สวัสดีครับผม Mr.Leon มาแล้ว ช่วงนี้คงติดตามข่าวสถานการณ์เกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโคโรน่าที่แพร่ระบาดหนักในประเทศจีน และขยายวงกว้างไปอีกหลายๆ ประเทศ นอกจากนี้ยังมีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ และอีกหลายเชื้อโรคที่กลับมาทั้งที่ญี่ปุ่นเอง หรือประเทศอเมริกา อย่างไรก็ตามก็ต้องคอยเฝ้าติดตามสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิดและดูแลตัวเองด้วยครับ เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงโรงพยาบาลที่ญี่ปุ่นเวลาไปหาหมอนั้นบางทีไม่ใช่ว่าจะเข้าไปขอรักษากันได้ง่ายๆ โดยเฉพาะเรื่องการขอให้คุณหมอฉีดยา ปกติแล้วโรงพยาบาลทั่วๆ ไป จะให้ทานยาแต่จะไม่ค่อยฉีดยาให้นัก ไม่ว่าจะฉีดยารักษาโรคทั่วไป จะมีฉีดบ้างแต่ก็น้อยครั้งมากๆ หรือฉีดยาแบบให้วัคซีนก็ตาม ไม่ใช่อยู่ๆ จะขอให้ฉีดก็ได้ฉีดดั่งใจ ขอยากมาก
ที่เห็นยอมฉีดให้ก็คงจะมีแค่วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ซึ่งอาจจะมีการฉีดปีละครั้ง ปกติที่ญี่ปุ่นในช่วงหน้าหนาวโดยเฉพาะเดือนกุมภาพันธ์เป็นเดือนที่มีโรคไข้หวัดใหญ่ระบาดสูงที่สุดในรอบปี ดังนั้นคุณหมอและโรงพยาบาลต่างๆ ก็จะรณรงค์ให้ประชาชนมารับการฉีดวัคซีนกันก่อนล่วงหน้า ประมาณช่วงเดือนพฤศจิกายนปีก่อนหน้า จะมีแค่วัคซีนประเภทนี้จริงๆ ที่โรงพยาบาลยอมฉีดให้ คิดว่าคนในสังคมทั่วไปไม่ค่อยโดนฉีดยาแล้ว คนที่ต้องเดินทางท่องเที่ยวหรือต้องไปทำงานต่างประเทศนานๆ หรือพวก Backpacker (แบ็คแพ็คเกอร์) ที่ควรจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนก่อนเดินทางก็ไม่ค่อยได้รับคำสั่งให้ฉีดเช่นกัน ที่จริงแล้วเรื่องการฉีดวัคซีนก่อนการเดินทางเนี่ยไม่ใช่แค่คนญี่ปุ่นแต่นักเดินทางชาวต่างชาติ หรือตะวันตกก็เตือนกันเยอะ จะมีการเขียนตำหรับตำราคำแนะนำมากมายที่เกี่ยวกับเรื่องของการฉีดวัคซีนก่อนเดินทาง เพื่อเตรียมป้องกันตัวเองก่อนการแบ็คแพ็คเกอร์
เพราะชาวแบ็คแพ็คเกอร์ ต้องดูแลตัวเองให้มาก ไม่ว่าจะเป็นการดูแลตัวเองง่ายๆ ในเบื้องต้น เช่น ใส่ใจสุขภาพ ต้องล้างมืออยู่เสมอ หรือว่าการอยู่ในที่ปลอดโปร่งและสะอาด หรือถ้าใครต้องมีการรับการฉีดยาหรือฉีดวัคซีนก่อนที่จะเดินทาง ก็ต้องขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของแพทย์ เพราะคุณหมอคงต้องวิเคราะห์จากโรคประจำตัวของบุคคลนั้นๆ ดังนั้นควรมีการปรึกษาแพทย์ก่อนซึ่งจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่กระนั้นคุณหมอที่ญี่ปุ่นก็จะไม่ค่อยฉีดยาให้กับคนไข้นักแม้ว่าจะขอร้องว่า ผมไม่สบายหรือผมจะเดินทางอยากขอให้คุณหมอช่วยฉีดวัคซีนป้องกันให้ด้วย แต่คุณหมอก็จะไม่ค่อยฉีดให้อยู่ดี ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ
