อาหารจากพื้นที่รังสีรั่วไหลในญี่ปุ่นถูกปลอมฉลากวางขายทั่วไต้หวัน

รัฐบาลไต้หวันสั่งอายัดผลิตภัณฑ์อาหารจากพื้นที่กัมมันภาพรังสีรั่วไหลจากญี่ปุ่น ที่ถูกส่งไปวางจำหน่ายในไต้หวันโดยปลอมแปลงฉลาก ทั้งหมด 283รายการ

สำนักงานอาหารและยาของไต้หวันสั่งอายัดผลิตภัณฑ์อาหารจากญี่ปุ่น 283 รายการ หลังพบว่าอาหารทั้งหมดมาจากพื้นที่กัมมันภาพรังสีรั่วไหลในเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อ 4 ปีที่แล้ว โดยมีทั้งขนมชื่อดัง,ท็อฟฟี่,ชานม, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป,ซอสปรุงรส เป็นต้น

หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อ 11มีนาคม 2011 ซึ่งทำให้เกิดกัมมันภาพรังสีรั่วไหลจากโรงไฟฟ้าฟูกุชิมะ รัฐบาลหลายประเทศ รวมทั้งไต้หวัน ได้สั่งห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์จากพื้นที่ประสบภัย 5จังหวัด คือ ฟูกูชิมะ,อิบารากิ,โทชิกิ,กันมะ และชิบะ

เมื่อวานนี้ สำนักงานอาหารและยาของไต้หวันตรวจพบว่า ผลิตภัณฑ์อาหารจากพื้นที่กัมมันภาพรังสีรั่วไหลจากญี่ปุ่น ถูกส่งไปวางจำหน่ายในไต้หวันโดยปลอมแปลงฉลากแจ้งแหล่งผลิตว่าไม่ได้อยู่ในพื้นที่ต้องห้าม จึงได้สั่งอายัดสินค้าทั้งหมด พร้อมให้นำสินค้าออกจากชั้นวางจำหน่าย

อย่างไรก็ตาม สินค้าดังกล่าวได้ถูกวางจำหน่ายมาแล้วอย่างน้อย 49วัน และถูกกระจายไปในพื้นที่ 8เมือง โดยห้างสรรพสินค้าชื่อดังของไต้หวัน เช่น โซโก้, มิตสุโคชิ, HOLA ต่างมีสินค้าต้องห้ามดังกล่าววางจำหน่าย ขณะนี้ห้างสรรพสินค้าต่างๆได้นำสินค้าออกจากชั้นวางจำหน่ายทั้งหมดแล้ว และให้ผู้บริโภคคืนสินค้าได้จนถึงเดือนพฤษภาคม

รัฐบาลญี่ปุ่นพยายามผลักดันให้ประเทศต่างๆ ยกเลิกมาตรการจำกัดการนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารจากพื้นที่ประสบภัย โดยมีผลพิสูจน์ได้ว่าอาหารจากพื้นที่ประสบภัยไม่มีการปนเปื้อนสารกัมมันภาพรังสีเกินมาตรฐาน ซึ่งนายกรัฐมนตรีชินโซ อะเบะ ผู้นำญี่ปุ่น ก็ได้เรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชาของไทย ในการหารือนอกรอบระหว่างการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ เมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม หลายประเทศยังคงกังวลที่จะยกเลิกมาตรการจำกัดการนำเจ้าผลิตภัณฑ์อาหารจากพื้นที่ประสบภัยของญี่ปุ่น เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญ พบว่า อาหารที่ปนเปื้อนสารกัมมันภาพรังสีจะสะสมในร่างกาย และเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดโรคมะเร็งได้.