xs
xsm
sm
md
lg

Green Vision : ซีพีเอฟ ก้าวนำเสริมสร้าง “ธุรกิจแบบคาร์บอนต่ำ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โลกร้อนนั้นก่อผลกระทบต่อทั้งสภาพภูมิอากาศ ความเป็นอยู่ และภาวะเศรษฐกิจ คาดว่าในปี 2020 ประชากรโลกจะมากถึง 9 พันล้านคน ทำให้มีความต้องการอาหารที่มากขึ้น ขณะเดียวกันภาคการผลิตก็จะต้องผลิตในปริมาณเพิ่มขึ้นกว่า 50% มีความต้องการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นกว่า 44% เมื่อเทียบกับปัจจุบัน
ก่อนหน้าที่จะดำเนินโครงการ “คาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร” ซีพีเอฟ ยึดหลักตามพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม ต่อมาได้ริเริ่มด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมขององค์กร (corporate social responsibility หรือ CSR) จากที่ผ่านมาซีพีเอฟได้ดำเนินการผ่านโครงการต่างๆ โดยยึดการบริหารจัดการและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม , การพัฒนาสังคมให้เข็มแข็ง และความปลอดภัยและสุขอนามัยของอาหาร ภายใต้ยุทธศาสตร์ 3 เสาหลัก คือ อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน และดินน้ำป่าคงอยู่ อย่างเข้มข้นพร้อมติดตามผลอย่างต่อเนื่อง
สำหรับโครงการ “คาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร” (Carbon Footprint for Organization : CFO) ได้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งในสิ้นปีนี้คาดว่าจะสามารถดำเนินการครอบคลุมทุกหน่วยงานพร้อมเผยผลดำเนินการได้ เรียกว่าเป็นแนวทางปรับตัวสู่การดำเนินธุรกิจแบบคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Economy) ซึ่งในอนาคต ตั้งเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอน 20% ทั้งองค์กรในปี 2020
“คาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร” ซีพีเอฟเริ่มต้นจาก “ผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์” เป็นอันดับแรกผ่าน“โครงการผลิตภัณฑ์ ซีพีเอฟ ที่ยั่งยืน (CPF’s Product Sustainability)” โดยมีการพัฒนาและออกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าที่ประกอบด้วยมิติสำคัญ 4 ด้าน คือ คุณภาพและความปลอดภัยอาหาร (Quality/Food Safety) เศรษฐกิจ (Economic) สิ่งแวดล้อม (Environmental) และสังคม (Social)
ปัจจุบันบริษัทออกสินค้าถึง 144 รายการติดฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ซึ่งลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 7 - 10 % โดยการดูแลกระบวนการผลิตทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นน้ำไปสู่สู่ปลายน้ำ
ซึ่งปัจจุบันเราค้นคว้านวัตกรรมเพื่อทดแทนพลังงานแล้ว 3 ประเภท ได้แก่ ไบโอแก๊ส (Biogass) ทดแทนน้ำมันเตา ในโรงงานของซีพีเอฟ อาทิ โรงงานอาหารแปรรูป มีนบุรี ใน1ปีสามารถลดปริมาณการใช้น้ำมันเตาประมาณ 260,000 ลิตร ขจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 15,000 ตัน , ไบโอดีเซล (Biodiesel) , โซลาร์เซลล์ (Solar Cell) ใช้พลังงานความร้อนจากดวงอาทิตย์ทดแทนพลังงาน , ลดพลังงานไฟฟ้าจากหลอด LED ประหยัดค่าไฟฟ้า อายุใช้งานยาว และอีกหลายวิธีที่เรากำลังมุ่งมั่นพัฒนาต่อไป
ที่ผ่านมาซีพีเอฟได้การรับรองมาตรฐาน pro-sustain ของ ประเทศนอร์เวย์เป็น World class Certificate จาก Third Party แถมยังเป็นผู้ผลิตอาหารรายแรกของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่ได้รับรางวัล ภายใต้ตราสินค้าซีพี เพื่อส่งมอบคุณภาพความปลอดภัยอาหาร รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างยั่งยืน
ความสำเร็จที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นดังกล่าว ในปีนี้ได้รับรางวัล CDP Hong Kong and South East Asia Climate Leadership Awards 2014 สาขา BEST YEAR-ON-YEAR DISCLOSER CHANGE จาก CARBON DISCLOSER PROJECT (CDP) รางวัล CDP Hong Kong and South East Asia Climate Leadership Awards 2014 สาขา BEST YEAP-ON-YAER DISLOSER CHANGE จาก CARBON DISCLOSER PROJECT (CDP) ซึ่งเป็นองค์กรระดับโลกที่รับผิดชอบต่อการลดก๊าซเรือนกระจก ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนสภาพภูมิอากาศ โดยซีพีเอฟเป็นบริษัทที่มีการพัฒนาด้านก๊าซเรือนกระจกยอดเยี่ยม และเป็น 1 ใน 7 บรึษัทในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับรางวัลในปีนี้
และล่าสุดยังได้รับฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของเกาหลีเป็นรายแรกและรายเดียวของไทย จากผลิตภัณฑ์ Frozen Hot & Spicy Chicken Strip ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของซีพีเอฟที่วางจำหน่ายในเกาหลีได้รับใบรับรองฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของสาธรณรัฐเกาหลี จากสถาบันด้านอุตสาหกรรมสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยีแห่งชาติเกาหลี (Korea Environment Industry and Technology Institute :KEITI) ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี ภายใต้โครงการแลกเปลี่ยนการติดฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ระหว่างประเทศไทยโดย องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก และสาธารณรัฐเกาหลี

“ปัจจุบันบริษัทออกสินค้าถึง 144 รายการติดฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ซึ่งลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 7 - 10 % โดยการดูแลกระบวนการผลิตทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นน้ำไปสู่สู่ปลายน้ำ”

กุหลาบ กิมศรี

ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สำนักระบบมาตรฐานสากล
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)

กำลังโหลดความคิดเห็น