เด็กทั่วโลกขาดสารอาหารกว่า 300 ล้านคน ขณะที่ผู้ใหญ่ทั่วโลกมีภาวะอ้วนกว่า 500 ล้านคน เสี่ยงโรคเรื้อรังถามหา ใช้เงิน 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ดูแล WHO - FAO จัดประชุมแก้ไขปัญหาโภชนาการ “หมอรัชตะ” เตรียมบินเข้าร่วม 19 - 21 พ.ย.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เตรียมที่จะเดินทางไปร่วมการประชุมนานาชาติว่าด้วยการแก้ไขปัญหาภาวะโภชนาการของโลกครั้งที่ 2 เรื่อง “โภชนาการที่ดีขึ้นเพื่อชีวิตที่ดีกว่า : Better nutrition for better lives” ณ กรุงโรม ประเทศอิตาลี ซึ่งจัดโดยองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) และองค์การอนามัยโลก (WHO) ระหว่างวันที่ 19 - 21 พ.ย. นี้ โดยจะมีรัฐมนตรีและผู้บริหารระดับสูง ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารของกระทรวง ทั้งด้านเกษตรและสาธารณสุขทั่วโลกเข้าร่วมการประชุม เพื่อพิจารณาแนวทางพัฒนานโยบายและกรอบการดำเนินการด้านโภชนาการระดับโลกของช่วงศตวรรษที่ 21 บรรลุเป้าหมายขององค์การสหประชาชาติภายในปี 2568
ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า ขณะนี้ทั่วโลกประสบปัญหาโภชนาการ ทั้งขาดแคลนอาหารและบริโภคเกิน พบว่า ในแต่ละปีจะมีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เสียชีวิตจากการขาดสารอาหารประมาณ 5 ล้านคน ส่วนกลุ่มเด็กวัยก่อนเรียนอายุต่ำกว่า 3 ปี มีภาวะขาดอาหารแบบเฉียบพลันระดับรุนแรงถึง 20 ล้านคน ส่วนใหญ่อยู่ในแอฟริกาและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังมีเด็กที่ขาดสารอาหาร ทำให้ร่างกายเตี้ย น้ำหนักตัวน้อย และซูบผอมรวม 311 ล้านคนทั่วโลก ต้องมีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาปีละ 1 - 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน ยังพบประชากรวัยผู้ใหญ่ทั่วโลกประสบปัญหาอ้วนมากกว่า 500 ล้านคน เกิดจากการใช้ชีวิตไม่สมดุล ในการกินอาหาร และการออกกำลังกาย ถือเป็นระเบิดเวลาของการป่วยจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ที่สำคัญ คือ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ซึ่งเป็นปัญหาทั้งด้านสาธารณสุขและเศรษฐกิจในระดับโลก
ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้จะเน้นการแก้ไขปัญหาในกลุ่มสตรี แม่และเด็ก และเด็กเล็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศยากจน พื้นที่ขาดแคลน เปราะบาง และในภาวะฉุกเฉิน เช่น ภาวะสงคราม และโรคระบาด เช่น อีโบลา โดยจะเน้น 3 ประเด็นหลัก คือ ความปลอดภัยอาหาร คุณค่าโภชนาการ และความมั่นคงทางอาหาร ส่วนประเทศไทยขณะนี้พบว่า จำนวนเด็กขาดสารอาหารลดลง แต่พบเด็กวัยเรียนอ้วนร้อยละ 9.5 และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น โดยรัฐบาลไทยมีนโยบายส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นครัวของโลก เป็นแหล่งผลิตอาหารที่มีความปลอดภัยตลอดห่วงโซ่อาหาร ตั้งแต่แหล่งผลิตจนถึงมือผู้บริโภค โดยมีคณะกรรมการอาหารระดับชาติ เป็นกลไกผลักดันการบูรณาการทำงานเชื่อมโยงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการประชุมครั้งนี้ ไทยพร้อมจะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในเวทีโลก และร่วมกำหนดยุทธศาสตร์กับนานาชาติในการประกาศปฏิญญากรุงโรมเรื่องโภชนาการ พัฒนาแก้ไขปัญหาภาวะโภชนาการของโลก เนื่องจากอาหารเป็น 1 ใน 4 ปัจจัยในการดำรงชีวิต และการมีสุขภาพดีขึ้นอยู่กับอาหารที่บริโภคด้วย
