้พอเห็นสามีนอนไม่หลับเพราะความหวาดกังวลจนรุ่งสาง คุณนายอายากะก็แนะนำให้กินยานอนหลับ

ถ้าให้คุณคาซูมะกินยาไซนาไนต์ไปก็พอให้ใคร ๆ เข้าใจได้แล้วว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่แค่นั้นจะไม่มีหลักฐานอะไรที่แสดงว่าที่คุณคาซูมะฆ่าตัวตายนั้นเพราะตนเป็นฆาตกรตัวจริงไม่อยากอยู่ให้ต้องรับโทษตามกฎหมายบ้านเมือง ดังนั้นคุณนาย อายากะก็ต้องจัดละครอีกฉากหนึ่ง เป็นฉากต่อสู้ขัดขืนสามีที่พยายามฆ่าเธอและจะฆ่าตัวตายตาม ยอมเจ็บตัวด้วยการกัดลิ้นตัวเองจนเลือดออกเพื่อให้สมบทบาท แสดงให้เห็นว่าคุณคาซูมะหมดหนทางที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป และเป็นการสารภาพให้โลกรู้ว่าเขาเป็นฆาตกรตัวจริง และแล้วแผนสังหารที่วางเอาไว้เมื่อสิบเดือนก่อนก็จบลงอย่างงดงาม”
ปิก้ายังนิ่งเงียบไม่ถามหรือว่าโต้แย้งอะไร ทำหน้าเย้ยหยันคล้ายกับว่าไม่จำเป็นที่จะต้องเสวนากับคนที่พูดอะไรไร้สาระเช่นนั้น และเป็นธรรมดาที่คนอย่างดอกเตอร์โคเซจะต้องมีกลยุทธ์ ที่จะมาท้าทาย โจมตี และขมวดปมเป็นจุดจบให้ฆาตกรดิ้นไม่หลุด และแล้วดอกเตอร์ก็ทิ้งทวนด้วยเสียงเนิบนาบตามเดิม

“ผมเดินทางเข้าโตเกียว หลังแต่งงานคุณนายอายากะจะเข้าโตเกียวเดือนละครั้งหรือสองครั้งเป็นประจำ ทุกครั้งคุณนายจะไปกับคุณคาซูมะ แต่ระหว่างอยู่โตเกียวทั้งสองไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอไป คุณปิก้าจิตรกรเอกกับคุณนายอายากะเห็นว่าการส่งจดหมายไปมาถึงกันนั้นเป็นการเสี่ยงอันตรายเกินไป จึงนัดเจอกันไม่ที่ใดก็ที่หนึ่งเป็นประจำ การวางแผนฆ่าอย่างรอบคอบและละเอียดลออทุกขั้นตอนเช่นนี้ จำเป็นต้องมีการนัดหมายวางโครงร่างของแผนอย่างแยบยล และมีมาตรการรองรับทุกสถานการณ์เอาไว้ล่วงหน้า ทั้งสองจึงต้องนัดพบเพื่อหารือกันบ่อยครั้งมาก

ดังนั้น ทุกครั้งที่เข้าโตเกียวทั้งสองจึงนัดพบกันที่ไหนสักแห่ง เวลาเข้าโตเกียวคุณคาซูมะกับคุณนายอายากะจะไปพักที่บ้านของครอบครัวสึโบเฮ ผมคุยกับสามีภรรยาร้านสึโบเฮได้ความว่า คุณนายอายากะออกไปไหน ๆ คนเดียวแต่กลับมาพักที่บ้านทุกวัน ไม่เคยไปพักที่อื่นคนเดียวแม้แต่ครั้งเดียว ดังนั้นผมจึงแน่ใจว่าทั้งสองน่าจะนัดพบกันในโตเกียวหรือบริเวณใกล้เคียง ไม่ออกไปไกลนัก

ผมเอารูปถ่ายของคุณปิก้ากับคุณนายอายากะติดตัวเข้าโตเกียวด้วย เอาไปอัดเพิ่มและแจกจ่ายให้เพื่อประมาณ 30 คน ขอให้ช่วยกันสืบอย่างถี่ยิบเหมือนไล่บี้ตัวหมัด ตามโรงเตี๊ยม โรงแรม ร้านอาหาร ในโตเกียวและเมืองรอบ ๆ คือ โยโกฮามะ อูราวะ โอมิยะ ชิบะ ไปจนถึงฮาจิโอจิ

ในที่สุดเราก็พบรังรักของคนทั้งสอง ซึ่งก็คือโรงเตี๊ยมที่เหลือรอดไฟไหม้ใหญ่มาได้อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากใจกลางโตเกียว ทั้งสองจะมาพบและอยู่กันเงียบ ๆ ที่นี่ราวครึ่งวันเดือนละครั้งหรือสองครั้ง เมื่อเช้านี้เพื่อนผมพาคุณนายเจ้าของโรงเตี๊ยมกับหญิงรับใช้ขึ้นรถไฟเที่ยวแรกออกจากโตเกียวตะวันออกมาแล้ว กะว่าจะถึงที่นี่ประมาณห้าโมงเย็น”

ดอกเตอร์โคเซว่าพลางหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากกระเป๋าแล้วบอกว่า

“นี่คือโทรเลขที่ผมเพิ่งได้รับจากเพื่อนเดี๋ยวนี้เอง แจ้งมาว่าได้ขึ้นรถไฟเที่ยวเช้ามุ่งมาที่นี่แล้ว”