ตอนที่ผมอายุประมาณยี่สิบต้นๆ ผมมีแผนการไปเที่ยวแบบแบ็คแพ็คเกอร์ที่ประเทศเนปาล และจะไปปีนเขาด้วยจึงไปปรึกษาคุณหมอที่โรงพยาบาลเล็กๆ แถวบ้าน เพื่อขอให้ช่วยฉีดวัคซีนที่จำเป็นให้ ซึ่งตอนนั้นผมอ่านหนังสือแนะนำว่าประเทศแถบที่ผมจะไปนั้นมีความเสี่ยงของโรคอะไรบ้าง เพื่อจะขอให้คุณหมอช่วยตรวจและฉีดวัคซีนให้ก่อน ซึ่งหนังสือที่ชาวแบ็คแพ็คเกอร์แนะนำไว้นั้นบอกไว้หมดว่าจะไปประเทศไหน จะต้องมีการฉีดวัคซีนอะไรป้องกันไว้บ้าง เพราะเขาบอกว่า มีบางวัคซีนที่จำเป็นต้องได้รับก่อนการเดินทางเช่น วัคซีนไข้เหลือง แต่วัคซีนนี้ควรฉีดเมื่อต้องเดินทางไปประเทศแถบแอฟริกา และอเมริกาใต้ ส่วนวัคซีนอื่นๆ ก็เป็นวัคซีนที่แนะนำตามความเหมาะสม ตามการวินิจฉัยของแพทย์ ที่จะพิจารณาจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างประกอบกัน เช่น ประเทศหรือสถานที่ที่จะไป ,เสี่ยงในการติดเชื้อ, ระยะเวลาที่จะไป หรือกิจกรรมที่จะไปทำ เป็นต้น วัคซีนทั่วๆ ไปที่ควรฉีดป้องกันคือ วัคซีนโรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza vaccine) เพราะเป็นโรคที่ทำให้เกิดการติดต่อหรือโรคระบาดแพร่กระจายง่ายรวดเร็ว การได้รับการฉีดวัคซีนก็เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับร่างกายมีภูมิคุ้มกันและช่วยป้องกันและลดความรุนแรงของโรคลง แต่ทว่าคุณหมอก็ไม่ค่อยยอมฉีดให้เลย
แม้ว่าผมพยายามอธิบายชักแม่น้ำทุกสายเพื่อขอฉีดวัคซีนก็ไม่ค่อยเป็นผล คุยตั้งนานจะไม่ยอมฉีดท่าเดียว แต่สุดท้ายก็ยอมฉีดวัคซีนให้ผมหนึ่งเข็มครับคือ วัคซีนป้องกันโรคบาดทะยัก Tetanus vaccine
●วัคซีนป้องกันโรคบาดทะยัก Tetanus vaccine วัคซีนนี้ปกติจะฉีดกันไปแล้วตั้งแต่ช่วงเด็กๆ ใช่ไหมครับและอาจจะฉีดซ้ำหนึ่งเข็มทุกๆ สิบปีก็ได้ ผมกลัวเพราะอ่านมาว่าเป็นโรคที่รุนแรง ถ้าเกิดไปท่องเที่ยวแล้วเกิดเจอเชื้อโรคนี้ก็เสียชีวิตได้เลยทีเดียว คิดว่าทุกท่านคงจะรู้จักโรคบาดทะยักกันแล้วนะครับ บาดทะยักเป็นโรคติดเชื้อ ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชื่อ คลอสทริเดียม เตตตาไน (Clostridium tetani) เชื้อนี้แฝงอยู่ในดิน ในสิ่งแวดล้อม และสามารถเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผล เช่นตะปูตำ มีดบาด แมวข่วน เหล็กบาด ต่างๆ เป็นต้น เมื่อเชื้อบาดทะยักเข้าไปในบาดแผลแล้วจะสร้างสารพิษท็อกซิน ซึ่งสารพิษดังกล่าวจะไปทำปฏิกิริยาต่อเส้นประสาท และลามไปตามเส้นประสาท เข้าสู่ไขสันหลัง และอาจไปถึงก้านสมองได้ โดยอาการเริ่มแรกคือจะปวด เหมือนปวดกล้ามเนื้อ และอาจมีอาการเกร็งของกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย โดยเฉพาะกล้ามเนื้อที่ช่วยหายใจ ทำให้หายใจไม่ได้ และอาจทำให้คนไข้เสียชีวิตได้ บางคนอาจมีอาการทางระบบประสาทอัตโนมัติก็ได้
