ผู้เชี่ยวชาญเผย “จุดบอด” ระบบความปลอดภัยชินคันเซน

ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยระบบคมนาคมเผย รถไฟด่วนชินคันเซนยังมีจุดบอดด้านความปลอดภัยซึ่งต้องเร่งแก้ไขด่วน หลังเกิดเหตุชายชาวญี่ปุ่นเผาตัวตายบนรถไฟเมื่อสัปดาห์ก่อน

รัฐมนตรีคมนาคมของญี่ปุ่นได้เรียกประชุมบริษัทรถไฟทุกภูมิภาคของญี่ปุ่น 5 แห่ง เพื่อหารือเรื่องการปรับปรุงมาตรการด้านความปลอดภัย หลังจากเกิดเหตุชายชาวญี่ปุ่นเผาตัวตายบนรถไฟเมื่อวันที่ 30มิถุนายน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 28 ราย

ในที่ประชุม ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า รถไฟชินคันเซนที่มีความเร็วถึง 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้น ถึงแม้จะถูกออกแบบให้มีระบบความปลอดภัยที่เข้มงวด จนไม่เคยเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงเลยตลอดระยะเวลา 50 ปี แต่เหตุการณ์ครั้งล่าสุดนี้ทำให้เห็นว่ารถไฟชินคันเซนยังมีจุดบอดเรื่องความปลอดภัยอยู่

จุดบอดที่ผู้เชี่ยวชาญระบุ เป็นต้นว่า หน้าต่างทุกบานของรถไฟไม่สามารถเปิดได้ และหากเกิดเหตุฉุกเฉินประตูรถจะเปิดออกได้ก็ต่อเมื่อรถหยุดนิ่งแล้วเท่านั้น ซึ่งต้องใช้เวลาหลายนาที

ข้อบกพร่องที่สำคัญอีกอย่างคือ เมื่อรถไฟหยุดเพราะเหตุฉุกเฉิน ระบบไฟฟ้าภายในรถจะถูกตัดทั้งหมด รวมทั้งระบบระบายอากาศ ซึ่งทำให้ผู้โดยสารจำนวนมากต้องบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการสูดดมควันไฟ เหมือนเช่นเหตุครั้งล่าสุดนี้

ในด้านของระบบแจ้งเหตุฉุกเฉิน ในรถรุ่นเก่าเช่นรุ่นที่เกิดเหตุครั้งนี้จะมีปุ่มแจ้งเหตุฉุกเฉินทุกตู้โดยสาร หากแต่ไม่มีอินเตอร์คอมหรือระบบที่ผู้โดยสารสามารถแจ้งให้พนักงานควบคุมรถรู้ว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น เช่นครั้งนี้เมื่อพนักงานมาถึงยังตู้โดยสารที่เกิดเหตุถึงรู้ว่าเกิดไฟไหม้ ทำให้การแก้ไขสถานการณ์ล่าช้าไปอีก

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า “รถไฟชินคันเซนออกแบบให้ป้องกันอุบัติเหตุจากความประมาท แต่ได้มองข้ามเรื่องเหตุร้ายที่เกิดจากเจตนาของมนุษย์ เช่นเหตุการณ์นี้ หรือหากเกิดเหตุวินาศกรรมขึ้น กว่าที่พนักงานควบคุมรถจะมาถึงตู้โดยสารที่เกิดเหตุ ก็อาจจะสายเกินไปแล้ว”

กระทรวงคมนาคมของญี่ปุ่น ยังได้แจ้งให้บริษัทรถไฟทุกแห่งให้เพิ่มระเบียบ "ห้ามนำสารไวไฟทุกชนิดขึ้นไปบนรถไฟชินคันเซน"  เนื่องจากตามกฎระเบียบเดิมตั้งแต่ปีค.ศ. 1987 ได้เปิดช่องให้ผู้โดยสารสามารถนำน้ำมันขึ้นไปบนรถไฟได้ไม่เกิน 3 กิโลกรัม เนื่องจากผู้โดยสารซื้อน้ำมันไปทำความร้อนที่บ้านในฤดูหนาว

สำหรับข้อเสนอที่ให้ ตรวจค้นหรือสแกนสัมภาระของผู้โดยสารก่อนเข้าสู่ขบวนรถไฟนั้น บริษัทรถไฟของญี่ปุ่นเห็นว่าทำได้ยากในทางปฏิบัติ เพราะรถไฟชินคันเซนมีเที่ยวรถจำนวนมาก และออกเดินทางทุก 5-6 นาที ซึ่งหากใช้การตรวจสัมภาระเหมือนเครื่องบินจะทำให้รถไฟต้องล่าช้าออกไปอีกมาก

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของการรถไฟจะสามารถขอตรวจค้นสัมภาระของผู้โดยสารที่ต้องสงสัยได้ นอกจากนี้ยังจะประกาศขอความร่วมมือให้ผู้โดยสาร ให้ช่วยกันสอดส่องบุคคลและวัตถุที่ต้องสงสัยเพื่อป้องกันเหตุร้ายด้วย.
ภาพเหตุการณ์ ชายชาวญี่ปุ่นเผาตัวตายบนรถไฟชินคันเซน