เพื่อนบ้านเผยชายชราวัย 71 ปีที่เผาตัวตายบนรถไฟชินคันเซน อาจเกิดขึ้นเพราะทำงานมาทั้งชีวิต แต่เงินเกษียณอายุไม่พอใช้
ตำรวจญี่ปุ่นเข้าตรวจค้นบ้านพักในกรุงโตเกียวของนายฮารุโอะ ฮายาชิซากิ ชายชราวัย 71 ปี ผู้จุดไฟเผาตัวตายบนรถไฟด่วนชินคันเซนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ตัวเขาเองและผู้โดยสารหญิงอีกคนหนึ่งเสียชีวิตจากการสำลักควันไฟ และมีผู้บาดเจ็บ 26 ราย
เพื่อนบ้านของคุณปู่ฮารุโอะ เล่าว่า ตอนค่ำก่อนวันเกิดเหตุได้เห็นชายชราถือถังขนาด 10 ลิตร และบอกว่าจะไปปั๊มน้ำมัน แต่ชายชราไม่ได้บอกว่าจะไปซื้อน้ำมันมาเพื่อวัตถุประสงค์อะไร
จากการตรวจสอบประวัติพบว่า คุณปู่ฮารุโอะมีชีวิตที่ยากลำบาก ต้องทำงานเป็นคนกวาดถนน และมักจะบ่นกับเพื่อนบ้านเสมอว่าเงินเกษียณอายุไม่พอใช้ โดยบอกว่า “สะสมเงินประกันสังคมมาตั้งหลายปี แต่เงินเกษียณอายุที่ได้กลับมาแค่น้อยนิด ใช้ชีวิตแทบจะไม่รอด”
คุณปู่ฮารุโอะยังเคยเป็นคนเร่ร่อน หาเลี้ยงชีพด้วยการร้องเพลงและทำการแสดงตามร้านอาหาร โดยเพื่อนบ้านหลายคนบอกว่า คุณปู่ฮารุโอะเป็นคนที่อัธยาศัยดี มีน้ำใจกับเพื่อนบ้าน จึงคิดไม่ถึงว่าจะคิดสั้นจบชีวิตตัวเองเช่นนี้
ผู้โดยสารรายหนึ่งที่นั่งอยู่กับกับคุณปู่ฮารุโอะ ได้ให้การกับตำรวจว่า ก่อนจะจุดไฟเผาตัวตาย คุณปู่ฮารุโอะได้ยื่นเงิน 1,000 เยนให้กับเธอ แต่ผู้โดยสารคนดังกล่าวไม่ได้รับเงินไว้ และคาดไม่ถึงว่าจะเป็นเงินติดตัวสุดท้ายก่อนที่ชายชราจะตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง
หลังจากกลิ่นน้ำมันคละคลุ้งไปทั่ว ผู้โดยสารต่างพยายามห้ามคุณปู่ผู้คิดสั้น แต่ชายชรากลับบอกให้ทุกคนรีบหนีไป หลังจากนั้นเขาก็ได้จุดไฟจนลุกท่วมตัว ผู้โดยสารเล่าว่า "ภาพชายชราที่น้ำตาไหล แต่ไม่ปริปากร้องสักคำขณะที่ไฟลุกท่วมร่าง ทำให้เขาฝันร้ายทั้งคืน"
เหตุโศกนาฏกรรมครั้งนี้ไม่เพียงเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญ แต่ยังสร้างความสะเทือนใจให้กับชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก ในโลกออนไลน์ของแดนอาทิตย์อุทัยต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่า ระบบสวัสดิการสังคมของญี่ปุ่นที่เคยถูกยกย่องว่าดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลกนั้น ความจริงแล้วยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ถูกทอดทิ้งไว้เบื้องหลัง นอกจากนี้ สังคมญี่ปุ่นยังมีผู้สูงวัยจำนวนมากที่ยังต้องทำงานหาเลี้ยงชีพในยามชรา เพราะไม่มีลูกหลานคอยดูแล ผู้เฒ่าผู้แก่บางคนเสียชีวิตลงอย่างโดดเดี่ยวโดยไม่มีใครรู้ และอีกหลายคนเลือกที่จะจบชีวิตตัวเอง เพราะไม่อาจจะทนรับปัญหาด้านสุขภาพกายและจิตใจได้.