เอเอฟพี/รอยเตอร์ - กองทัพพม่าตั้งโต๊ะแถลงวันนี้ (26) เรียกร้องให้มีการสอบสวนข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการโกงรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งในการเลือกตั้งปีก่อน ที่พรรครัฐบาลของอองซานซูจีกวาดชัยชนะไปได้ ความเคลื่อนไหวที่ก่อให้เกิดความวิตกว่าอาจมีการทำรัฐประหาร
พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ชนะการเลือกตั้งเดือน พ.ย. อย่างถล่มทลาย แต่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนในเรื่องการตัดสิทธิผู้มีสิทธิเลือกตั้งในภูมิภาคที่มีความขัดแย้ง
พรรคฝ่ายค้านที่ทหารให้การสนับสนุนโต้แย้งผลเลือกตั้งดังกล่าว ขณะที่ฝ่ายกองทัพเองก็กล่าวหาว่ามีความผิดปกติเกี่ยวกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งอย่างกว้างขวาง โดยอ้างว่าพบการโกงเลือกตั้ง 8.6 ล้านกรณี
พล.ต.ซอ มิน ตุน โฆษกกองทัพ เรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งของประเทศ จัดเตรียมรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพื่อนำมาตรวจสอบยืนยันความถูกต้อง ข้อเรียกร้องที่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง
“การไม่แก้ไขปัญหานี้ให้สอดคล้องกับกฎหมาย หมายความว่านี่เป็นวิกฤตทางการเมือง เราจะดำเนินการตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย หากพวกเขา (คณะกรรมการการเลือกตั้ง) ไม่แก้ไขปัญหานี้” พล.ต.ซอ มิน ตุน กล่าวกับนักข่าวในกรุงเนปีดอ โดยปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติม
พล.ต.ซอ มิน ตุน เสริมว่า พล.อ.อาวุโส มิน ออง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ชี้ให้เห็นถึง “ความไม่ซื่อสัตย์และความไม่ยุติธรรม” ในการเลือกตั้ง
เมื่อนักข่าวถามถึงความเป็นไปได้เกี่ยวกับรัฐประหาร โฆษกกองทัพปฏิเสธความคิดดังกล่าว แต่ก็ไม่ได้ตัดความเป็นไปได้
“เราไม่ได้พูดว่ากองทัพจะยึดอำนาจ และเราไม่ได้พูดว่าจะไม่ทำเช่นกัน สิ่งที่เราสามารถพูดได้คือเราจะปฏิบัติตามกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงรัฐธรรมนูญด้วย” โฆษกกองทัพ กล่าว
“เราจะดำเนินการทุกอย่างที่มี.รวมถึงยื่นเรื่องถึงศาลสูง เราทำสิ่งนี้เพราะเราต้องการระบอบประชาธิปไตยที่แข็งแกร่ง” พล.ต.ซอ มิน ตุน กล่าวย้ำ
การเลือกตั้งในเดือน พ.ย. เป็นการเลือกตั้งที่เปิดกว้างเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่พม่าหลุดพ้นจากการปกครองของรัฐบาลเผด็จการทหารเกือบ 50 ปี แต่ทหารยังคงมีบทบาทสูงในการเมืองของประเทศ โดยยังคงควบคุมกระทรวงสำคัญๆ ที่เป็นผลจากรัฐธรรมนูญที่ทหารร่างขึ้น
ซูจีไม่ได้ตอบสนองต่อข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการโกงรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง แต่โฆษกพรรค NLD กล่าวว่า การทำรัฐประหารเป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญ
“เราจะเดินหน้าอย่างสันติตามกฎหมาย” เมียว นุ้นต์ โฆษกพรรค NLD กล่าว.