ใครเคยเล่นเกมพวกอาร์พีจี RPG (Role-playing game)ออนไลน์ หรือเกมที่เล่นตามบทบาท ที่ผู้เล่นสมมุติตัวเองรับบทเป็นตัวละครหนึ่งในเกม ตามกฎกติกาของเกมผ่านการป้อนคำสั่งและเลือกเงื่อนไขต่างๆ จะเห็นว่าเวลาเราต่อสู้แล้วบางทีเราได้เพชรก็ตาม หรือว่าได้รับพิษหรือสารอันตรายแต่ก็อาจจะมีวัคซีนแบบกินยาแล้วก็สามารถหายได้ ฟื้นฟูให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ได้ หรือหาของป่ามาผสมยาเพิ่มเลือด สำหรับใช้ฟื้นฟูพลังชีวิตแบบเร่งด่วนก็ได้ คือในเกมนั้นจะโดนพิษอะไรก็ยังพอสามารถรักษาได้ แต่ว่ายังโรคบาดทะยักหรือโรคระบาดบางโรคในชีวิตจริงนั้น ถ้าเป็นขึ้นมาแล้วเสียชีวิตได้โดยง่าย น่ากลัวของจริง
เพราะความน่ากลัวของโรคบาดทะยักนั้น เขาว่ากันว่าแม้ว่าใช้ชีวิตตามปกติ แต่บังเอิญโชคร้ายไปเจอเชื้อโรคนี้ตอนทำกิจกรรม เช่น ขณะไปเที่ยวปีนเขา , หนาม เสี้ยนที่ตกอยู่ในรองเท้าแล้วเผอิญเสียบเข้าเป็นแผลที่นิ้วเท้า ,เศษซากหรือมูลสัตว์เข้าร่องที่เล็บเท้า เป็นต้น บางครั้งเราก็ไม่ทันระวังว่ารับเชื้อมาจากทางไหน เพราะก็ใช้ชีวิตการทำงานตามปกติ เมื่อเชื้อโรคพัฒนาจนรุนแรงก็คือการเสียชีวิต ตายทันที RPG!
ที่ญี่ปุ่นมีธนบัตรใบละหนึ่งพันเยนรุ่นหนึ่งเป็นรูปภาพเพื่อสดุดี Shibazaburo Kitazato (北里柴三郎 29 มกราคม 1853-13 มิถุนายน 1931) ท่านเป็นคุณหมอด้วย เป็นนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ ศึกษาเกี่ยวกับ bacteriologist ที่ได้รับการยกย่องให้เป็น "บิดาของ bacteriology ของญี่ปุ่น" เพราะมีส่วนร่วมในการพัฒนายาโดยการค้นพบแบคทีเรียป้องกันโรคติดเชื้อ และการวิจัยอีกหลายๆ โรค เช่น โรคเกี่ยวกับสุนัขบ้า, ไข้หวัดใหญ่ และที่มีชื่อเสียงที่สุดคือคิดค้นเซรุ่มป้องกันโรคบาดทะยัก นั่นเอง และในปี 2024 ก็มีแผนการพิมพ์รุ่นใหม่ออกมาซึ่งมีการออกแบบไปแล้วเรียบร้อย
ส่วนอีกวัคซีนที่ผมขอให้คุณหมอฉีดให้คือ วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี แต่ก็ไม่ยอมฉีดให้ เพิ่งมาได้ฉีดก็ที่โรงพยาบาลที่เมืองไทยนี่เอง
