อาเซียนปาดเหงื่อ! อินโดฯ ใกล้ปิดดีลซื้อขีปนาวุธซูเปอร์โซนิกจากบริษัทอินเดีย-รัสเซีย

บราห์มอส (BrahMos) บริษัทกลาโหมที่มีสำนักงานในอินเดีย คาดหมายว่าจะสามารถปิดดีลในปีนี้ในการขายขีปนาวุธร่อนซูเปอร์โซนิกแก่อินโดนีเซีย มูลค่าอย่างน้อย 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6,900 ล้านบาท) ในขณะที่ทางบริษัทกำลังเล็งขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากการเปิดเผยของทางซีอีโอเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้ บราห์มอส ซึ่งเป็นกิจการร่วมค้าระหว่างอินเดียและรัสเซีย บรรลุข้อตกลงต่างประเทศข้อตกลงแรกเมื่อปีที่แล้ว สำหรับขายขีปนาวุธต่อต้านเรือประจำการบนฝั่งแก่ฟิลิปปินส์ มูลค่า 375 ล้านดอลลาร์ ส่วนหนึ่งในความทะเยอทะยานของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย ที่ต้องการผลักดันยกระดับการส่งออกด้านกลาโหมเพิ่ม 3 เท่า

บริษัทแห่งนี้ทำการเจรจากับอินโดนีเซียมาอย่างยาวนาน และรายงานข่าวที่ผ่านๆ มา ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของขนาดและกรอบเวลาของการบรรลุข้อตกลง

อาตุล ดี. ราเน ซีอีโอของ บราห์มอส แอโรว์สเปซ เผยว่า ทางบริษัทมีความคืบหน้าในการเจรจากับจาการ์ตา ในข้อตกลงมูลค่าราว 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถึง 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งบริษัทเสนอจัดหาขีปนาวุธประจำการชายฝั่ง และอีกเวอร์ชันหนึ่งที่สามารถติดตั้งบนเรือรบได้

"เวลานี้ผมมีทีมๆ หนึ่งอยู่ในจาการ์ตา" ราเนบอกกับรอยเตอร์ พร้อมระบุว่า ข้อตกลงน่าจะบรรลุกันได้ภายในปีนี้ "กองทัพของอินโดนีเซียแสดงความสนใจเป็นอย่างมาก"

โฆษกของ ปราโบโว ซูเบียนโต รัฐมนตรีกลาโหมอินโดนีเซีย ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นในวันพุธ (15 มี.ค.) และบอกว่าขอตรวจสอบข้อมูลก่อน

ราเน บอกว่าทาง บราห์มอส ยังมีเป้าหมายบรรลุข้อตกลงคำสั่งซื้อตามมากับฟิลิปปินส์อีกราว 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประเทศที่พวกเขามีกำหนดส่งมอบขีปนาวุธแก่นาวิกโยธินฟิลิปิปนส์ เริ่มตั้งแต่ช่วงปลายปี 2023 "ประเทศฟิลิปปินส์เองบ่งชี้กับเราว่านี่เป็นแค่ขั้นเริ่มต้นเท่านั้น" ราเน อ้างถึงการขายในปี 2022 "พวกเขากำลังมองหาระบบต่างๆ เพิ่มเติม"

ในการตอบสนองต่อความเคลื่อนไหวของจีน ที่ประจำการทางทะเลมากขึ้นเรื่อยๆ ในทะเลจีนใต้และพื้นที่โดยรอบอื่นๆ บางส่วน ประเทศอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ยกระดับการใช้จ่ายในด้านการจัดหาอาวุธและยุทโธปกรณ์ทางทหารอื่นๆ จากข้อมูของเจนส์ บริษัทข่าวกรองกลาโหม

การลงทุนจัดซื้ออาวุธใหม่ของอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้นเกือบ 28% ในปี 2021 และ 69% ในปี 2022 ส่วนฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 29% ในปี 2021 และ 40% ในปี 2022 สูงกว่าค่าเฉลี่ยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นอย่างมาก

"ข้อพิพาทด้านอาณาเขตกับจีนเป็นความกังวลหลักของประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งผลักให้พวกเขาต้องยกระดับงบประมาณกลาโหมให้ตรงตามความจำเป็นด้านความมั่นคงของพวกเขา" อากาช ประทิท เดบบาร์มา นักวิเคราะห์ด้านกลาโหมของโกลบอลดาต้ากล่าว

ที่ผ่านมา การจัดซื้อทางทหารใหม่ๆ ของบรรดาชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนใหญ่มาจากผู้จัดหารายดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ ฝรั่งเศส และรัสเซีย อย่างไรก็ตาม อินเดีย ชาติผู้นำเข้าด้านกลาโหมรายใหญ่ที่สุดของโลก และบราห์มอสพยายามเข้ามามีส่วนร่วมเบียดแย่งส่วนแบ่ง

"เราได้รับไฟเขียวให้เดินหน้าสู่ตลาดในทุกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากรัฐบาลอินเดียและรัฐบาลรัสเซีย" ราเนกล่าว

บราห์มอส จัดตั้งผ่านข้อตกลงระหว่างรัฐบาลในปี 1998 ในฐานะกิจการค้าร่วมระหว่างดีเฟนซ์ รีเสิร์ช แอนด์ เดเวลอปเมนท์ ออร์แกไนเซชัน รัฐวิสาหกิจอินเดีย กับเอ็นพีโอ มาชิโนสโตรเยเนีย ของรัสเซีย

มาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกที่กำหนดเล่นงานรัสเซียต่อกรณีรุกรานยูเครน ไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตหรือแผนงานของทางบราห์มอส จากการเปิดเผยของราเน

แม้ขีปนาวุธของบราห์มอส ยังคงพึ่งพิงชิ้นส่วนและวัตถุดิบของรัสเซีย แต่ ราเน บอกว่าจำนวนสัดส่วนของซัปพลายท้องถิ่นสำหรับการผลิตนั้นแตะระดับสูงสุดกว่า 70% แล้ว จากระดับเพียง 15% ในช่วงต้นของกิจการค้าร่วม

(ที่มา : รอยเตอร์)