xs
xsm
sm
md
lg

กาแฟเย็น ตัวการพาอ้วน เสี่ยงโรคเรื้อรัง คอกาแฟควรระวัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นกาแฟเย็น 1 แก้วมีอะไรซ่อนอยู่บ้าง

รสชาติที่แท้จริงของกาแฟควรจะมีรสขมนำ แต่ถ้าเมื่อไรที่ดื่มเข้าไปจิบแรกแล้วพบว่ารสชาติกลมกล่อม หอม หวาน มัน ชื่นใจละก็ ขอให้รู้ว่าเราไม่ได้กำลังดื่มแค่กาแฟเพียงอย่างเดียวซะแล้ว จากผลการสำรวจของ สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข พบว่า สิ่งที่ซ่อนอยู่ในกาแฟเย็น 1 แก้วนั้นมีมากกว่าแค่สารคาเฟอีน เพราะกาแฟเย็นขนาดแก้ว 20 ออนซ์ หรือ 600 มิลลิลิตร มีส่วนประกอบของไขมัน 22.1 กรัม โปรตีน 10.9 กรัม และคาร์โบไฮเดรต 49.4 กรัม ซึ่งให้พลังงานต่อร่างกายสูงกว่า 200 กิโลแคลอรี่ โดยพลังงานที่ร่างกายได้รับส่วนใหญ่ก็มาจากน้ำตาลที่มาจากนมข้น ครีมเทียม หรือไซรัปแต่งรสชาติในปริมาณที่มากถึง 38 กรัม หรือประมาณ 10 ช้อนชา ดังนั้นลองคิดเล่น ๆ ดูว่า หากเรากินกาแฟเย็นเฉลี่ยวันละ 2 แก้ว นั่นหมายถึง ร่างกายจะได้รับปริมาณน้ำตาลเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว !

กาแฟเย็น ตัวการพาอ้วน

กาแฟเย็นสูตรไหน ดื่มแล้วทำร้ายสุขภาพมากที่สุด

ความจริงแล้วขึ้นชื่อว่ากาแฟเย็นก็ล้วนแล้วแต่ทำร้ายสุขภาพทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเมนูกาแฟยอดฮิตที่เขาขายกัน เช่น ลาเต้ มอคค่า เอสเปรสโซ่ และคาปูชิโน่ โดยกาแฟแต่ละสูตรนั้นมีปริมาณน้ำตาลไม่ต่างกันเท่าไรนัก ยกเว้นเมนูที่มีส่วนผสมของช็อกโกแลตและกาแฟที่ดื่มแล้วจะทำให้อ้วนมากกว่าเมนูอื่น ๆ อย่างเช่น มอคค่าเย็น ที่ไม่ได้ให้แค่น้ำตาลอย่างเดียว ซึ่งหากลองเปรียบเทียบปริมาณน้ำตาลในกาแฟแต่ละสูตรจะพบว่า

ลาเต้เย็นให้พลังงานสูงถึง 288 กิโลแคลอรี่ มีปริมาณน้ำตาลประมาณ 3-9 ช้อนชา

คาปูชิโนเย็นให้พลังงานสูงถึง 303 กิโลแคลอรี่ มีปริมาณน้ำตาลประมาณ 6-9 ช้อนชา

มอคค่าเย็นให้พลังงานสูงถึง 400 กิโลแคลอรี่ มีปริมาณน้ำตาลประมาณ 5-9 ช้อนชา แถมยังมีปริมาณน้ำตาลที่มาจากน้ำเชื่อมและผงช็อกโกแลตอีกด้วย

แต่สำหรับกาแฟสูตรอื่นที่นอกเหนือไปจากนี้ เช่น เมนูแฟรปปูชิโน่ ทั้งแบบมีวิปครีมและไม่มีวิปครีมนั้นถือว่าเป็นเมนูกาแฟที่กินแล้วอ้วนที่สุด เพราะให้พลังงานสูงถึง 561 แคลอรี่ และ 457 แคลอรี่ ตามลำดับ

น้ำตาลและครีมเทียม กลลวงความอร่อยที่ทำให้เราอ้วน

นอกจากปริมาณน้ำตาลในกาแฟเย็นที่ทำให้เราอ้วนขึ้น สุขภาพแย่ลงแล้ว ยังมีตัวการร้ายที่เราต้องระวังให้ดีก็คือ ครีมเทียม เพราะครีมเทียมมีส่วนประกอบหลักเป็นไขมัน โปรตีน และน้ำตาล โดยส่วนใหญ่ก็สกัดมาจากน้ำมันปาล์มและน้ำมันมะพร้าว จึงมีปริมาณกรดไขมันอิ่มตัวสูงประมาณร้อยละ 20-50 ถือเป็นไขมันทรานส์ที่มีผลให้คอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) ในเลือดเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ระบบการทำงานของตับผิดปกติ หากเราชงกาแฟด้วยครีมเทียมครั้งละ 2-3 ช้อนขึ้นไปเป็นประจำทุกวัน แน่นอนว่าเรามีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันอุดตันในเส้นเลือด

นอกจากนี้ยังมีกลลวงความอร่อยอีกหนึ่งอย่างที่เราต้องคำนึงถึงด้วยนั่นก็คือ น้ำเชื่อมแต่งรสชาติต่าง ๆ เช่น วานิลลา ฮาเซลนัท มินท์ และคาราเมล ซึ่งก็ถือว่าอยู่ในหมวดหมู่ของน้ำตาลไซรัปเติมรสชาติ ที่ส่งผลให้แคลอรี่ในกาแฟแก้วโปรดของเราเพิ่มขึ้นด้วยเหมือนกัน

กาแฟเย็น ตัวการพาอ้วน

ภัยสุขภาพที่แฝงมากับกาแฟเย็น 1 แก้ว

ตามหลักโภชนาการที่ดีแล้ว ร่างกายของเราควรได้รับพลังงานโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 2,000 แคลอรี่สำหรับผู้หญิง และ 2,500แคลอรี่สำหรับผู้ชาย ซึ่งการดื่มกาแฟเย็นแม้เพียงแค่แก้วเดียว ก็ทำให้ร่างกายเราได้รับแคลอรี่สูงกว่า 1 ใน 4 ของแคลอรี่ในอาหารรวม 3 มื้อเสียอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเราดื่มวันละหลายแก้ว แต่กลับไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกายมากนัก ก็ไม่แปลกที่น้ำหนักตัวจะเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการที่ร่างกายได้รับน้ำตาลในปริมาณที่สูงมากทุกวัน จนไม่สามารถเผาผลาญให้หมดในแต่ละวันได้ เกิดการแปรเปลี่ยนสภาพเป็นไขมัน กลายเป็นเซลลูไลท์ใต้ชั้นผิวหนังตามอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายเรา และยิ่งถ้าเราดื่มกาแฟเย็นเกินกว่า 1 แก้วต่อวันละก็ ร่างกายก็ยิ่งมีความเสี่ยงสูงในการโรคเสื่อมต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น ได้แก่ โรคอ้วน โรคมะเร็งลำไส้ โรคหัวใจ โรคเบาหวานและความดันโลหิต สาเหตุเพราะน้ำตาลเป็นตัวทำลายความสมดุลของระบบไหลเวียนโลหิตในร่างกายนั่นเอง

เห็นไหมละคะว่า แค่กาแฟเย็นเพียงแก้วเดียวก็มีผลต่อสุขภาพของเราให้แย่ลงได้แล้ว ดังนั้นใครที่ติดกาแฟเย็นมาก ขอแนะนำให้ลองเปลี่ยนมาเป็นกาแฟร้อนดูนะคะ เพราะการกินแบบร้อนจะทำให้เราลดปริมาณน้ำตาลและไขมันได้มากกว่า อีกทั้งยังทำให้เรารับรสกาแฟได้มากขึ้นกว่าเดิมด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น