●เชื้อไวรัสตับอักเสบ ที่จริงมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด ทั้ง A, B, D, E แต่ที่อยากฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี เพราะ ไวรัสตับอักเสบชนิดบีทำให้ผู้ที่ได้รับเชื้อ มีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะตับอักเสบเรื้อรัง ตับแข็ง และร้ายแรงจนเป็นมะเร็งตับได้ และเมื่อมีการรับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย ส่วนใหญ่จะไม่รู้ตัว เพราะไม่มีอาการป่วยใด ๆ ปรากฏขึ้น บางคนก็แค่มีไข้ หรือปวดเมื่อยเนื้อตัวซึ่งก็อาจคิดว่าไม่ได้เป็นอะไร เป็นเพียงไข้หวัดธรรมดาทั่วไป แต่เชื้อไวรัสนี้จะแฝงและทำให้เกิดโรคอย่างเงียบ ๆ ไวรัสตับอักเสบ บี เป็นดีเอ็นเอไวรัส ซึ่งต้องอาศัยนิวเคลียส ของตับเพื่อพัฒนาเป็นตัวไวรัสที่สมบูรณ์ และกระจายอยู่ในกระแสเลือด แล้วแพร่เชื้อสู่เซลล์อื่น ๆ ซึ่งวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี ประกอบด้วยโปรตีนจากผิวของไวรัส (HBsAg) ซึ่งไม่ทำให้เกิดการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี แต่จะไปกระตุ้นให้เกิดภูมิต้านทานขึ้นในร่างกาย
ตับอักเสบเป็นโรคที่มีความซับซ้อนมากและยากที่จะเข้าใจ ไวรัสตับอักเสบมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อจากอาหารและอื่นๆ อย่างที่บอกไป ดังนั้นต้องระมัดระวังและรักษาสุขลักษณะด้วยครับ ประกันสังคมที่ญี่ปุ่นครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลทั่วไปโดยจะจ่ายให้เราประมาณ 70% ของค่ารักษาพยาบาล แต่ค่าวัคซีนไม่คุ้มครองดังนั้นต้องจ่ายเอง ซึ่งค่าฉีดวัคซีนนี้นั้นคงประมาณ 10,000 บาท ขนาดคนไข้จะจ่ายก็ยังไม่ค่อยยอมฉีดให้เลย ก่อนหน้านี้ตอนที่ผมอยู่ญี่ปุ่นผมอยากฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีมากเลยแต่ว่าไปขอร้องที่ไหนโรงพยาบาลก็ไม่ยอมฉีดให้ ผมมีเพื่อนชาวญี่ปุ่นที่เป็นแบ็คแพ็คเกอร์อีกคนหนึ่ง เขาชอบไปเที่ยวทางโซนยุโรปและเคยอยู่ที่ประเทศสวีเดนค่อนข้างนาน เพื่อนคนนี้เค้าก็จะแนะนำว่าน่าจะมีการฉีดวัคซีนที่ป้องกันโรคเกี่ยวกับตับเอาไว้ก่อนดีที่สุด ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม แต่คุณหมออาจจะไม่อยากฉีดให้เท่าไรนัก
แต่เหตุผลที่ว่าทำไมคุณหมอที่ญี่ปุ่นไม่ค่อยฉีดยาให้ผู้ใหญ่ คิดว่าน่าจะเป็นเพราะปกติไม่ได้ทำ ไม่ชิน ไม่ค่อยมีความถนัดในเรื่องของการฉีดวัคซีน เพราะโดยปกติไม่ได้รักษาโดยการฉีดยาเป็นหลัก ก็เลยไม่ยอมฉีดแล้วก็ส่งไปให้หมอที่ตรวจอายุรกรรมหรือว่าหมอทางหูตาจมูกเป็นคนฉีดวัคซีนให้แทน ซึ่งหมอบางส่วนก็จะไม่ยอมสั่งฉีดยาให้โดยเด็ดขาดที่ญี่ปุ่นเป็นแบบนี้จริงๆ ครับ การฉีดวัคซีนนั้นเรามักคุ้นเคยกับการฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันในเด็ก แต่ในความเป็นจริง เราสามารถฉีดวัคซีนป้องกันโรคหลายชนิดได้ในทุกช่วงอายุครับ
