รอยเตอร์ - เฟซบุ๊กเผยว่าได้ดำเนินการลบหน้าเพจที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายทีวีที่ทหารพม่าเป็นเจ้าของ หลังผู้นำกองทัพของประเทศทำรัฐประหารในสัปดาห์นี้
ผู้สอบสวนสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติกล่าวก่อนหน้านี้ว่า ถ้อยคำแสดงความเกลียดชังบนเฟซบุ๊กมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นความรุนแรงในพม่า และเฟซบุ๊กได้แบนเครือข่ายทีวีดังกล่าวไปในปี 2561
โฆษกของเฟซบุ๊กระบุว่า เฟซบุ๊กกำลังปฏิบัติต่อสถานการณ์ของพม่าในลักษณะของกรณีฉุกเฉิน และดำเนินมาตรการชั่วคราวในการป้องกันอันตรายต่างๆ เช่น การลบเนื้อหาที่ยกย่องหรือสนับสนุนการรัฐประหาร
ครึ่งหนึ่งของประชากร 53 ล้านคนของพม่าใช้งานเฟซบุ๊ก
เมื่อวันอังคาร (2) หนึ่งวันหลังจากกองทัพเข้ายึดอำนาจ กระทรวงข้อมูลระบุว่า กองทัพได้เตือนให้หลีกเลี่ยงการโพสต์สิ่งที่กองทัพระบุว่าเป็นข่าวลือบนสื่อสังคมออนไลน์ ที่อาจปลุกระดมให้เกิดความไม่สงบ และก่อให้เกิดความไม่มั่นคง
ชาวมุสลิมโรฮิงญามากกว่า 730,000 คน หลบหนีออกจากรัฐยะไข่ของพม่าในเดือนส.ค. 2560 หลังการปราบปรามของทหาร ที่ผู้ลี้ภัยระบุว่ายังรวมถึงการสังหารหมู่และการข่มขืน และกลุ่มสิทธิมนุษยชนระบุว่ามีการสังหารพลเรือนและเผาหมู่บ้านหลายแห่ง แต่ทางการพม่ากล่าวว่าพวกเขากำลังต่อสู้กับกลุ่มก่อความไม่สงบและปฏิเสธว่าได้กระทำสิ่งโหดร้ายทารุณอย่างเป็นระบบ
เฟซบุ๊กได้กล่าวก่อนหน้าว่า พวกเขาช้าเกินไปที่จะดำเนินการป้องกันข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและความเกลียดชังในพม่า
เมื่อวันจันทร์ (1) กองทัพพม่าได้ส่งมอบอำนาจให้กับพล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และควบคุมตัวอองซานซูจี โดยกล่าวว่าเป็นการตอบโต้สิ่งที่เรียกว่าการทุจริตการเลือกตั้ง
เฟซบุ๊กระบุว่าบริษัทได้แบนเพจของบุคคลและองค์กรทางทหารของพม่า 20 รายในปี 2561 รวมถึงเครือข่ายสถานีโทรทัศน์เมียวดี และพล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย และกำลังลบข้อมูลที่ไม่ถูกต้องที่อาจเสี่ยงก่อให้เกิดความรุนแรงหรือทำร้ายร่างกาย หรือลดความชอบธรรมของผลการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนพ.ย. 2563 รวมทั้งการอ้างว่ามีการทุจริตการเลือกตั้ง
“เรากำลังติดตามสถานการณ์ทางการเมืองในพม่าอย่างใกล้ชิด และกำลังดำเนินขั้นตอนเพิ่มเติมเพื่อยับยั้งข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและเนื้อหาที่อาจกระตุ้นให้เกิดความตึงเครียดมากขึ้นในเวลานี้” ผู้อำนวยการด้านนโยบายสาธารณะ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเฟซบุ๊ก ระบุในคำแถลง
โฆษกเฟซบุ๊กกล่าวว่า บริษัทกำลังใช้ปัญญาประดิษฐ์จำกัดการเข้าถึงเนื้อหาและความคิดเห็นที่มีแนวโน้มละเมิดกฎระเบียบของเฟซบุ๊กเกี่ยวกับถ้อยคำแสดงความเกลียดชังหรือปลุกระดมความรุนแรง.