รอยเตอร์ - ผู้รายงานพิเศษของสหประชาชาติว่าด้วยสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในพม่าเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศประสานงานดำเนินการคว่ำบาตรอย่างพร้อมเพรียงเพื่อตอบโต้การละเมิดที่กระทำโดยกองทัพของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นับตั้งแต่รัฐบาลทหารยึดอำนาจในเดือน ก.พ.2564 พม่าตกอยู่ในความโกลาหลวุ่นวาย ขบวนการต่อต้านผุดขึ้นทั่วประเทศเพื่อต่อสู้กับกองทัพ และนำไปสู่การปราบปรามนองเลือด
โทมัส แอนดรูว์ ผู้รายงานพิเศษ กล่าวกับนักข่าวในเจนีวา ว่า ความรุนแรงของรัฐบาลทหารได้กระตุ้นและทำให้ฝ่ายต่อต้านแข็งแกร่งขึ้น และการคว่ำบาตรแบบเจาะจงร่วมกันอาจทำให้ผู้นำทหารอ่อนแอลง
“พวกเขาควบคุมประเทศได้น้อยลงกว่าในช่วงเริ่มต้นของการรัฐประหาร เราสามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างมากหากเราเพิ่มการสนับสนุนและประสานการสนับสนุนนั้น ผมคิดว่ามันจะทำให้เกิดความแตกต่าง” โทมัส แอนดรูว์ กล่าวถึงรัฐบาลทหารพม่า
แอนดรูว์ กล่าวว่า ประเทศต่างๆ ควรวิเคราะห์ว่าพวกเขาสามารถดำเนินการกับรัฐบาลทหารให้ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดได้อย่างไร และจากการวิเคราะห์เหล่านั้นควรนำไปสู่การประสานงานร่วมกันเพื่อดำเนินการคว่ำบาตรและการห้ามค้าอาวุธ
“มีแบบอย่างสำหรับการประสานงานกันระหว่างบางประเทศ ดังนั้น สิ่งที่ผมกำลังพูดคือสร้างสิ่งนั้นให้เกิดขึ้น” แอนดรูว์ ระบุ
รายงานของสหประชาชาติที่เผยแพร่ในเดือนนี้พบว่าความรุนแรงได้ทวีความรุนแรงขึ้นในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือและตะวันออกเฉียงใต้ของพม่าจากการโจมตีทางอากาศและการระดมยิงปืนใหญ่อย่างไม่เลือกของกองทัพ การเผาหมู่บ้านจำนวนมากเพื่อขับไล่พลเรือน และการปฏิเสธการเข้าถึงด้านมนุษยธรรม
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลทหารกล่าวว่า พวกเขาดำเนินการปราบปรามผู้ก่อการร้ายอย่างถูกต้องและปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำสิ่งทารุณโหดร้าย.