xs
xsm
sm
md
lg

เตรียมท่องนะโมฯ รับอภิมหาไต้ฝุ่นลูกใหม่ใหญ่มหึมา กลืนมิดเวียดนาม ลาว เขมรและไทย อาทิตย์หน้ามาลุ้นกัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online



MGRออนไลน์ -- สำนักพยากรณ์อากาศชั้นนำหลายแห่งในภูมิภาค ได้ออกคำเตือนตอนหัวค่ำ วันพฤหัสบดี 22 ต.ค.นี้ ให้ฝ่ายต่างๆ เตรียมรับมือพายุลูกใหม่ ที่คาดว่าจะมีขนาดใหญ่มหึมา สามารถ "กลืน" หรือ แผ่อิทธิพลครอบคลุม ประเทศต่างๆ ในอนุภูมิภาคแม่น้ำโขงได้ทุกประเทศ อันเป็นเหตุการณ์ที่คาดว่าจะได้เห็นในต้นสัปดาห์หน้า ถึงแม้จะไม่ใช่ระดับ "ซุเปอร์ไต้ฝุ่น" แต่ก็อาจจะเป็นพายุใหญ่ที่สุดลูกหนึ่ง ที่สามารถส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง ต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เกือบ 200 ล้านคน บนผืนแผ่นดินใหญ่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

พายุลูกนี้ก่อตั้วขึ้นเป็นดีเปรสชั่นหมายเลข 24 (โอเด็ต/Odette) ทางตะวันออกของเกาะลูกซอน ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อ 24 ชั่วโมงที่แล้ว และ กำลังพัฒนาความเร็วลมใกล้ศูนย์กลาง ขึ้นสู่ดับพายุโซนร้อน หรือ Tropical Storm ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ ขณะพัดผ่านปลายเหนือสุดของหมู่เกาะในคืนนี้ เข้าสู่ทะเลจีนใต้ และ คาดว่าเคลื่อนตัวเกือบจะเป็นเส้นตรง ในแนวตะวันออก-ตะวันตก หลังจากนั้น จะพุ่งตรงไปยังชายฝั่งภาคกลางตอนบนเวียดนาม อาณาบริเวณเดียวกับที่ดีเปรสชั่นหมายเลข 23 พัดเข้าตอนเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางในกรุงฮานอย ได้ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับพายุลูกใหม่ ในตอนค่ำวันนี้ ในขณะที่ศูนย์กลางของพายุ ยังคงอยู่ห่างจากเวียดนามไปราว 1,500 กิโลเมตร ทางตะวันออกของหมู่เกาะฟิลิปปินส์ แต่ดีเปรสชั่นหมายเลข 24 เคลื่อนตัวเร็วมาก คือ 25-30 กม.ชั่วโมง และ กำลังจะทำให้เกิดฝนตกหนักทางตอนเหนือของประเทศนั้น ลงไปจนถึงกรุงมะนิลา เมืองหลวง

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาฯ กล่าวว่า เมื่อดีเปรสชั่นหมายเลข 24 พัฒนาขึ้นเป็นพายุโซร้อนในคืนวันพฤหัสบดี จะส่งผลทำให้เกิดคลื่นแรงในทะเลจีนใต้ ตั้งแต่เช้าวันศุกร์นี้เป็นต้นไป และ จะหนักหน่วงรุนแรงยิ่งขึ้น ในระยะ 24-72 ชั่วโมงข้างหน้า เมื่อพายุโซนร้อน ทวีความเร็วใกล้ศูนย์กลางขึ้นเป็นไต้ฝุ่นระดับ 1

