ผลการสำรวจพบว่าบริษัทในญี่ปุ่นเกือบ 1,900 แห่ง ล้มละลายโดยมองว่าเป็นผลจากเหตุภัยพิบัติแผ่นดินไหว สึนามิ และอุบัติเหตุทางนิวเคลียร์เมื่อ 5 ปีก่อน
สถานีโทรทัศน์ NHK รายงานว่าบริษัทเทโกะกุ เดต้าแบงค์ ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจความน่าเชื่อถือของเอกชน ระบุว่าเหตุภัยพิบัติที่เกิดบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 ทำให้ธุรกิจจำนวน 1,898 แห่ง ล้มละลายโดยธุรกิจเหล่านี้จ้างงานมากกว่า 26,029 คน
ในจำนวนธุรกิจที่ล้มละลายในรอบ 5 ปี มากกว่าครึ่งหรือ 1,080 แห่งไม่ได้ปิดกิจการเพราะความเสียหายจากแผ่นดินไหวและสึนามี แต่ล้มละลายเนื่องจากยอดขายตก เนื่องจากความกังวลของผู้คนเกี่ยวกับการปนเปื้อนกัมมันตรังสีหลังจากอุบัติเหตุที่โรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิชิ ซึ่งเหมือนจะเป็นปัจจัยของการล้มละลายของบางบริษัท
ถึงแม้เหตุภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของญี่ปุ่นจะผ่านไปเกือบ 5 ปีแล้ว แต่ผู้ประสบภัยจำนวนหนึ่งยังไม่สามารถกลับบ้านได้ เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ยังมีปัญหาการปนเปื้อนกัมมันภาพรังสี ขณะที่โรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ ไดอิชิก็ยังเต็มด้วยถังขนาดยักษ์ที่ใช้เก็บน้ำปนเปื้อนรังสี ซึ่งยังไม่รู้จะจัดการอย่างไร.