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เตรียมที่จะเดินทางไปร่วมการประชุมนานาชาติว่าด้วยการแก้ไขปัญหาภาวะโภชนาการของโลกครั้งที่ 2 เรื่อง “โภชนาการที่ดีขึ้นเพื่อชีวิตที่ดีกว่า : Better nutrition for better lives” ณ กรุงโรม ประเทศอิตาลี ซึ่งจัดโดยองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) และองค์การอนามัยโลก (WHO) ระหว่างวันที่ 19 - 21 พ.ย. นี้ โดยจะมีรัฐมนตรีและผู้บริหารระดับสูง ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารของกระทรวง ทั้งด้านเกษตรและสาธารณสุขทั่วโลกเข้าร่วมการประชุม เพื่อพิจารณาแนวทางพัฒนานโยบายและกรอบการดำเนินการด้านโภชนาการระดับโลกของช่วงศตวรรษที่ 21 บรรลุเป้าหมายขององค์การสหประชาชาติภายในปี 2568
ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า ขณะนี้ทั่วโลกประสบปัญหาโภชนาการ ทั้งขาดแคลนอาหารและบริโภคเกิน พบว่า ในแต่ละปีจะมีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เสียชีวิตจากการขาดสารอาหารประมาณ 5 ล้านคน ส่วนกลุ่มเด็กวัยก่อนเรียนอายุต่ำกว่า 3 ปี มีภาวะขาดอาหารแบบเฉียบพลันระดับรุนแรงถึง 20 ล้านคน ส่วนใหญ่อยู่ในแอฟริกาและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังมีเด็กที่ขาดสารอาหาร ทำให้ร่างกายเตี้ย น้ำหนักตัวน้อย และซูบผอมรวม 311 ล้านคนทั่วโลก ต้องมีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาปีละ 1 - 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน ยังพบประชากรวัยผู้ใหญ่ทั่วโลกประสบปัญหาอ้วนมากกว่า 500 ล้านคน เกิดจากการใช้ชีวิตไม่สมดุล ในการกินอาหาร และการออกกำลังกาย ถือเป็นระเบิดเวลาของการป่วยจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ที่สำคัญ คือ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ซึ่งเป็นปัญหาทั้งด้านสาธารณสุขและเศรษฐกิจในระดับโลก
ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้จะเน้นการแก้ไขปัญหาในกลุ่มสตรี แม่และเด็ก และเด็กเล็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศยากจน พื้นที่ขาดแคลน เปราะบาง และในภาวะฉุกเฉิน เช่น ภาวะสงคราม และโรคระบาด เช่น อีโบลา โดยจะเน้น 3 ประเด็นหลัก คือ ความปลอดภัยอาหาร คุณค่าโภชนาการ และความมั่นคงทางอาหาร ส่วนประเทศไทยขณะนี้พบว่า จำนวนเด็กขาดสารอาหารลดลง แต่พบเด็กวัยเรียนอ้วนร้อยละ 9.5 และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น โดยรัฐบาลไทยมีนโยบายส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นครัวของโลก เป็นแหล่งผลิตอาหารที่มีความปลอดภัยตลอดห่วงโซ่อาหาร ตั้งแต่แหล่งผลิตจนถึงมือผู้บริโภค โดยมีคณะกรรมการอาหารระดับชาติ เป็นกลไกผลักดันการบูรณาการทำงานเชื่อมโยงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการประชุมครั้งนี้ ไทยพร้อมจะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในเวทีโลก และร่วมกำหนดยุทธศาสตร์กับนานาชาติในการประกาศปฏิญญากรุงโรมเรื่องโภชนาการ พัฒนาแก้ไขปัญหาภาวะโภชนาการของโลก เนื่องจากอาหารเป็น 1 ใน 4 ปัจจัยในการดำรงชีวิต และการมีสุขภาพดีขึ้นอยู่กับอาหารที่บริโภคด้วย
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่