แผนภูมิพยากรณ์โดยศูนย์ร่วมแจังเตือนไต้ฝุ่น (JTWC) กองทัพเรือสหรัฐ ในอ่าวเพิร์ล ในนครโฮโนลู มลรัฐฮาวาย ที่ออกตอนบ่ายวันพฤหัสบดี แสดงให้เห็นทิศทางการเคลื่อนตัวของพายุลูกใหม่ ที่กำลังรอตั้งชื่อในขณะนี้ เป็นแนวตะวันออก-ตะวันตก เกือบจะเป็นเส้นตรง และ จะทวีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลาง ขึ้นเป็นไต้ฝุ่นระดับหนึ่ง เมื่อพัดผ่านใกล้เกาะไหหลำของจีน ไปจนถึงชายฝั่งภาคกลางตอนบนของเวียดนาม ในวันจันทร์ 16 ต.ค.
.
<br><FONT color=#00003>แผนภูมิพยากรณ์โดยศูนย์ร่วมแจ้งเตือนไต้ฝุ่น กองทัพเรือสหรัฐออกเวลา 17.30 น. วันพฤหัสบดี 12 ต.ค.นี้ แสดงให้เห็นเส้นทางเคลื่อนตัวของพายุลูกใหม่ เกือบจะเป็นเส้นตรง โดยมีปลายทางในอาณาบริเวณ ทิศตะวันออกของนครเวียงจันทน์ ในอีก 5-6 วันข้างหน้า -- ดูขนาดอันมหึมาแล้ว ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตุนิยมฯ ในเวียดนามบอกว่า ทุกคนควรช่วยกันภาวนา ให้มวลอากาศเย็นจากตอนบน เคลื่อนลงมาเร็วๆ ใน 2-3 วันนี้ ซึ่งเป็นหนทางเดียวที่จะสะกัดกั้น ความรุนแรงของไต้ฝุ่น และ ทำให้มันอายุหดสั้นลงได้.  </b>
1
แผนภูมิพยากรณ์ที่ออกโดย ศูนย์รายงานความเสี่ยงพายุเขตร้อนในกรุงลอนดอน (TSR)ก็แสดงเส้นทางที่ไม่ต่างกัน แผนภูมิอีกชิ้นหนึ่งของสำนักนี้ ยังแสดงให้เห็นพลังอันมหาศาลของพายุลูกใหม่ เมื่อทวีกำพลังขึ้นเป็นไต้ฝุ่น ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ขณะพัดอยู่ในทะเลจีนใต้ และ ถ้าหากทุกอย่างเป็นตามข้อมูลในวันนี้ พายุลูกใหม่กำลังจะลูกที่สองของปี ที่พัดขึ้นฝั่งเวียดนาม ในขณะที่ยังมีความแรงเป็นระดับไต้ฝุ่น

แผนภูมิอพยากรณ์โดย JTWC และ TRS ยังแสดงให้เห็นเส้นทางของพายุในอีก 72-84 ชั่วโมงข้างหน้า ที่จะอ่อนตัวลงเป็นพายุโซนร้อน และ เป็นดีเปรสชั่นอีกครั้งหนึ่ง อย่างรวดเร็วมาก ขณะเคลื่อนผ่านเขตป่าเขาชายแดนเวียดนาม-ลาว ในคืนวันที่ 16 ต.ค. ก่อนจะไปหมดกำลังลงที่บริเวณใกล้กับนครเวียงจันทน์ กลายสภาพเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ ทำให้เกิดฝนตก ปกคลุมอาณาบริเวณอย่างกว้างขวาง ทั่วทั้งภาคเหนือและภาคกลางของลาว ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ ภาคเหนือ ของไทย ลงไปครอบคลุมเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาเกือบทั้งหมด

สำหรับเวียดนาม หลังเกิดฝนตกติดต่อกันนานร่วมเดือน หลายจังวหวัดทางตอนเหนือ ต้องเชิญกับอุทกภัยครั้งใหญ่ และ ดีเปรสชั่นลูกล่าสุดในสัปดาห์นี้ ทำให้เกิดฝนตกหนักเกินกว่าที่คาดกันเอาไว้ล่วงหน้า ทำให้สถานการณ์น้ำเลวร้ายลง การไฟฟ้าเวียดนามต้องเร่งระบายน้ำ จากอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนหว่าบี่ง (Hoa Binh) เขื่อนผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่อันดับสองของประเทศ ระหว่างวันที่ 10-11 ต.ค. ที่ผ่านมา กระแสน้ำไหลบ่าเข้าท่วมตัวเมืองที่อยู่ใต้ลงไป ท่วมถนนหนทาง การจราจรเป็นอัมพาต หลายท้องถิ่นถูกตัดขาดจากโลกภายนอก

ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตุนิยมวิทยาฯ ในเวียดนามกล่าวว่า ทุกคนควรจะช่วยกันภาวนา ให้มวลอากาศเย็นจากตอนเหนือของภูมิภาค เคลื่อนตัวลงสู่อนุภูมิภาคโดยเร็วในช่วง 2-3 วันข้างหน้านี้ ซึ่งจะเป็นเพียงความหวังเดียว ที่จะช่วยลดความรุนแรงของพายุลูกใหม่ลงได้

ความหวังดังกล่าวไม่ไดเกิดขึ้นอย่างเลื่อนลอย หน่วยงานพยากรณ์อากาศของเวียดนาม ระบุว่าภูมิอากาศทางตอนเหนือของประเทศ เริ่มเย็นลงตั้งแต่ตอนเช้าวันพฤหัสบดีนี้ หลังจากฝนผ่านไป โดยอุณหภูมิในเขตเมืองซาปา (Sa Pa) เมืองท่องเทียยวบนภูเขา ใน จ.หล่าวกาย (Lao Cai) เย็นลงถึง 16-17 องศาเซลเซียสในตอนเช้าวันนี้ และ ยังจะลดลงอีกในค่ำวันเดียวกัน ภูมิอากาศในหลายจังหวัด รวมทั้งในกรุงฮานอย ก็เริ่มเย็นลง 2-3 องศา
.

