กลุ่มติดอาวุธอาระกันเปิดแนวรบใหม่ในรัฐยะไข่ ชาวพม่าหลายพันหนีภัยเข้าอินเดีย

รอยเตอร์ - กลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์โจมตีด่านรักษาความมั่นคงในพม่าวันนี้ (13) ในการต่อสู้ที่ปะทุขึ้นใน 2 แนวรบใหม่ และทำให้ผู้คนหลายพันชีวิตต้องอพยพหลบหนีข้ามเข้าไปในฝั่งอินเดียเพื่อหาที่ปลอดภัย ตามการเปิดเผยของชาวบ้าน กลุ่มติดอาวุธ และเจ้าหน้าที่

รัฐบาลทหารพม่ากำลังเผชิญกับการทดสอบครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ยึดอำนาจในการรัฐประหารปี 2564 หลังกองกำลังชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ 3 กลุ่มเปิดฉากประสานงานโจมตีในปลายเดือน ต.ค. และสามารถยึดเมืองและฐานทหารได้หลายแห่ง

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีที่กองทัพแต่งตั้งขึ้นได้กล่าวว่าพม่ามีความเสี่ยงที่จะแตกเป็นชิ้นๆ จากการตอบโต้กลุ่มติดอาวุธที่ไม่มีประสิทธิภาพ ที่เหล่านายพลระบุว่าพวกเขากำลังต่อสู้กับผู้ก่อการร้าย

กองทัพอาระกัน (AA) หนึ่งใน 3 กลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ที่จับมือเป็นพันธมิตรกัน ที่กำลังต่อสู้เพื่อสิทธิในการปกครองตนเองในรัฐยะไข่ทางตะวันตกของประเทศ ได้เข้ายึดฐานที่มั่นต่างๆ ในพื้นที่ของเมืองระเตะด่อง และเมืองมินบยา ที่อยู่ห่างกันประมาณ 200 กิโลเมตร โฆษกของกองทัพอาระกันระบุ

“เราพิชิตฐานที่มั่นบางแห่งได้แล้ว และการต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปในพื้นที่อื่นๆ” โฆษกของ AA ระบุ

ชาวเมืองระเตะด่องกล่าวว่า ได้ยินเสียงปืนก่อนรุ่งสาง ตามมาด้วยการระดมโจมตีด้วยปืนใหญ่นานหลายชั่วโมง ทหารปิดทางเข้าพื้นที่และเสริมกำลังตามอาคารของรัฐ

นอกจากนี้ ยังมีการสู้รบเกิดขึ้นในรัฐชิน ที่มีพรมแดนติดกับอินเดีย โดยกลุ่มติดอาวุธโจมตีค่ายทหาร 2 แห่งตามการระบุของเจ้าหน้าที่อินเดียและแหล่งข่าว 2 รายที่ทราบเรื่องการโจมตีดังกล่าว

ประชาชนราว 5,000 คน จากฝั่งพม่าข้ามไปยังรัฐมิโซรัมของอินเดีย เพื่อหาที่หลบภัยจากการสู้รบ เจ้าหน้าที่อินเดียกล่าว

รัฐชิน ที่สงบสุขมาเป็นเวลาหลายปี ต้องเผชิญกับการสู้รบอย่างดุเดือดหลังเกิดรัฐประหารในปี 2564 โดยชาวบ้านหลายพันคนจับอาวุธต่อสู้กับฝ่ายรัฐบาลทหาร

โฆษกของรัฐบาลทหารพม่าไม่ตอบสนองต่อข้อความของรอยเตอร์ที่ขอความคิดเห็นเกี่ยวกันการต่อสู้ครั้งล่าสุดนี้

การต่อสู้ครั้งใหม่นี้จะเป็นอีกหนึ่งสถานการณ์ความขัดแย้งที่รัฐบาลทหารเผชิญ ซึ่งยืดเยื้อยาวนานขึ้น หลังจากการต่อต้านด้วยอาวุธต่อการปกครองของตนขยายตัวขึ้นทั้งในแง่ของขนาดและความแข็งแกร่ง โดยได้แรงหนุนจากความโกรธแค้นต่อการรัฐประหารและการปราบปรามที่ตามมา

การประสานงานโจมตีต่อต้านรัฐบาลทหารที่เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 27 ต.ค. ในรัฐชาน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ทำให้ได้เห็นหลายเมืองและฐานทหารมากกว่า 100 แห่งถูกยึด

การโจมตียังเกิดขึ้นกับเมืองศูนย์กลางในภูมิภาคสะกาย ที่อยู่ในภาคกลางของประเทศ ขณะที่ความขัดแย้งในรัฐกะยา ที่อยู่ใกล้เคียงทางตอนใต้ ก็นำไปสู่เหตุการณ์เครื่องบินรบตก

กลุ่มติดอาวุธระบุว่าพวกเขายิงเครื่องบินตก ขณะที่กองทัพระบุว่าเป็นความผิดพลาดทางเทคนิค

ริชาร์ด ฮอร์ซีย์ ที่ปรึกษาอาวุโสว่าด้วยพม่าของสถาบันคลังสมอง Crisis Group กล่าวว่า กองทัพมีประสบการณ์การต่อสู้ในรัฐยะไข่ แต่อาจต้องดิ้นรนอย่างหนักในขณะที่กองกำลังศัตรูกำลังสืบหาจุดอ่อนในหลายพื้นที่

“หากการสู้รบยังดำเนินต่อ มันจะกลายเป็นการเปิดแนวรบใหม่สำหรับรัฐบาล ซึ่งเวลานี้ดำเนินมายาวนานเกินไปแล้ว และคงเป็นเรื่องยากสำหรับรัฐบาลที่จะเน้นความพยายามในทุกแนวรบ” ฮอร์ซีย์ ระบุ