รอยเตอร์ - เวียดนามออกแนวทางปฏิบัติระดับชาติว่าด้วยพฤติกรรมบนสื่อสังคมออนไลน์ในวันนี้ (18) ที่สนับสนุนให้ประชาชนโพสต์เนื้อหาเชิงบวกเกี่ยวกับประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และกำหนดให้พนักงานรัฐรายงาน ‘ข้อมูลที่มีความขัดแย้ง’ ต่อผู้บังคับบัญชาของตน
แนวปฏิบัติดังกล่าวยังระบุห้ามโพสต์สิ่งที่ละเมิดกฎหมายและส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของรัฐ ซึ่งแนวปฏิบัตินี้จะนำไปใช้กับองค์กรของรัฐ บริษัทสื่อสังคมออนไลน์ และผู้ใช้งานทั้งหมดในเวียดนาม
“ผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ได้รับการสนับสนุนให้ส่งเสริมความงามของทิวทัศน์ ผู้คน และวัฒนธรรมของเวียดนาม และเผยแพร่เรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับคนดี” แนวทางปฏิบัติ ที่เป็นการตัดสินใจจากกระทรวงข้อมูลข่าวสารซึ่งลงวันที่ 17 มิ.ย. ระบุ
อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าแนวทางปฏิบัตินี้มีผลผูกพันทางกฎหมายหรือไม่ หรือจะบังคับใช้อย่างไร
ทั้งนี้ พรรคคอมมิวนิสต์ที่ปกครองเวียดนามอดทนต่อการวิพากษ์วิจารณ์เพียงเล็กน้อย และยังคงควบคุมสื่ออย่างเข้มงวด และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ยังทวีการปราบปรามผู้เห็นต่างและนักเคลื่อนไหวที่บางคนได้รับโทษจำคุกระยะยาวจากการโพสต์เนื้อหาลงบนเฟซบุ๊กและยูทูปของกูเกิล
ในเดือน พ.ย.2563 รอยเตอร์ได้รายงานว่าทางการเวียดนามขู่ที่จะปิดเฟซบุ๊กหากสื่อสังคมออนไลน์ยักษ์ใหญ่ไม่ยอมต่อแรงกดดันของรัฐบาลที่ให้เซ็นเซอร์เนื้อหาทางการเมืองในท้องถิ่นบนแพลตฟอร์มของพวกเขา
เวียดนามเป็นตลาดใหญ่สำหรับเฟซบุ๊ก ที่มีผู้ใช้งานราว 60 ล้านคนในประเทศและทำรายได้เกือบ 1,000 ล้านดอลลาร์
แนวทางปฏิบัติใหม่กำหนดให้ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ในเวียดนามจัดการกับผู้ใช้งานตามกฎหมายของเวียดนามเมื่อได้รับการร้องขอจากเจ้าหน้าที่ให้ลบเนื้อหาจากแพลตฟอร์มของพวกเขา
นอกจากนี้ ยังสนับสนุนให้ผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์สร้างบัญชีใช้งานด้วยชื่อจริง แชร์ข้อมูลจากแหล่งที่เป็นทางการ และหลีกเลี่ยงการโพสต์เนื้อหาที่ละเมิดกฎหมาย มีการใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสม หรือโฆษณาบริการผิดกฎหมาย
ในเดือน ม.ค. ผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ชาวเวียดนามได้เลี่ยงไปใช้ผลฟุตบอลและรายงานสภาพอากาศปลอมเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์หลังเจ้าหน้าที่ห้ามประชาชนถกเถียงคาดเดาการสับเปลี่ยนผู้นำประเทศก่อนการประชุมสมัชชาพรรค.