เอเอฟพี - น้ำท่วมจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นบัวลอยได้สร้างความเสียหายต่อบ้านเรือน โครงสร้างพื้นฐาน และพื้นที่เพาะปลูกทั่วพื้นที่ของเวียดนามในวันนี้ (30) ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 26 คน และมีผู้สูญหายอีกหลายสิบคน
ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักจากอิทธิพลของพายุทำให้กรุงฮานอย เมืองหลวงของประเทศต้องหยุดชะงักและต้องเปลี่ยนเส้นทางการบินหลายสิบเที่ยวบิน
พายุบัวลอยพัดขึ้นฝั่งทางตอนกลางของเวียดนามเมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์ด้วยความเร็วลม 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และพัดอยู่เหนือพื้นดินนานเกือบ 12 ชั่วโมง
พายุพัดขึ้นฝั่งเวียดนามหลังจากซัดถล่มพื้นที่บางส่วนของฟิลิปปินส์ที่ทำให้ประชาชนกว่า 40,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน
ยอดผู้เสียชีวิตในฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้นเป็น 37 คนในวันอังคาร หลังจากพบศพผู้เสียชีวิตเพิ่ม 10 คน บนเกาะมาสบาเต ทางตอนกลางของประเทศ เจ้าหน้าที่ด้านภัยพิบัติประจำภูมิภาคระบุว่าผู้เสียชีวิต 7 คนล่าสุดถูกต้นไม้ล้มทับ
“ไต้ฝุ่นลูกนี้เป็นพายุลูกที่ 10 ที่พัดถล่มเวียดนามในปีนี้ ถือเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ร้ายแรง ก่อให้เกิดทั้งลมแรง น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง” มาย วัน เคียม หัวหน้าศูนย์พยากรณ์อุทก-อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของเวียดนาม กล่าว
เคียมยังเสริมว่าไต้ฝุ่นลูกนี้พัดถล่มเวียดนามเป็นระยะเวลานานซึ่งพบได้ยาก
กระทรวงสิ่งแวดล้อมระบุว่าไต้ฝุ่นและผลกระทบที่ตามมาได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 26 คน และได้รับบาดเจ็บกว่า 100 คน นอกจากนี้ยังมีผู้สูญหายอีก 30 คน
กระทรวงฯ เสริมว่าบ้านเรือนกว่า 136,000 หลัง ได้รับความเสียหาย และอีกหลายพันครอบครัวติดค้างอยู่ในจ.ห่าติ๋ง ทางภาคกลางของประเทศ
“ผมไม่เคยเจอพายุไต้ฝุ่นรุนแรงขนาดนี้มาหลายสิบปีแล้ว บ้านกับสวนของผมถูกน้ำท่วมหมด” เล ฮง เลียน อายุ 62 ปี จากจ.เหงะอาน กล่าวกับเอเอฟพี
พายุลูกนี้ยังทำลายนาข้าวและพื้นที่เพาะปลูกอื่นๆ กว่า 225 ตารางกิโลเมตร ทำค้นไม้หลายหมื่นต้นหักโค่นและเสาไฟฟ้าล้ม ทำให้ไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่
หน่วยงานด้านภัยพิบัติและสภาพอากาศเตือนถึงระดับน้ำในแม่น้ำที่สูงขึ้นและอาจเกิดดินถล่มในพื้นที่ภูเขา
ฝนตกหนักที่เริ่มตั้งแต่ช่วงดึกของวันจันทร์ยังทำให้เกิดน้ำท่วมเป็นวงกว้างในกรุงฮานอย เมืองหลวงของประเทศ
“น้ำท่วมสูงเกือบถึงเบาะรถมอเตอร์ไซค์ของฉันเลย มันเป็นเช้าที่แย่มาก” เจิ่น แถ่ง เฮือง ที่ใช้เวลาราว 2 ชั่วโมงพยายามที่จะเดินทางไปที่ทำงานของเธอก่อนที่จะยอมแพ้
น้ำท่วมครั้งนี้นับเป็นครั้งที่เลวร้ายที่สุดของเมืองนับตั้งแต่ปี 2551 และทำให้ฮานอยกลายเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ ชาวฮานอยอีกรายหนึ่งกล่าว
“รถยนต์และมอเตอร์ไซค์ลอยอยู่เต็มไปหมด แม้แต่ในใจกลางเมือง” เหวียน ลิว เตียน อายุ 52 ปี กล่าว
ภาพบนโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นรถบรรทุกทหารกำลังขนส่งเด็กๆ ผ่านถนนที่ถูกน้ำท่วมจากโรงเรียนมัธยมทางตะวันตกของกรุงฮานอย ขณะที่ผู้ปกครองในที่อื่นๆ ร้องขอความช่วยเหลือแบบเดียวกันนี้ผ่านทางเฟซบุ๊ก
เจ้าหน้าที่การบินกล่าวว่าทัศนวิสัยที่ย่ำแย่จากฝนตกหนักทำให้ต้องเปลี่ยนเส้นทางเที่ยวบินหลายสิบเที่ยวบินที่มุ่งหน้าไปยังสนามบินโนยบ่ายของกรุงฮานอย
โดยปกติแล้วเวียดนามมักจะเผชิญกับพายุมากถึง 10 ลูกต่อปี แต่นักพยากรณ์อากาศเตือนว่าปีนี้จะต้องเผชิญกับพายุอีก 2-3 ลูก
การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์กำลังเร่งให้เกิดเหตุการณ์สภาพอากาศรุนแรง เช่น พายุไต้ฝุ่น และยังทำให้พายุเหล่านี้มีความรุนแรงและสร้างความเสียหายมากขึ้น
สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนามระบุว่าพายุสร้างความเสียหายให้กับเวียดนามเป็นมูลค่า 371 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดือนม.ค.-ส.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้น 3 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
เมื่อเดือนก.ย. 2567 พายุไต้ฝุ่นยางิได้คร่าชีวิตผู้คนในเวียดนามไปหลายร้อยคน และสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจเป็นมูลค่า 3,300 ล้านดอลลาร์.