ลดความอยากอาหารด้วย 9 วิธีที่ง่าย ๆ ที่รับรองว่า ถ้าทำแล้ว คุณจะหยุดความอยากอาหารได้อย่างแน่นอน
สาว ๆ หลายคน คงจะรู้สึกท้อกับการลดน้ำหนักอยู่ใช่ไหมล่ะ เพราะไม่ว่ายังไงไม่สามารถหยุดความอยากอาหารได้ แม้อยากจะควบคุมอาหารมากเท่าไหร่ก็ตาม วันนี้กระปุกดอทคอมจึงขอนำวิธีการหยุดความอยากอาหารที่ง่ายจนคาดไม่ถึง จากเว็บไซต์ womansday.com มาเล่าสู่กันฟังกันค่ะ ไปดูกันดีกว่าว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยลดความอยากอาหารได้
1. ใช้กลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยช่วย
การศึกษาพบว่าการดมกลิ่นของสะระแหน่หรือสารสกัดจากดอกมะลิทำให้ความอยากอาหารในกลุ่มช็อกโกแลตและอาหารที่มีแคลอรี่สูงลดลง Eva Kemps ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัย Flider ในออสเตรเลียเปิดเผยว่า เมื่อคนเราอยากอาหาร ไม่เพียงแค่ภาพของอาหารและรสชาติที่ทำให้เขาอยากอาหารเท่านั้น แต่กลิ่นยังเป็นปัจจัยสำคัญอีกด้วย ดังนั้นลองเก็บดอกมะลิหรือมีน้ำมันหอมระเหยเอาไว้ใกล้ตัวสิ แล้วดมมันเมื่อคุณรู้สึกอยากอาหาร ก็จะทำให้ความอยากอาหารของคุณลดลงได้นะ
2. ให้ความสนใจกับร่างกายตัวเอง
หากคุณรู้สึกอยากอาหาร การกลับมาให้ความสนใจกับตัวเองอย่างเช่นการตรวจเช็กกับตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้าก็จะช่วยให้คุณละความสนใจจากความอยากอาหารนั้นได้ Jon May ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัย Plymouth ในสหราชอาณาจักร ได้เปิดเผยว่า การนึกถึงสิ่งอื่นจะช่วยทำให้ความอยากอาหารลดลงได้ เพราะเมื่อคุณใช้ความคิดพิจารณาร่างกายตัวเองไปแล้วก็จะไม่คิดถึงอาหารอีกเลย
ลดความอยากอาหาร
3. ไปพักผ่อนซะ
มีการศึกษาว่า การเดินอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเพียง 10 นาที ก็สามารถช่วยลดความอยากอาหารได้ เพราะเมื่ออยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาตินั้นคุณจะรู้สึกได้ถึงธรรมชาติของมัน คุณจะเพลิดเพลินไปกับสิ่งที่เห็น และได้กลิ่นที่สัมผัส จนได้รับความรู้สึกผ่อนคลายจิตใจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้นี่ล่ะ ที่จะช่วยให้คุณลืมความอยากอาหารไปได้
4. ลองทำอะไรที่ท้าทาย
จากการศึกษาพบว่าการทำอะไรที่ท้าทายจะช่วยให้ลดความอยากอาหารได้ แถมยังช่วยทำให้เราเลือกที่จะกินอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้นอีกด้วย Lotte van Dillen ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยไลเดน เปิดเผยว่า เมื่อคนเรากำลังทำในสิ่งที่ท้าทาย จิตใจของเราจะจดจ่ออยู่กับมันจนทำให้ความอยากอาหารลดลง ดังนั้นถ้าหากคุณรู้สึกหิวก็ลองหาอะไรที่ท้าทายทำ อย่างเช่นการเล่นเกมบริหารสมองดู รับรองว่าจะลืมความอยากอาหารไปได้เลยล่ะ
