รอยเตอร์ - หนึ่งวันหลังจากผู้นำรัฐบาลทหารพม่าเดินทางเยือนเมืองผาอัน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเมื่อสัปดาห์ก่อน แหล่งข่าว 2 รายกล่าวว่าเจ้าหน้าที่ทหารได้พบหารือกับสมาชิกของกองกำลังติดอาวุธท้องถิ่นที่ทรงอิทธิพล พร้อมกับคำสั่งให้ปราบปรามศูนย์หลอกลวงที่กำลังขยายตัวบริเวณชายแดนไทย-พม่าโดยทันที
ปฏิบัติการการหลอกลวงทางออนไลน์ตามแนวชายแดนเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายอาชญากรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ครอบคลุมหลายประเทศ รวมถึงพม่าและกัมพูชา ที่สร้างรายได้หลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐทุกปี จากการหลอกลวงผู้คนทั่วโลก ที่มักใช้เหยื่อจากการค้ามนุษย์
ในการประชุมเมื่อวันอาทิตย์ เจ้าหน้าที่พม่าได้แจ้งต่อสมาชิกของกองทัพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNA) ที่ถูกกระทรวงการคลังสหรัฐฯ คว่ำบาตรในเดือนพ.ค. จากการอำนวยความสะดวกในการหลอกลวงทางไซเบอร์ การค้ามนุษย์ และการลักลอบขนสินค้า ว่าคำสั่งดังกล่าวมาจากพล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ตามข้อมูลจากแหล่งข่าว 2 รายที่ทราบเรื่องการหารือดังกล่าว
“พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ได้พบปะกับเจ้าหน้าที่ทหารและระบุว่าปัญหาเกี่ยวกับศูนย์หลอกลวงกำลังทำลายชื่อเสียงระดับนานาชาติของประเทศอย่างร้ายแรง” แหล่งข่าวกล่าว โดยอ้างถึงคำสั่งของผู้บัญชาการทหารสูงสุด
“เขากระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการปราบปรามอย่างเข้มข้นก่อนการเลือกตั้ง” แหล่งข่าวระบุเสริม โดยอ้างถึงการเลือกตั้งทั่วไปแบบหลายระยะของรัฐบาลทหาร ที่จะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 28 ธ.ค. ที่ถูกประณามอย่างกว้างขวางว่าเป็นเรื่องหลอกลวงเพื่อการสืบทอดอำนาจของกองทัพ
แม้ว่ารัฐบาลทหารจะประกาศต่อสาธารณะว่ากำลังมีส่วนร่วมในความพยายามระดับนานาชาติเพื่อปราบปรามศูนย์หลอกลวงออนไลน์ แต่แหล่งข่าวระบุว่า ความเร่งด่วนของกองทัพในการดำเนินการปฏิบัติการดังกล่าวอาจเชื่อมโยงกับความกังวลต่อการดำเนินการที่อาจเกิดขึ้นของสหรัฐฯ
การประกาศจัดตั้ง “หน่วยปฏิบัติการพิเศษ” ของรัฐบาลสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งประกอบด้วยสำนักงานสอบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (FBI) และหน่วยสืบราชการลับ ได้ก่อให้เกิดความวิตกกังวลเป็นพิเศษในรัฐบาลทหารพม่า แหล่งข่าวทั้งสองรายระบุ
เจ้าหน้าที่ทหารในการประชุมกับ KNA เมื่อวันอาทิตย์ระบุว่า พวกเขาไม่สามารถเสี่ยงให้ทีมสหรัฐฯ ข้ามแดนเข้ามาเพื่อเริ่มต้นการสืบสวนได้ แหล่งข่าวคนหนึ่งกล่าว โดยอธิบายว่าเจ้าหน้าที่ได้กล่าวว่า “เราต้องแก้ไขปัญหานี้ด้วยตัวเอง”
รอยเตอร์เป็นสำนักข่าวแรกที่รายงานรายละเอียดการหารือภายในกองทัพพม่า ที่เป็นสัญญาณว่าหลังจากที่ปล่อยให้ศูนย์หลอกลวงออนไลน์เข้ามามีอิทธิพลนานหลายปี รัฐบาลทหารกำลังปรับตัวต่อแรงกดดันจากนานาชาติที่เพิ่มมากขึ้น
ต่างจากกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์อื่นๆ ในประเทศ รัฐบาลทหารมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ KNA ที่สหรัฐฯ ระบุว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในศูนย์หลอกลวงเหล่านี้