ดังนั้นต้องดูแลตัวเองและสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอครับ เพียงแค่สังเกตให้รวดเร็วว่าเรามีความผิดปกติอะไรหรือไม่ เพราะปัจจุบันนี้โรคภัยต่างๆ ไม่เข้าใครออกใคร มีแนวโน้มที่จะเกี่ยวข้องกับชีวิตของเราทุกคน เมื่อไปพบแพทย์ เราจะรับฟังความคิดเห็นของมืออาชีพ ในเกม RPG โดนคู่อริวางยาพิษเอย, โดนผึ้งพิษต่อย, หรือเกิดสถานะผิดปกติก็ตาม จะสามารถกู้คืนโดยได้ (แม้เสียชีวิตทันทีก็ยังมี Item ที่ช่วยรักษา) แต่โลกแห่งความจริง คือ เสียชีวิตทันที ยังไม่พบ Items ที่จะกู้คืนใดๆ วันนี้สวัสดีครับ
ที่เห็นยอมฉีดให้ก็คงจะมีแค่วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ซึ่งอาจจะมีการฉีดปีละครั้ง ปกติที่ญี่ปุ่นในช่วงหน้าหนาวโดยเฉพาะเดือนกุมภาพันธ์เป็นเดือนที่มีโรคไข้หวัดใหญ่ระบาดสูงที่สุดในรอบปี ดังนั้นคุณหมอและโรงพยาบาลต่างๆ ก็จะรณรงค์ให้ประชาชนมารับการฉีดวัคซีนกันก่อนล่วงหน้า ประมาณช่วงเดือนพฤศจิกายนปีก่อนหน้า จะมีแค่วัคซีนประเภทนี้จริงๆ ที่โรงพยาบาลยอมฉีดให้ คิดว่าคนในสังคมทั่วไปไม่ค่อยโดนฉีดยาแล้ว คนที่ต้องเดินทางท่องเที่ยวหรือต้องไปทำงานต่างประเทศนานๆ หรือพวก Backpacker (แบ็คแพ็คเกอร์) ที่ควรจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนก่อนเดินทางก็ไม่ค่อยได้รับคำสั่งให้ฉีดเช่นกัน ที่จริงแล้วเรื่องการฉีดวัคซีนก่อนการเดินทางเนี่ยไม่ใช่แค่คนญี่ปุ่นแต่นักเดินทางชาวต่างชาติ หรือตะวันตกก็เตือนกันเยอะ จะมีการเขียนตำหรับตำราคำแนะนำมากมายที่เกี่ยวกับเรื่องของการฉีดวัคซีนก่อนเดินทาง เพื่อเตรียมป้องกันตัวเองก่อนการแบ็คแพ็คเกอร์
เพราะชาวแบ็คแพ็คเกอร์ ต้องดูแลตัวเองให้มาก ไม่ว่าจะเป็นการดูแลตัวเองง่ายๆ ในเบื้องต้น เช่น ใส่ใจสุขภาพ ต้องล้างมืออยู่เสมอ หรือว่าการอยู่ในที่ปลอดโปร่งและสะอาด หรือถ้าใครต้องมีการรับการฉีดยาหรือฉีดวัคซีนก่อนที่จะเดินทาง ก็ต้องขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของแพทย์ เพราะคุณหมอคงต้องวิเคราะห์จากโรคประจำตัวของบุคคลนั้นๆ ดังนั้นควรมีการปรึกษาแพทย์ก่อนซึ่งจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่กระนั้นคุณหมอที่ญี่ปุ่นก็จะไม่ค่อยฉีดยาให้กับคนไข้นักแม้ว่าจะขอร้องว่า ผมไม่สบายหรือผมจะเดินทางอยากขอให้คุณหมอช่วยฉีดวัคซีนป้องกันให้ด้วย แต่คุณหมอก็จะไม่ค่อยฉีดให้อยู่ดี ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ
ตอนที่ผมอายุประมาณยี่สิบต้นๆ ผมมีแผนการไปเที่ยวแบบแบ็คแพ็คเกอร์ที่ประเทศเนปาล และจะไปปีนเขาด้วยจึงไปปรึกษาคุณหมอที่โรงพยาบาลเล็กๆ แถวบ้าน เพื่อขอให้ช่วยฉีดวัคซีนที่จำเป็นให้ ซึ่งตอนนั้นผมอ่านหนังสือแนะนำว่าประเทศแถบที่ผมจะไปนั้นมีความเสี่ยงของโรคอะไรบ้าง เพื่อจะขอให้คุณหมอช่วยตรวจและฉีดวัคซีนให้ก่อน ซึ่งหนังสือที่ชาวแบ็คแพ็คเกอร์แนะนำไว้นั้นบอกไว้หมดว่าจะไปประเทศไหน จะต้องมีการฉีดวัคซีนอะไรป้องกันไว้บ้าง เพราะเขาบอกว่า มีบางวัคซีนที่จำเป็นต้องได้รับก่อนการเดินทางเช่น วัคซีนไข้เหลือง แต่วัคซีนนี้ควรฉีดเมื่อต้องเดินทางไปประเทศแถบแอฟริกา และอเมริกาใต้ ส่วนวัคซีนอื่นๆ ก็เป็นวัคซีนที่แนะนำตามความเหมาะสม ตามการวินิจฉัยของแพทย์ ที่จะพิจารณาจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างประกอบกัน เช่น ประเทศหรือสถานที่ที่จะไป ,เสี่ยงในการติดเชื้อ, ระยะเวลาที่จะไป หรือกิจกรรมที่จะไปทำ เป็นต้น วัคซีนทั่วๆ ไปที่ควรฉีดป้องกันคือ วัคซีนโรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza vaccine) เพราะเป็นโรคที่ทำให้เกิดการติดต่อหรือโรคระบาดแพร่กระจายง่ายรวดเร็ว การได้รับการฉีดวัคซีนก็เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับร่างกายมีภูมิคุ้มกันและช่วยป้องกันและลดความรุนแรงของโรคลง แต่ทว่าคุณหมอก็ไม่ค่อยยอมฉีดให้เลย
แม้ว่าผมพยายามอธิบายชักแม่น้ำทุกสายเพื่อขอฉีดวัคซีนก็ไม่ค่อยเป็นผล คุยตั้งนานจะไม่ยอมฉีดท่าเดียว แต่สุดท้ายก็ยอมฉีดวัคซีนให้ผมหนึ่งเข็มครับคือ วัคซีนป้องกันโรคบาดทะยัก Tetanus vaccine
●วัคซีนป้องกันโรคบาดทะยัก Tetanus vaccine วัคซีนนี้ปกติจะฉีดกันไปแล้วตั้งแต่ช่วงเด็กๆ ใช่ไหมครับและอาจจะฉีดซ้ำหนึ่งเข็มทุกๆ สิบปีก็ได้ ผมกลัวเพราะอ่านมาว่าเป็นโรคที่รุนแรง ถ้าเกิดไปท่องเที่ยวแล้วเกิดเจอเชื้อโรคนี้ก็เสียชีวิตได้เลยทีเดียว คิดว่าทุกท่านคงจะรู้จักโรคบาดทะยักกันแล้วนะครับ บาดทะยักเป็นโรคติดเชื้อ ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชื่อ คลอสทริเดียม เตตตาไน (Clostridium tetani) เชื้อนี้แฝงอยู่ในดิน ในสิ่งแวดล้อม และสามารถเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผล เช่นตะปูตำ มีดบาด แมวข่วน เหล็กบาด ต่างๆ เป็นต้น เมื่อเชื้อบาดทะยักเข้าไปในบาดแผลแล้วจะสร้างสารพิษท็อกซิน ซึ่งสารพิษดังกล่าวจะไปทำปฏิกิริยาต่อเส้นประสาท และลามไปตามเส้นประสาท เข้าสู่ไขสันหลัง และอาจไปถึงก้านสมองได้ โดยอาการเริ่มแรกคือจะปวด เหมือนปวดกล้ามเนื้อ และอาจมีอาการเกร็งของกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย โดยเฉพาะกล้ามเนื้อที่ช่วยหายใจ ทำให้หายใจไม่ได้ และอาจทำให้คนไข้เสียชีวิตได้ บางคนอาจมีอาการทางระบบประสาทอัตโนมัติก็ได้
ใครเคยเล่นเกมพวกอาร์พีจี RPG (Role-playing game)ออนไลน์ หรือเกมที่เล่นตามบทบาท ที่ผู้เล่นสมมุติตัวเองรับบทเป็นตัวละครหนึ่งในเกม ตามกฎกติกาของเกมผ่านการป้อนคำสั่งและเลือกเงื่อนไขต่างๆ จะเห็นว่าเวลาเราต่อสู้แล้วบางทีเราได้เพชรก็ตาม หรือว่าได้รับพิษหรือสารอันตรายแต่ก็อาจจะมีวัคซีนแบบกินยาแล้วก็สามารถหายได้ ฟื้นฟูให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ได้ หรือหาของป่ามาผสมยาเพิ่มเลือด สำหรับใช้ฟื้นฟูพลังชีวิตแบบเร่งด่วนก็ได้ คือในเกมนั้นจะโดนพิษอะไรก็ยังพอสามารถรักษาได้ แต่ว่ายังโรคบาดทะยักหรือโรคระบาดบางโรคในชีวิตจริงนั้น ถ้าเป็นขึ้นมาแล้วเสียชีวิตได้โดยง่าย น่ากลัวของจริง
เพราะความน่ากลัวของโรคบาดทะยักนั้น เขาว่ากันว่าแม้ว่าใช้ชีวิตตามปกติ แต่บังเอิญโชคร้ายไปเจอเชื้อโรคนี้ตอนทำกิจกรรม เช่น ขณะไปเที่ยวปีนเขา , หนาม เสี้ยนที่ตกอยู่ในรองเท้าแล้วเผอิญเสียบเข้าเป็นแผลที่นิ้วเท้า ,เศษซากหรือมูลสัตว์เข้าร่องที่เล็บเท้า เป็นต้น บางครั้งเราก็ไม่ทันระวังว่ารับเชื้อมาจากทางไหน เพราะก็ใช้ชีวิตการทำงานตามปกติ เมื่อเชื้อโรคพัฒนาจนรุนแรงก็คือการเสียชีวิต ตายทันที RPG!
ที่ญี่ปุ่นมีธนบัตรใบละหนึ่งพันเยนรุ่นหนึ่งเป็นรูปภาพเพื่อสดุดี Shibazaburo Kitazato (北里柴三郎 29 มกราคม 1853-13 มิถุนายน 1931) ท่านเป็นคุณหมอด้วย เป็นนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ ศึกษาเกี่ยวกับ bacteriologist ที่ได้รับการยกย่องให้เป็น "บิดาของ bacteriology ของญี่ปุ่น" เพราะมีส่วนร่วมในการพัฒนายาโดยการค้นพบแบคทีเรียป้องกันโรคติดเชื้อ และการวิจัยอีกหลายๆ โรค เช่น โรคเกี่ยวกับสุนัขบ้า, ไข้หวัดใหญ่ และที่มีชื่อเสียงที่สุดคือคิดค้นเซรุ่มป้องกันโรคบาดทะยัก นั่นเอง และในปี 2024 ก็มีแผนการพิมพ์รุ่นใหม่ออกมาซึ่งมีการออกแบบไปแล้วเรียบร้อย
ส่วนอีกวัคซีนที่ผมขอให้คุณหมอฉีดให้คือ วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี แต่ก็ไม่ยอมฉีดให้ เพิ่งมาได้ฉีดก็ที่โรงพยาบาลที่เมืองไทยนี่เอง
●เชื้อไวรัสตับอักเสบ ที่จริงมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด ทั้ง A, B, D, E แต่ที่อยากฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี เพราะ ไวรัสตับอักเสบชนิดบีทำให้ผู้ที่ได้รับเชื้อ มีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะตับอักเสบเรื้อรัง ตับแข็ง และร้ายแรงจนเป็นมะเร็งตับได้ และเมื่อมีการรับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย ส่วนใหญ่จะไม่รู้ตัว เพราะไม่มีอาการป่วยใด ๆ ปรากฏขึ้น บางคนก็แค่มีไข้ หรือปวดเมื่อยเนื้อตัวซึ่งก็อาจคิดว่าไม่ได้เป็นอะไร เป็นเพียงไข้หวัดธรรมดาทั่วไป แต่เชื้อไวรัสนี้จะแฝงและทำให้เกิดโรคอย่างเงียบ ๆ ไวรัสตับอักเสบ บี เป็นดีเอ็นเอไวรัส ซึ่งต้องอาศัยนิวเคลียส ของตับเพื่อพัฒนาเป็นตัวไวรัสที่สมบูรณ์ และกระจายอยู่ในกระแสเลือด แล้วแพร่เชื้อสู่เซลล์อื่น ๆ ซึ่งวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี ประกอบด้วยโปรตีนจากผิวของไวรัส (HBsAg) ซึ่งไม่ทำให้เกิดการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี แต่จะไปกระตุ้นให้เกิดภูมิต้านทานขึ้นในร่างกาย
