ASTVผู้จัดการรายวัน-เงินเฟ้อม.ค. ติดลบ 0.41% ครั้งแรกในรอบ 5 ปี 4 เดือน “พาณิชย์” ยันไม่ใช่ภาวะเงินฝืด แต่เป็นผลจากราคาน้ำมัน-ค่าเอฟทีลดหนัก เตรียมทบทวนเป้าหมายใหม่มี.ค.นี้ ด้านอาหารทั้งข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยว พุ่งสวนทาง ด้านรัฐมนตรีคลังยันเงินเฟ้อเดือน ม.ค.ติดลบ ไม่กระทบเศรษฐกิจ ส่วนแบงก์ชาติเผยเป็นไปตามคาด หลังราคาน้ำมันปรับลง
นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ (เงินเฟ้อ) เดือนม.ค.58 ว่า เท่ากับ 106.02 ลดลง 0.41% เทียบกับเดือนม.ค.57 ซึ่งเป็นการติดลบครั้งแรกในรอบ 5 ปี 4 เดือน นับตั้งแต่เดือนก.ย.52 ที่เงินเฟ้อติดลบ 1.0% และเมื่อเทียบกับเดือนธ.ค.57 ลดลง 0.59% โดยสาเหตุที่เงินเฟ้อติดลบในรอบ 5 ปี 4 เดือน เป็นผลมาจากดัชนีหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ติดลบ 1.86% สินค้าสำคัญที่ราคาลดลง คือ น้ำมันเชื้อเพลิง ลด 22.57% ส่วนหมวดดัชนีอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เพิ่มขึ้น 2.34% สินค้าสำคัญที่ราคาแพงขึ้น เช่น อาหารบริโภคนอกบ้าน 4.09% อาหารบริโภคในบ้าน 3.89% เครื่องประกอบอาหาร 3.03% เนื้อสัตว์ เป็ดไก่ สัตว์น้ำ 2.64% เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม หากแยกเป็นรายการสินค้า 450 รายการ ที่ใช้คำนวณอัตราเงินเฟ้อ พบว่า มีสินค้าที่ราคาสูงขึ้น 188 รายการ เช่น ข้าวสารเจ้า น้ำมันพืช บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง ครีมนวดผม น้ำยาปรับผ้านุ่ม ค่าเช่าบ้าน ค่าโดยสารแท็กซี่ ก๊าซเอ็นจีวี ส่วนสินค้าที่ราคาไม่เปลี่ยนแปลงมี 162 รายการ และสินค้าราคาลดลง 100 รายการ
นายสมเกียรติ กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวลดลง ไม่ถือว่าเป็นสัญญาณภาวะเงินฝืด แต่ที่เงินเฟ้อปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เป็นเพราะราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงมาก รวมทั้งการปรับลดค่ากระแสไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) เดือนม.ค.ประมาณ 10 บาท/หน่วยด้วย โดยกระทรวงพาณิชย์ยังคงเป้าหมายเงินเฟ้อปี 58 ไว้ที่ระดับ 1.8-2.5% แต่ในเดือนมี.ค.นี้อาจทบทวนเป้าหมายใหม่ เพราะสมมุติฐานที่คำนวณเงินเฟ้อเปลี่ยนแปลงไป เช่น ราคาน้ำมัน ภายใต้สมมุติฐานเงินเฟ้อปี 58 คาดว่าราคารน้ำมันดิบตลาดดูไบเฉลี่ยทั้งปีจะอยู่ที่ 90-110 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล อัตราแลกเปลี่ยน 32-34 บาท/เหรียญฯ รัฐบาลยังคงมาตรการช่วยค่าครองชีพ และเศรษฐกิจไทยเติบโต 4.5% แต่ขณะนี้เศรษฐกิจไทย คาดว่าจะเติบโต 3.5%
ส่วนราคาน้ำมันดิบตลาดโลกลดลงมา 40-50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
“ขอดูสถานการณ์อีก 1 เดือน และค่อยทบทวนเป้าหมายเงินเฟ้อทั้งปีใหม่ โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบตลาดโลก ที่ลดลงต่ำสุดในรอบ 6 ปี แต่เชื่อว่าแนวโน้มราคาน้ำมันดิบน่าจะสูงขึ้น โดยอาจจะปรับขึ้นจาก 40 เหรียญฯ/บาร์เรล เป็น 60 เหรียญฯ/บาร์เรล” นายสมเกียรติ กล่าว