ทั้งนี้ โฆษกรัฐบาลทหารพม่าไม่ได้ตอบสนองต่อการติดต่อขอความคิดเห็นจากรอยเตอร์ และในวันจันทร์ สื่อของทางการพม่ารายงานว่า พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ได้สั่งการผู้บัญชาการทหารของกองบัญชาการภูมิภาคให้กำจัดศูนย์หลอกลวง โดยถือเป็นความรับผิดชอบของชาติ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียด
ภายในวันอังคาร ทหารจากกองทัพพม่าและ KNA ได้เริ่มปฏิบัติการรอบเมืองเมียวดี ที่เป็นศูนย์กลางหลักของปฏิบัติการฉ้อโกงและการค้ามนุษย์ที่ตั้งอยู่ในอาคารหลายหลัง
สื่อของทางการพม่ารายงานว่าจนถึงขณะนี้ พวกเขาได้ทำลายอาคารไปแล้วกว่า 180 หลัง จับกุมชาวต่างชาติได้กว่า 1,000 คน และยึดคอมพิวเตอร์ 2,653 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือ 21,750 เครื่อง
อย่างไรก็ตาม นาย หม่อง ซอ โฆษกของ KNA กล่าวกับรอยเตอร์ว่า กองกำลังติดอาวุธได้นำการปราบปรามและกองทัพได้เข้าร่วมในปฏิบัติการดังกล่าวหลังจากได้รับแจ้งเกี่ยวกับการดำเนินการปราบปราม
“ผู้นำของเราตัดสินใจว่าการร่วมมือกับกองทัพอาจทำให้กระบวนการบางอย่างราบรื่นขึ้น พวกเราเป็นผู้นำในปฏิบัติการเหล่านี้” นาย หม่อง ซอ กล่าว
ปฏิบัติการหลอกลวงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีจุดกำเนิดจากกาสิโนและการพนันออนไลน์ที่มีการกำกับควบคุมอย่างหลวมๆ ที่เริ่มขึ้นในช่วงทศวรรษ 1990 แต่ขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วงการระบาดของโควิด-19 เนื่องจากกลุ่มอาชญากรพยายามแสวงหาแหล่งทำกำไรใหม่ท่ามกลางมาตรการล็อกดาวน์ และการควบคุมชายแดนที่เข้มงวด
ฉ่วยก๊กโก ศูนย์สแกมเมอร์ใหญ่ในเมียวดี ก่อตั้งขึ้นในปี 2560 โดยบริษัทย่าไท่ อินเตอร์เนชันแนล โฮลดิ้ง กรุ๊ป ที่จดทะเบียนในฮ่องกง และได้รับสัมปทานจากกองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยง (BGF) เดิมทีโฆษณาว่าเป็นจุดหมายปลายทางของกาสิโน ตามรายงานของสถาบันสันติภาพแห่งสหรัฐฯ
ทั้งนี้ บริษัทย่าไท่ปฏิเสธความเกี่ยวข้องในกิจกรรมทางอาญา รวมถึงการค้ามนุษย์
หลังจากขยายกิจการมาหลายปี ศูนย์ฉ้อโกงในเมียวดีกลายเป็นจุดสนใจในเดือนม.ค. หลังจากการลักพาตัวและปล่อยตัวนักแสดงชาวจีนชื่อดัง ที่จุดประกายความพยายามระดับนานาชาติในการรื้อถอนธุรกิจเหล่านี้
แต่รัฐบาลทหารพม่าส่วนใหญ่ยังคงนิ่งเฉย โดยกล่าวว่ามีอำนาจจำกัดในพื้นที่ชายแดนห่างไกล จนกระทั่งปัจจุบัน
เจสัน ทาวเวอร์ ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสของ Global Initiative against Transnational Organized Crime กล่าวว่าการประกาศของสหรัฐฯ ในการจัดตั้งกองกำลังปราบปรามศูนย์หลอกลวงของหลายหน่วยงานเพื่อรื้อถอนศูนย์หลอกลวงเหล่านี้ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ
สัปดาห์ที่ผ่านมา ไทยได้ส่งตัวเฉอ จื้อเจียง เจ้าพ่อการพนันที่เคยเป็นผู้บริหารเมืองฉ่วยก๊กโก ให้กับจีนตามคำร้องขอของปักกิ่ง หลังถูกจับกุมในปี 2565
“สองมหาอำนาจโลกที่กำลังผลักดันการปราบปรามทำให้กองทัพพม่าและกองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยง (BGF) ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก” ทาวเวอร์กล่าว โดยอ้างถึงชื่อเดิมของ KNA
“กองทัพพม่าน่าจะมองเห็นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่าสมาชิกจำนวนมากในประชาคมระหว่างประเทศกำลังระดมกำลังเพื่อจัดการกับภัยคุกคามร้ายแรงต่อความมั่นคงของโลกที่เกิดขึ้นจากศูนย์หลอกลวงเหล่านี้” ทาวเวอร์ ระบุ.