5. อย่าทำตามที่สมองสั่ง
สาเหตุที่ทำให้เราไม่สามารถที่จะลดความอยากอาหารของเราได้นั่นก็เพราะว่าเราทำตามที่สมองของเราสั่ง เพราะฉะนั้นวิธีที่ง่ายที่สุดนั่นก็คือ อย่าทำตามที่สมองของเราสั่งเด็ดขาด ถ้าเราสามารถห้ามตัวเองได้ เราก็จะสามารถลดความอยากอาหารได้อย่างแน่นอน
ลดความอยากอาหาร
6. เล่นเกม
เชื่อว่าคงมีหลาย ๆ คน ที่ชอบเล่นเกมใช่ไหมคะ รู้ไหมว่าการเล่นเกมก็สามารถลดความอยากอาหารได้เหมือนกันนะ มีการศึกษาล่าสุดพบว่าการเล่นเกมเพียงสามนาทีนั้นจะช่วยทำให้ความอยากอาหารลดลงได้มากกว่าคนที่ไม่เล่นเกม นั่นเป็นเพราะเมื่อเราเล่นเกมเราจะใช้สมาธิทั้งหมดจดจ่ออยู่กับมันและทำให้เราลืมความหิวหรือความอยากอาหารไปได้ คราวหน้าลองหยิบเกมขึ้นมาเล่นแทนที่จะหยิบขนมขึ้นมาทานดูนะ
7. เดินเล่น
การเดินเล่นเพียง 15 นาที ก็สามารถช่วยลดความอยากกินช็อกโกแลตของผู้หญิงได้...ดร.โอ ฮวาจอง ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล ประเทศเกาหลีใต้ บอกให้รู้ว่า การอออกกำลังกายนั้นจะช่วยผ่อนคลายความเครียด ความเบื่อหน่าย และอาการเมื่อล้าซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เรารู้สึกอยากจะกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อย่างเช่นอาหารที่มีน้ำตาลสูง การออกกำลังกายเพียงช่วงสั้น ๆ นั้นสามารถลดความอยากอาหารได้ หากคราวหน้ารู้สึกอยากกินขนมล่ะก็ ลองไปออกกำลังกายแทนการกินขนมดูล่ะ รับรองว่านอกจากจะช่วยให้ลดความอยากอาหารแล้วยังจะช่วยให้สุขภาพแข็งแรงอีกด้วย
8. ปั้นดินเหนียว
เชื่อหรือไม่ว่าการใช้เวลาไปการปั้นดินเหนียวนั้นจะช่วยลดความอยากอาหารและความคิดเกี่ยวกับของหวานได้มากเชียวล่ะ แต่ถ้าคุณไม่มีฝีมือด้านศิลปะล่ะก็ ก็ปั้นเป็นรูปเลขาคณิตก็ได้นะ มันก็สามารถช่วยได้เหมือนกัน แต่อย่าปั้นเป็นรูปของกินล่ะเพราะแบบนั้นจะยิ่งทำให้คุณหิวมากขึ้นกว่าเดิม แต่ถ้าการปั้นดินเหนียวไม่สะดวก คุณอาจจะปั่นดินน้ำมันแทนก็ได้นะ
ลดความอยากอาหาร
9. นึกถึงอาหารมื้อล่าสุด
มีการวิจัยของมหาวิทยาลัยบริสตัลในประเทศอังกฤษพบว่า คนเราจะรู้สึกอิ่มเมื่อนึกได้ว่าตนเองกินอาหารในมื้อล่าสุดเข้าไปมากเพียงพอ แต่ถ้าหากเรานึกได้ว่าอาหารที่เพิ่งกินเข้าไปล่าสุดมันน้อยเกินไปเราก็จะรู้สึกหิวและอยากกินอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่บางครั้งอาจจะกินเข้าไปจนอิ่มแล้ว เพราะฉะนั้นคราวหน้าลองเขียนรายละเอียดเกี่ยวกับอาหารที่กินเมื่อมื้อล่าสุดลงในกระดาษหรือลองคิดในใจดูก็ได้ นั่นก็จะให้คุณรู้ว่าตนเองกินอะไรเข้าไปบ้าง
วิธีการลดความอยากอาหารนั้นมีมากมายให้เลือกก็จริง แต่เราก็ควรที่จะเลือกใช้วิธีที่่เหมาะสมและดีที่สุดสำหรับตัวเราและเลือกใช้วิธีที่ดีต่อสุขภาพด้วย อย่าลืมว่าสุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดนะคะ
