ศาลญี่ปุ่นออกคำสั่งห้ามชั่วคราวยับยั้งการเดินเครื่องของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 2 เตาที่โรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ทะกะฮะมะ ในจังหวัดฟุกุอิ ทางตอนกลางของญี่ปุ่น หลังจากชาวบ้านยื่นฟ้องต่อศาลเพราะหวั่นเกรงความปลอดภัยจากกัมมันภาพรังสี
หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ซึ่งนำไปสู่วิกฤตรังสีรั่วไหลที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะเมื่อ 5 ปีก่อน รัฐบาลญี่ปุ่นได้สั่งระงับการเดินเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ในโรงไฟฟ้าทั่วประเทศเพื่อตรวจสอบความปลอดภัย หากแต่โรงไฟฟ้าหลายแห่งได้ทยอยกลับมาทำงานอีกครั้ง โดยอ้างว่ามีการเพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัยแล้ว และมีความจำเป็นต้องผลิตไฟฟ้าให้บริการประชาชน
เตาปฏิกรณ์หมายเลข 3 ที่โรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ทะกะฮะมะได้กลับมาเดินเครื่องอีกครั้งเมื่อเดือนมกราคมปีนี้ภายใต้ข้อบังคับใหม่ของรัฐบาล หลังจากนั้นเตาปฏิกรณ์หมายเลข 4 ก็ได้กลับมาเดินเครื่องอีกครั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ทว่าหลังจากนั้น 3 วัน เตาปฏิกรณ์กลับปิดตัวลงอัตโนมัติซึ่งสาเหตุของการปิดตัวลงนั้นกำลังอยู่ระหว่างการสืบสวน
ชาวบ้าน 29 ในจังหวัดชิงะซึ่งใกล้กับโรงไฟฟ้า ได้ยื่นคำร้องให้ศาลออกคำสั่งระงับการเดินเครื่องของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทะกะฮะมะ และในที่สุดศาลก็มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกคำสั่งระงับการทำงานมีขึ้นในขณะที่เตาปฏิกรณ์กำลังเดินเครื่องอยู่
นายโยะชิฮิโกะ ยะมะโมะโตะ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะได้ชี้ถึงจุดอ่อนของมาตรการควบคุมอุบัติเหตุของโรงไฟฟ้าและมาตรการฉุกเฉิน รวมถึงมาตรฐานการทนทานต่อแผ่นดินไหว ผู้พิพากษายังได้แสดงความสงสัยเกี่ยวกับมาตรการเมื่อเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ รวมถึงเกี่ยวกับแผนอพยพ และว่าบริษัทผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้าดังกล่าวยังไม่ได้อธิบายอย่างเพียงพอถึงความปลอดภัยต่อผู้อยู่อาศัย แม้ผู้อยู่อาศัยต้องเผชิญความเสี่ยงสูงก็ตาม
บริษัทพลังไฟฟ้าคันไซ ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ทะกะฮะมะ ได้ออกแถลงการณ์ฉบับหนึ่งระบุว่า เป็นเรื่องน่าเสียใจที่ศาลไม่สามารถเข้าใจถึงข้อโต้แย้ง และว่าคำสั่งห้ามชั่วคราวนี้เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้อย่างสิ้นเชิง
บริษัทพลังไฟฟ้าคันไซแถลงว่า จะหยุดเดินเครื่องเตาปฏิกรณ์ตามคำสั่งศาล ทว่าทางบริษัทจะเร่งยื่นคัดค้าน และพิสูจน์ความปลอดภัยของเตาปฏิกรณ์ เพื่อที่จะให้มีการยกเลิกคำสั่งห้ามโดยเร็วที่สุด.