<br><FONT color=#00003>แผนภูมิโดย TSR ในกรุงลอนดอน แสดงให้เห็นมวลอันมหึมาของพายุ เมื่อทวีความแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนในคืนนี้ ขณะพัดอยู่เหนือหมู่เกาะฟิลิปปินส์ในทะเลจีนใต้. </b>
2
<br><FONT color=#00003>แผนภูมิพยากรณ์โดย TSR อีกชิ้นหนึ่ง ใช้เส้นสีแสดงให้เห็นวิวัฒนาการของพายุ ตามช่วงเวลาต่างๆ ขณะเคลื่อนตัวเป็นแนวเกือบตรง มุ่งสู่อนุภูมิภาคแม่น้ำโขง -- โปรดช่วยกันภาวนา. </b>
3
วันพฤหัสบดีนี้ หน่วยกู้ภัยได้ออกค้นหาราษฎร ที่ถูกดินเลื่อนลงจากเนินเขา ทับถมบ้านเรือนไปหลายหลังคา ใน จ.หว่าบี่ง เหตุเกิดในตอนสายวันเดียวกัน พบผู้เสียชีวิตจำนวน 8 ศพ อีก 3 คน ช่วยออกมาได้ ในขณะที่อีก 20 คน ยังคงสูญหายจากเหตุการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำ ไหลเข้าท่วมตัวเมือง ท่วมบ้านเรือนราษฎรตามหมู่บ้านต่างๆ และ ท่วมเทือกสวนนาไร่ ในช่วง 48 ชั่วโมงก่อนหน้านั้น

เขื่อนหว่าบี่งได้หยุดระยายน้ำอย่างเร่งด่วนแล้วในวันพฤหัสบดีนี้ หลังจากปริมาณน้ำในอ่างลดลงสู่ "ระดับที่สามารถยอมรับได้" ทั้งนี้เป็นรายงานของคณะกรรมการช่วยเหลือและกู้ภัยแห่งชาติ

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กู้ภัยอีกชุดหนึ่งยังคงเร่งค้นหาราษฎรที่ถูกน้ำพัดหายไปใน จ.เอียนบ๊าย (Yen Bai) เมื่อวันก่อน ซึ่งยังไม่ทราบว่า มีจำนวนทั้งหมดเท่าไรกันแน่ ในขณะที่อีกหลายจังหวัดทางตอนใต้กรุงฮานอยลงไป ตั้งแต่ จ.นีงบี่ง (Ninh Binh) แทงฮว้า (Thanh Hoa) ห่าตี๋ง (Ha Tinh) เหงะอาน (Nge An) กว๋างบี่ง (Quang Binh) กว๋างจิ (Quang Tri) เถื่อเทียนเหว (Thua Thien Hue) ลงไปจนถึงกว๋างหงาย (Quang Ngai) กว๋างนาม (Quang Nam) และ นครด่าหนัง (Da Nang) กำลังเร่งฟื้นฟูตัวเมือง เก็บกวาดถนนหนทางที่ถูกน้ำท่วมสูง ในช่วงวันที่ 9-11 ต.ค.ที่ผ่านมา อันเป็นอิทธิพลจากดีเปรสชั่นหมายเลข 23

ใน จ.เหงะอาน อาสาสมัครกู้ภัย จำนวน 600 นาย ได้ร่วมกันออกค้นหาเด็กชายวัย 4 ปีคนหนึ่ง ที่ถูกสายน้ำพัดหายไป ในตอนเช้าวันที่ 10 ต.ค. หลังจากเขื่อนชลประมาณสูง 20 เมตรแห่งหนึ่ง เกิดพังทลาย ส่งกระแสน้ำเชี่ยวกรากลงสู่เบื่้องล่าง และ หนูน้อยกำลังเดินข้ามลำน้ำสายเล็กๆ เพื่อไปหาบิดาที่กำลังทำงานในนาข้าว การค้นหาที่ดำเนินมาตลอดทั้งวัน ยังไม่พบเหยื่อดีเปรสชั่นรายนี้

หลายท้องถิ่นยังคงเร่งช่วยเหลือเยียวเกษตรกร ที่สูญเสียข้าวในนา นับหมื่นๆ ไร่ กับพืชผลต่างๆ และ ช่วยเหลือราษฎรนับหมื่นครอบครัว ที่กลายเป็นผู้พลัดถิ่นในช่วงพายุพัดเข้า ให้กลับคืนสู่เคหะสถาน กองทัพปรนะชาชนได้ระดมทหารช่าง ออกช่วยเหลือประชาชน ซ่อมแซมบ้านเรือน ให้อยู่อาศัยได้อีกครั้ง.
กำลังโหลดความคิดเห็น