2 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสวิพากษ์วิจารณ์กำลังลุกลามไปทั่วสังคมออนไลน์ หลัง อนุวัต เฟื่องทองแดง ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง โพสต์คลิปเล่าเหตุการณ์ร้องเรียนจากผู้เช่าบ้านและหอพักในหลายพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยระบุว่าขณะนี้มีเจ้าของหอพักบางรายเรียกเก็บเงินจากผู้เช่าสูงสุดถึง 4,000 บาท เพื่อแลกกับลายเซ็นยืนยันสิทธิ์รับเงินเยียวยาน้ำท่วมจำนวน 9,000 บาท ส่งผลให้ยอดเงินที่ผู้ประสบภัยได้รับจริงลดลงอย่างมาก จนเกิดเสียงวิจารณ์ถึงการฉวยโอกาสบนความเดือดร้อนของผู้อื่น
.
อนุวัตเผยผ่านเพจ “อนุวัต จัดให้” ว่าในช่วงหลายวันที่ผ่านมาเขาได้รับการร้องเรียนเข้ามาไม่ขาดสาย ผู้เช่าจำนวนมากระบุว่าต้องจ่ายค่าลายเซ็นให้เจ้าของบ้านเช่าหรือหอพักตั้งแต่ห้องละ 2,000–4,000 บาท โดยอ้างว่าเป็นการทำคนละครึ่งระหว่างเจ้าของหอกับผู้เช่า ทั้งที่เงินเยียวยาถูกจัดสรรมาเพื่อฟื้นฟูความเสียหายของผู้ประสบภัยโดยตรง
.
ภายในคลิปดังกล่าว อนุวัตเล่าถึงความเดือดร้อนของผู้เช่า พร้อมย้ำว่ารัฐได้ปรับขั้นตอนการแจ้งขอรับสิทธิ์ให้ใช้เพียงเลขบัตรประชาชน 13 หลักและเอกสารประกอบที่จำเป็นเพื่อให้กระบวนการง่ายขึ้น แต่กลับมีปัญหาใหม่เกิดขึ้นจากบางสถานประกอบการที่ถือโอกาสเรียกรับผลประโยชน์จากเงินเยียวยา ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้เช่าหลายรายมองว่าไม่เป็นธรรม เพราะต้องใช้เงินดังกล่าวในการซ่อมแซมข้าวของที่เสียหายทั้งหมด
.
ผู้ประกาศข่าวยังกล่าวว่า แม้จะเข้าใจดีว่าเจ้าของหอพักบางรายก็ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมเช่นกัน แต่การเรียกรับเงินในอัตราสูงจนผู้เช่าเหลือเงินไปบรรเทาความเสียหายเพียง 5,000 บาท ถือว่าเป็นภาระหนักเกินไปสำหรับผู้ที่กำลังลำบาก เขาเสนอว่าหากจะมีการช่วยเหลือกันจริง ควรอยู่ในกรอบที่เหมาะสม เช่น 500–1,000 บาท หรือไม่เกิน 2,000 บาท เพื่อความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย และไม่กลายเป็นการเอาเปรียบในยามวิกฤต
.
ท้ายที่สุด อนุวัตฝากคำเตือนว่า หากเกิดการร้องเรียนไปยังเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรืออำเภอ อาจทำให้เกิดการตรวจสอบย้อนกลับจนผู้เช่าและเจ้าของหอพักอาจถูกระงับการจ่ายเงินเยียวยาทั้งคู่ ซึ่งจะสร้างความเสียหายมากกว่าเดิม เขาจึงขอให้ทุกฝ่ายใช้เหตุผล พูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา และหลีกเลี่ยงการตั้งเงื่อนไขเพื่อเก็บค่าตอบแทนจากเงินเยียวยาที่ตั้งใจมอบให้แก่ผู้ประสบภัยโดยแท้จริง


