รอยเตอร์ - สหรัฐฯ จะประกาศมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมกับหน่วยงานในพม่าในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ
เดเร็ค โชเลต์ ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงจาการ์ตา ว่า มาตรการคว่ำบาตรจะสร้างความยากลำบากให้รัฐบาลทหารในการสร้างรายได้เพื่อนำไปจัดซื้ออาวุธ
“เรามุ่งมั่นที่จะเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาลทหารและทำให้พวกเขาสร้างรายได้ได้ยากขึ้น ซึ่งรายได้เหล่านั้นนำไปใช้จัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์” โชเลต์ กล่าว และเสริมว่าพม่าอยู่บนเส้นทางสู่การเป็นรัฐล้มเหลวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
กองทัพพม่าโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในปี 2564 และนับจากนั้นได้ดำเนินการปราบปรามอย่างรุนแรงต่อผู้เห็นต่าง ทำให้ประเทศอยู่ในความโกลาหลวุ่นวาย
สหรัฐฯ และประเทศตะวันตกอื่นๆ ได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรหลายชุดที่มุ่งเป้าสมาชิกรัฐบาลทหาร หน่วยงานของรัฐบาลทหาร และบริษัทที่ดำเนินการโดยทหาร เพื่อพยายามจำกัดความสามารถในการระดมเงิน
จนถึงปัจจุบัน สหรัฐฯ ได้บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรกับบุคคลต่างๆ 80 ราย และหน่วยงานในพม่ามากกว่า 30 แห่ง โชเลต์ระบุ
เขากล่าวว่า หากต้องการทางออกในความขัดแย้งของพม่า รัสเซียต้องหยุดส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ให้รัฐบาลทหาร
“ทางเดียวที่สามารถเกิดขึ้นได้คือรัฐบาลทหารไม่สามารถนำเข้าอาวุธได้อีกต่อไป และเราจะดำเนินการไปในทิศทางนั้นเพื่อให้รัสเซียหยุดส่งอาวุธให้พม่า” โชเลต์ ระบุ
โชเลต์ยังเรียกร้องให้สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) กีดกันตัวแทนทางการเมืองจากรัฐบาลทหารในการประชุมทั้งหมด
“รัฐบาลทหารพม่าจำเป็นต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าตราบใดที่ยังดำเนินการอย่างรุนแรงต่อคนของตนเอง พวกเขาจะเผชิญกับผลที่ตามมา และนั่นจะรวมถึงการโดดเดี่ยวในประชาคมระหว่างประเทศ” ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าว
ปัจจุบัน อาเซียนห้ามไม่ให้ผู้นำรัฐบาลทหารเข้าร่วมการประชุมระดับสูง แต่ปฏิเสธที่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรและขับพม่าออกจากกลุ่มภูมิภาค 10 ประเทศ.