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า แม้อัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่หากดูดัชนีกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม พบว่ายังคงปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มราคาอาหารจานด่วน ซึ่งเป็นผลมาจากราคาแก๊สหุงต้มเดือนม.ค.58 เพิ่มขึ้น 15.13% เทียบกับเดือนม.ค. 57 ส่งผลให้ราคาอาหารจานด่วนเพิ่มขึ้น เช่น ข้าวผัด ราคาเพิ่ม 2.98% ก๋วยเตี๋ยว 5.03% ข้าวราดแกง 4.05% โจ๊ก 2.97% เครื่องวัตถุดิบในการปรุงอาหารจานด่วนก็มีราคาแพงขึ้น เช่น กะทิ ราคาเพิ่มขึ้น 8.76% น้ำตาลทราย 0.23% น้ำปลา 2.55% ซอสปรุงรส 3.30% เครื่องปรุงรส 1.70% พริกแกง 2.52% เป็นต้น
** คลังชี้ภาวะชั่วคราวไม่กระทบศก.**
นายสมหมายภาษี รมว.คลัง กล่าวถึงการรายงานตัวเลข เงินเฟ้อเดือน ม.ค.58 ของกระทรวงพาณิชย์ที่ขยายตัวติดลบว่า ยังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจที่ทำให้เศรษฐกิจไทยเข้าสู่ภาวะเงินฝืด เพราะเงินเฟ้อติดลบไม่ได้เกี่ยวข้องกับเงินฝืด แต่หากเงินเฟ้อเป็นบวกก็เข้าสู่ภาวะเงินเฟ้อได้
"เงินเฟ้อที่ขยายตัวติดลบมีสาเหตุมาจากในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ราคาสินค้าแพงซึ่งรัฐบาลได้ออกมาตรการแก้ไขจนราคาสินค้าปรับลดลง ประกอบกับราคาน้ำที่ปรับตัวค่อนข้างมาก ทำให้อัตราเงินเฟ้อติดลบ ถือเป็นเรื่องชั่วคราวเท่านั้น" นายสมหมายกล่าว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กระทรวงการคลังกำลังเร่งหามาตรการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อยนอกเหนือจากมาตรการที่ได้เคยดำเนินการมาแล้วตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยจะใช้เวลาในการพิจารณา 3 สัปดาห์ก่อนจะเร่งนำข้อสรุปรายงานต่อที่ประชุม ครม.ช่วงครึ่งหลังเดือน ก.พ.นี้ ยืนยันว่ามาตรการที่จะออกมาหลังจากนี้ไม่ใช่มาตรการประชานิยมอย่างแน่นอน
*ธปท.เผยเป็นไปตามคาด
นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า จากกรณีที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเดือน ม.ค.58 ที่ติดลบ 0.41% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน และติดลบ 0.59% เมื่อเทียบกับเดือน ธ.ค. 57 นั้น เป็นไปตามที่ ธปท.ได้ประเมินไว้แล้ว โดยอัตราเงินเฟ้อที่ติดลบดังกล่าวมีสาเหตุสำคัญมาจากราคาน้ำมันที่ได้ปรับตัวลดลงตามราคาของตลาดโลก
สำหรับกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อปี 2558 กำหนดให้อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั่วไปทั้งปีอยู่ที่ 2.5% บวกลบ 1.5% หรืออยู่ในกรอบระหว่าง 1-4% ซึ่งจากตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ม.ค.58 ที่ออกมาติดลบนั้น ในขณะนี้ถือว่ายังไม่หลุดกรอบ เพราะกรอบเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้เป็นตัวเลขที่เฉลี่ยทั้งปี นอกจากนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อที่ออกมาติดลบนั้นเป็นผลมาจากด้านอุปทานคือราคาน้ำมัน ไม่ได้เป็นผลโดยตรงมาจากอุปสงค์.
นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ (เงินเฟ้อ) เดือนม.ค.58 ว่า เท่ากับ 106.02 ลดลง 0.41% เทียบกับเดือนม.ค.57 ซึ่งเป็นการติดลบครั้งแรกในรอบ 5 ปี 4 เดือน นับตั้งแต่เดือนก.ย.52 ที่เงินเฟ้อติดลบ 1.0% และเมื่อเทียบกับเดือนธ.ค.57 ลดลง 0.59% โดยสาเหตุที่เงินเฟ้อติดลบในรอบ 5 ปี 4 เดือน เป็นผลมาจากดัชนีหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ติดลบ 1.86% สินค้าสำคัญที่ราคาลดลง คือ น้ำมันเชื้อเพลิง ลด 22.57% ส่วนหมวดดัชนีอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เพิ่มขึ้น 2.34% สินค้าสำคัญที่ราคาแพงขึ้น เช่น อาหารบริโภคนอกบ้าน 4.09% อาหารบริโภคในบ้าน 3.89% เครื่องประกอบอาหาร 3.03% เนื้อสัตว์ เป็ดไก่ สัตว์น้ำ 2.64% เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม หากแยกเป็นรายการสินค้า 450 รายการ ที่ใช้คำนวณอัตราเงินเฟ้อ พบว่า มีสินค้าที่ราคาสูงขึ้น 188 รายการ เช่น ข้าวสารเจ้า น้ำมันพืช บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง ครีมนวดผม น้ำยาปรับผ้านุ่ม ค่าเช่าบ้าน ค่าโดยสารแท็กซี่ ก๊าซเอ็นจีวี ส่วนสินค้าที่ราคาไม่เปลี่ยนแปลงมี 162 รายการ และสินค้าราคาลดลง 100 รายการ
นายสมเกียรติ กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวลดลง ไม่ถือว่าเป็นสัญญาณภาวะเงินฝืด แต่ที่เงินเฟ้อปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เป็นเพราะราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงมาก รวมทั้งการปรับลดค่ากระแสไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) เดือนม.ค.ประมาณ 10 บาท/หน่วยด้วย โดยกระทรวงพาณิชย์ยังคงเป้าหมายเงินเฟ้อปี 58 ไว้ที่ระดับ 1.8-2.5% แต่ในเดือนมี.ค.นี้อาจทบทวนเป้าหมายใหม่ เพราะสมมุติฐานที่คำนวณเงินเฟ้อเปลี่ยนแปลงไป เช่น ราคาน้ำมัน ภายใต้สมมุติฐานเงินเฟ้อปี 58 คาดว่าราคารน้ำมันดิบตลาดดูไบเฉลี่ยทั้งปีจะอยู่ที่ 90-110 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล อัตราแลกเปลี่ยน 32-34 บาท/เหรียญฯ รัฐบาลยังคงมาตรการช่วยค่าครองชีพ และเศรษฐกิจไทยเติบโต 4.5% แต่ขณะนี้เศรษฐกิจไทย คาดว่าจะเติบโต 3.5%
ส่วนราคาน้ำมันดิบตลาดโลกลดลงมา 40-50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
“ขอดูสถานการณ์อีก 1 เดือน และค่อยทบทวนเป้าหมายเงินเฟ้อทั้งปีใหม่ โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบตลาดโลก ที่ลดลงต่ำสุดในรอบ 6 ปี แต่เชื่อว่าแนวโน้มราคาน้ำมันดิบน่าจะสูงขึ้น โดยอาจจะปรับขึ้นจาก 40 เหรียญฯ/บาร์เรล เป็น 60 เหรียญฯ/บาร์เรล” นายสมเกียรติ กล่าว