ดอกเตอร์คลี่กระดาษแผ่นนั้นลงบนโต๊ะ แล้วเริ่มอ่านด้วยเสียงเรียบ ๆ

“คุณนายเซมิมารุกับสาวใช้ ขึ้นรถเที่ยวแรกเมื่อเช้านี้มาแล้วตามกำหนด”

ดอกเตอร์พึมพำกับ “เซมิมารุ เซมิมารุ คือชื่อของโรงเตี๊ยมครับ”

ปิก้ายังนิ่งเฉยสีหน้าไม่เปลี่ยนแม้แต่นิดเดียว

ทันใดนั้นเอง มีเสียงเก้าอี้ล้มดังโครมมาจากทางผนังห้องด้านหนึ่ง ตำรวจสายสืบหลายคนกรูกันเข้าไปที่ต้นเสียง ผมมองตามไปก็เห็นคุณนายอายากะยืนโงนเงน เอามือสองข้างตะกุยตะกายตรงหน้าอก และไม่ทันที่ตำรวจจะเข้าไปประคองคุณนายก็ล้มลงไปกับพื้นห้องแล้วตะเกียกตะกายเพื่อคืบไปข้างหน้า แต่ไปได้เพียงสองสามคืบก็แน่นิ่งไป

แพทย์ที่อยู่ในกลุ่มตำรวจสายสืบรีบเข้าไปตรวจอาการ หลายคนเข้าไปช่วยปฐมพยาบาลฉุกเฉินช่วยหายใจ แต่ไม่นานก็ยืนขึ้นอย่างหมดหวัง

ผมหันกลับมาทางนายปิก้า ก็เห็นตำรวจสายสืบห้าคนเข้าไปประกบตัวเขาซ้ายขวาและข้างหลัง สองคนยึดแขนเขาไว้คนละข้าง นายปิก้าลุกขึ้นยืนมองข้ามโต๊ะกินข้าวไปทางที่คุณนายล้มลงไป แต่คงเห็นได้เพียงเล็กน้อยเป็นบางส่วน เขาจ้องเขม็งมาที่ผมและสารวัตรเหยี่ยว

“ขอไปหาหล่อนหน่อย หา...อายากะ”

สารวัตรเหยี่ยวทำหน้ายุ่งยากจ้องมองมาโดยไม่พูดอะไร

“สารวัตรเหยี่ยว ไม่เข้าใจรึ ฉันบอกว่าอยากไปหาหล่อน อยากไปหาอายากะ ปิก้าศัตรูของหล่อนคนนี้แหละ ไม่เข้าใจหรือไง ฉันจะไปที่หล่อนแล้วบอกให้รู้กันเสียให้ทั่ว ว่าฉันกับอายากะเป็นฆาตกร ไม่ได้หรือไง”

สารวัตรเหยี่ยวพยักหน้าเครียด ๆ

“ปล่อยแขนฉันได้แล้ว ให้ฉันได้เป็นอิสระเถอะ ครั้งสุดท้ายก็ยังดี”

ปิกาสลัดแขนออกจากการเกาะกุม เดินอาด ๆ อ้อมโต๊ะไปและพอผ่านหลังดอกเตอร์ เขาก็ลูบหัวเบา ๆ แล้วบอกว่า

“เก่งมากนะนักสืบน้อย สมควรได้รับรางวัลนี่นะ”

ปิก้าทำท่าใหญ่โตพูดข่มดอกเตอร์ แล้วตรงไปคุกเข่าลงตรงหน้าร่างไร้วิญญาณของคุณนายอายากะ จับมือเธอขึ้นมาพร้อมกับจ้องอย่างเพ่งพิศไปที่ใบหน้าคุณนายอยู่นานหลายนาที แล้วจึงเงยหน้าขึ้นพูดลอย ๆ ว่า

“บ้าแท้ ๆ ไม่เห็นจำเป็นต้องตาย ถึงคนที่เขาบอกว่าเป็นคุณนายโรงเตี๊ยมกับสาวใช้จะมาก็ไม่เห็นจะแปลก น่าจะเชื่อสติปัญญาของคนอย่างฉันบ้างว่ากะไอ้แค่พยานลม ๆ แล้ง ๆ แบบนั้นเขี่ยนิดเดียวก็กระเด็น ทำไมถึงหุนหันพลันแล่นอย่างนี้ แต่ก็มาถึงขั้นนี้แล้วก็ช่วยไม่ได้ การฆ่าตัวตายเป็นการสารภาพว่าเป็นฆาตกรไงล่ะ ก็ได้...ด้วยความรักและความซื่อสัตย์ที่มีต่อเธอ ปิก้าอิจิคนดีคนนี้ จะรับสารภาพว่าเป็นฆาตกรตามไปกับเธอ อาเมน”

ปิก้าจับมือทั้งสองของคุณนายอายากะมากุมไว้ พร้อมกับยกขึ้นจุมพิตนิ่งนาน เป็นภาพที่สะท้อนความรันทดสุดใจของปิก้าจิตรกรปากกล้าจอมอาละวาด

ปิก้าปล่อยมือของคุณนายอายากะลงแล้วล้มฟุบลงไป และนั่นคือวาระสุดท้ายของโดอิ โคอิจิ หรือปิก้าของทุกคน

จบบริบูรณ์


กำลังโหลดความคิดเห็น