เอเจนซีส์ - ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2011 ที่ข้าวซึ่งปลูกในบริเวณฟูกุชิมะไม่พบการตกค้างของสารกัมตภาพรังสีนิวเคลียร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2011 ซึ่งเกิดคลื่นยักษ์สึนามิและเป็นผลทำให้โรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ของเทปโกรั่ว และเกิดการรั่วไหลของสารปนเปื้อนออกไปยังบริเวณใกล้เคียง
RT สื่อรัสเซียรายงานวันนี้(5)ว่า มีรายงานว่า ข้าวที่เก็บเกี่ยวจากนาข้าวในฟูกุชิมะในปี 2014 ที่มีจำนวนราว 360,000 ตันถูกตรวจสอบเพื่อหาสารปนเปื้อนนิวเคลียร์ตกค้าง และถือเป็นครั้งแรกที่พบว่า ข้าวจากฟูกุชิมะมีความปลอดภัยตามารตฐานญี่ปุ่นซึ่งพบการปนเปื้อนต่ำกว่า 100 เบ็กเคอเรล ต่อ กก. “จากความจริงที่ว่าข้าวไม่ผ่านมาตรฐานการตรวจสอบคุณภาพหาการปนเปื้อนนั้นลดลงเรื่อย 3ปีล่าสุด ซึ่งชี้ว่า ทางเรานั้นมาถูกทางแล้ว” ซึเนอากิ อูนามะ (Tsuneaki Oonam )หัวหน้าแผนกดูแลด้านการเกษตรของฟูกุชิมะให้ความเห็น
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นญี่ปุ่นเริ่มทดสอบข้าวที่ปลูกในแปลงนาฟูกูชิมะตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา ถึงแม้ว่าจำนวนผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้ในปีที่ผ่านมาจะไม่มากนัก โดยมีการทดสอบมากกว่า 190 ตัวอย่างทั่วแปลงนาในเขตฟูกุชิมะเพื่อต้องการให้มั่นใจว่าข้าวที่ผลิตนั้นจะเป็นไปตามาตรฐานความปลอดภัยญี่ปุ่นที่กำหนดไว้
ใน 2ปีล่าสุด มีการตรวจสอบข้าวจำนวน 10ล้านถุงประจำปี ซึ่งในปี 2012 พบว่า มีข้าวถึง 71 ถุงพบการปนเปื้อนเกินกำหนดความปลอดภัย ในขณะที่ปี 2013 พบการปนเปื้อนลดลงเหลือแค่ 28 ถุง อาซาฮี ชิมบุน รายงาน และเพิ่มเติมว่า ชาวนาฟูกุชิมะประสบความสำเร็จในการทดลองเปลี่ยนสูตรปุ๋ย และทำให้ต้นข้าวในแปลงนาไม่ดูดซึมกัมมันตภาพรังสีซีเซียม
และข้าวที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยอาหารแห่งชาติจะได้รับการประกาศรับรองบนฉลากปิด ส่วนข้าวถุงที่ไม่ผ่านการตรวจสอบจะถูกทำลาย ถึงแม้ข้าวฟูกุชิมะจะผ่านการทดสอบ แต่ทว่าทางเมืองจะยังดำเนินการตรวจสอบคุณภาพข้าวอย่างต่อเนื่อง
ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่นเริ่มส่งออกข้าวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดเหตุสึนามิในปี 2011 โดยข้าวล็อตแรกจำนวน 300 กก.ถูกส่งไปยังสิงคโปร์ และในปีที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่นเริ่มส่งออกผลไม้อีกครั้ง ในขณะที่แอปเปิลและพีชที่ปลูกในฟูกุชิมะนั้นถูกส่งมาขายในไทยตั้งแต่ปี 2012 ทั้งนี้อาซาฮีชิมบุนที่ตีพิมพ์ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2013 รายงานว่าผลไม้ฟูกุชิมะถูกส่งไปขายที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ 4 แห่งในไทย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าที่มีฐานะสามารถจับจ่ายราคาลูกพีชราคาลูกละ 800 เยน หรือ และแอปเปิลราคาลูกละ 300 เยนได้
นอกจานี้ยังพบว่าผลไม้จากฟูกุมมะได้เริ่มส่งออกไปขายในมาเลเซียในปี 2013ด้วยเช่นกัน โดยพบว่าผลไม้จำนวน 2.5 ตันที่ประกอบไปด้วย ลูกแพร์ 250กก. และองุ่นอีก 80กก.ถูกส่งไปยังกรุงเทพฯและกัวลาลัมเปอร์ในเดือนสิงหาคมและกันยายนในปีนั้น และสามารถจัดจำหน่ายหมดในห้างสรรพสินค้าของเมืองหลวงในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของทั้งสองประเทศ
“ถึงแม้จะมีรายงานข่าวสารปนเปื้อนของน้ำในฟูกุชิมะ แต่ในปีที่ผ่านมา ลูกค้าชาวไทยต่างกลับมาซื้อยกกล่องหลังได้ลิ้มรสชาติความอร่อยของผลไม้ของเรา” ยูซูเกะ คิมูระ (Yusuke Kimura) ตัวแทนแผนกการขายของเมืองฟูกูชิมะที่ได้เข้าร่วมการจำหน่ายสินค้าในกรุงเทพฯในฤดูใบไม้ร่วงในปี 2013 กล่าว