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า แม้อัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่หากดูดัชนีกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม พบว่ายังคงปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มราคาอาหารจานด่วน ซึ่งเป็นผลมาจากราคาแก๊สหุงต้มเดือนม.ค.58 เพิ่มขึ้น 15.13% เทียบกับเดือนม.ค. 57 ส่งผลให้ราคาอาหารจานด่วนเพิ่มขึ้น เช่น ข้าวผัด ราคาเพิ่ม 2.98% ก๋วยเตี๋ยว 5.03% ข้าวราดแกง 4.05% โจ๊ก 2.97% เครื่องวัตถุดิบในการปรุงอาหารจานด่วนก็มีราคาแพงขึ้น เช่น กะทิ ราคาเพิ่มขึ้น 8.76% น้ำตาลทราย 0.23% น้ำปลา 2.55% ซอสปรุงรส 3.30% เครื่องปรุงรส 1.70% พริกแกง 2.52% เป็นต้น
** คลังชี้ภาวะชั่วคราวไม่กระทบศก.**
นายสมหมายภาษี รมว.คลัง กล่าวถึงการรายงานตัวเลข เงินเฟ้อเดือน ม.ค.58 ของกระทรวงพาณิชย์ที่ขยายตัวติดลบว่า ยังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจที่ทำให้เศรษฐกิจไทยเข้าสู่ภาวะเงินฝืด เพราะเงินเฟ้อติดลบไม่ได้เกี่ยวข้องกับเงินฝืด แต่หากเงินเฟ้อเป็นบวกก็เข้าสู่ภาวะเงินเฟ้อได้
"เงินเฟ้อที่ขยายตัวติดลบมีสาเหตุมาจากในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ราคาสินค้าแพงซึ่งรัฐบาลได้ออกมาตรการแก้ไขจนราคาสินค้าปรับลดลง ประกอบกับราคาน้ำที่ปรับตัวค่อนข้างมาก ทำให้อัตราเงินเฟ้อติดลบ ถือเป็นเรื่องชั่วคราวเท่านั้น" นายสมหมายกล่าว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กระทรวงการคลังกำลังเร่งหามาตรการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อยนอกเหนือจากมาตรการที่ได้เคยดำเนินการมาแล้วตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยจะใช้เวลาในการพิจารณา 3 สัปดาห์ก่อนจะเร่งนำข้อสรุปรายงานต่อที่ประชุม ครม.ช่วงครึ่งหลังเดือน ก.พ.นี้ ยืนยันว่ามาตรการที่จะออกมาหลังจากนี้ไม่ใช่มาตรการประชานิยมอย่างแน่นอน
*ธปท.เผยเป็นไปตามคาด
นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า จากกรณีที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเดือน ม.ค.58 ที่ติดลบ 0.41% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน และติดลบ 0.59% เมื่อเทียบกับเดือน ธ.ค. 57 นั้น เป็นไปตามที่ ธปท.ได้ประเมินไว้แล้ว โดยอัตราเงินเฟ้อที่ติดลบดังกล่าวมีสาเหตุสำคัญมาจากราคาน้ำมันที่ได้ปรับตัวลดลงตามราคาของตลาดโลก
สำหรับกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อปี 2558 กำหนดให้อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั่วไปทั้งปีอยู่ที่ 2.5% บวกลบ 1.5% หรืออยู่ในกรอบระหว่าง 1-4% ซึ่งจากตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ม.ค.58 ที่ออกมาติดลบนั้น ในขณะนี้ถือว่ายังไม่หลุดกรอบ เพราะกรอบเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้เป็นตัวเลขที่เฉลี่ยทั้งปี นอกจากนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อที่ออกมาติดลบนั้นเป็นผลมาจากด้านอุปทานคือราคาน้ำมัน ไม่ได้เป็นผลโดยตรงมาจากอุปสงค์.