ตับอักเสบเป็นโรคที่มีความซับซ้อนมากและยากที่จะเข้าใจ ไวรัสตับอักเสบมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อจากอาหารและอื่นๆ อย่างที่บอกไป ดังนั้นต้องระมัดระวังและรักษาสุขลักษณะด้วยครับ ประกันสังคมที่ญี่ปุ่นครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลทั่วไปโดยจะจ่ายให้เราประมาณ 70% ของค่ารักษาพยาบาล แต่ค่าวัคซีนไม่คุ้มครองดังนั้นต้องจ่ายเอง ซึ่งค่าฉีดวัคซีนนี้นั้นคงประมาณ 10,000 บาท ขนาดคนไข้จะจ่ายก็ยังไม่ค่อยยอมฉีดให้เลย ก่อนหน้านี้ตอนที่ผมอยู่ญี่ปุ่นผมอยากฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีมากเลยแต่ว่าไปขอร้องที่ไหนโรงพยาบาลก็ไม่ยอมฉีดให้ ผมมีเพื่อนชาวญี่ปุ่นที่เป็นแบ็คแพ็คเกอร์อีกคนหนึ่ง เขาชอบไปเที่ยวทางโซนยุโรปและเคยอยู่ที่ประเทศสวีเดนค่อนข้างนาน เพื่อนคนนี้เค้าก็จะแนะนำว่าน่าจะมีการฉีดวัคซีนที่ป้องกันโรคเกี่ยวกับตับเอาไว้ก่อนดีที่สุด ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม แต่คุณหมออาจจะไม่อยากฉีดให้เท่าไรนัก
แต่เหตุผลที่ว่าทำไมคุณหมอที่ญี่ปุ่นไม่ค่อยฉีดยาให้ผู้ใหญ่ คิดว่าน่าจะเป็นเพราะปกติไม่ได้ทำ ไม่ชิน ไม่ค่อยมีความถนัดในเรื่องของการฉีดวัคซีน เพราะโดยปกติไม่ได้รักษาโดยการฉีดยาเป็นหลัก ก็เลยไม่ยอมฉีดแล้วก็ส่งไปให้หมอที่ตรวจอายุรกรรมหรือว่าหมอทางหูตาจมูกเป็นคนฉีดวัคซีนให้แทน ซึ่งหมอบางส่วนก็จะไม่ยอมสั่งฉีดยาให้โดยเด็ดขาดที่ญี่ปุ่นเป็นแบบนี้จริงๆ ครับ การฉีดวัคซีนนั้นเรามักคุ้นเคยกับการฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันในเด็ก แต่ในความเป็นจริง เราสามารถฉีดวัคซีนป้องกันโรคหลายชนิดได้ในทุกช่วงอายุครับ
ดังนั้นต้องดูแลตัวเองและสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอครับ เพียงแค่สังเกตให้รวดเร็วว่าเรามีความผิดปกติอะไรหรือไม่ เพราะปัจจุบันนี้โรคภัยต่างๆ ไม่เข้าใครออกใคร มีแนวโน้มที่จะเกี่ยวข้องกับชีวิตของเราทุกคน เมื่อไปพบแพทย์ เราจะรับฟังความคิดเห็นของมืออาชีพ ในเกม RPG โดนคู่อริวางยาพิษเอย, โดนผึ้งพิษต่อย, หรือเกิดสถานะผิดปกติก็ตาม จะสามารถกู้คืนโดยได้ (แม้เสียชีวิตทันทีก็ยังมี Item ที่ช่วยรักษา) แต่โลกแห่งความจริง คือ เสียชีวิตทันที ยังไม่พบ Items ที่จะกู้คืนใดๆ วันนี้สวัสดีครับ
