xs
xsm
sm
md
lg

คลิป-ภาพชุดใหญ่.. เขื่อนใหญ่อั้นไม่อยู่ปล่อยน้ำท่วมทั้งเมือง เวียดนามวิกฤตอุทกภัยตาย-สูญหาย 50

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online



MGRออนไลน์ -- มีผู้เสียชีวิตและสูญหายรวมทั้งสิ้น 50 ราย จากอุทกภัยในเวียดนาม หลังจากเกิดฝนตกหนักติดต่อกันนานแรมเดือน และ ดีเปรสชั่นลูกล่าสุดซ้ำเติม ในสัปดาห์นี้ ส่งผลให้เขื่อนชลประทานหลายแห่ง ในภาคกลางถึงกับพังทลาย น้ำไหลลงท่วมเทือกไร่นาสวนเสียหายสุดคณานับ ในขณะที่เขื่อนหว่าบี่ง (Hòa Bình) กั้นแม่น้ำดำ ทางตอนเหนือของประเทศ เก็บกักน้ำไม่ไหว ต้องปล่อยน้ำจากอ่างปริมาณมหาศาลไหลบ่าเข้าท่ามบ้านเรือนราษฎรในตัวเมือง ที่อยู่ใต้ลงไป ทางหลวงสายหลักเป็นอัมพาต การไฟฟ้าเวียดนามต้องให้หยุดเดินเครื่องปั่นไฟทั้ง 6 หน่วยของเขื่อนเซินลา ที่อยู่เหนือขึ้นไปตามลำน้ำสายเดียวกัน เพื่อมิให้ระบายน้ำลงไปซ้ำเติมวิกฤติ

ภาพกับวิดีโอ ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์หลายแห่งตอนค่ำวันพุธ แสดงให้เห็นสายน้ำจากอ่างเก็บน้ำหว่าบี่ง ไหลบ่าเข้าท่วมในตัวเมือง และ ถนนหนทาง มียวดยานหลายสิบคันจมอยู่ในน้ำ นับร้อยๆ คันต้องลุยน้ำท่วมสูง มียานพาหนะขนาดเล็กจมน้ำ หรือ จอดตายเป็นจำนวนมาก

รัฐวิสาหากิจไฟฟ้าเวียดนามซึ่งเป็นเจ้าของเขื่อนหว่าบี่ง ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ตั้งแต่ตอนค่ำวันอังคาร 10 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยเปิดประตูระบายน้ำรวม 8 บาน จากทั้งหมด 12 บาน หลังจากรับน้ำเพิ่มเข้าในอ่างมากมายเกินคาด ซึ่งครั้งนี้นับเป็นการปล่อยน้ำจากเขื่อนหว่าบี่ง ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 10 ปีเลยทีเดียว -- ขณะเดียวกันก็สั่งให้เขื่อนเซินลา ที่อยู่เหนือขึ้นไปกว่า 100 กิโลเมตร บนแม่น้ำสายยาวกว่า 500 กม.ในดินแดนเวียดนาม ต้องหยุดปั่นไฟอย่างถาวร จนกว่าสถานการณ์น้ำจะเข้าสู่ภาวะปรกติ

วิกฤติการณ์น้ำที่กล่าวมาแล้ว เกิดจากฝนที่ตกติดต่อกันนานนับเดือน และ ฝนจากดีเปรสชั่นเขตร้อนหมายเลข 23 ที่พัดเข้าฝั่งในภาคกลางตอนบน เช้าวันจันทร์ 9 ต.ค. ได้เข้าซ้ำเติม ให้สถานการณ์เลวร้ายเกินกว่าที่คาดคำนาณล่วงหน้า

เขื่อนหว่าบี่งซึ่งมีความหมายว่า "สันติภาพ" ตั้งอยู่ในจังหวัดชื่อเดียวกัน ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือกรุงฮานอย สร้างตั้งแต่ปลายปี 2522 แล้วเสร็จในปี 2537 ด้วยความช่วยเหลือด้านการเงินจากสหภาพโซเวียต ออกแบบควบคุมการก่อสร้างโดยวิศวกรโซเวียต ร่วมกับช่างชาวเวียดนาม ระหว่างการก่อสร้างมีผู้เสียชีวิตด้วยเหตุต่างๆ รวม 168 คน ในนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญโซเวียต 11 คน เป็นชาวเวียดนามอีก 157 คน

ก่อนจะมีเขื่อนเซินลา (Sơn La) ใน จ.เซินลา เขื่อนหว่าบี่งซึ่งมีหน่วยปั่นไฟ 8 หน่วย รวมกำลังการผลิต 1,920 เมกะวัตต์ เคยเป็นเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำใหญ่ที่สุดในย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เขื่อนคอนกรีตสูง 128 เมตร ยาว 970 เมตร มีพื้นที่อ่างเก็บน้ำรวม 208 ตารางกิโลเมตร กักเก็บน้ำเต็มที่ 1,600 ล้าน ลบม.
.

<

.
ขณะเดียวกันสถานการณ์น้ำในแม่น้ำแดง หรือ แม่น้ำโห่ม ( Sông Hồng- โซง โห่ม) กับลำน้ำสาขาต่างๆ ก็มีสถานการณ์ไม่ต่างกัน ฝนที่ตกหนัก ทำให้น้ำเอ่อเข้าท่วมท้น ตัวเมืองเอียนบ๊าย (Yên Bái) เมืองเอกของจังหวัดชื่อเดียวกัน กับอีกบางอำเภอ มีบ้านเรือนราษฎรนับสิบหลัง ถูกพัดหายไปกับสายน้ำ สะพานอีกหลายแห่งถูกกระแสน้ำเชี่ยวซัดเสียหาย ถนนหลายสายถูกตัดขาด รวมทั้งทางรถไฟสายเหนือที่ใช้การไม่ได้ วิดีโอหลายชิ้นแสดงให้เห็นกระแสน้ำเชี่ยวกราก ซัดสะพานที่กำลังก่อสร้าง หายไปต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก

ตามรายงานของสื่อทางการนั้น สองวันที่ผ่านมามีบ้านเรือนราษฎร ใน จ.เอียนบ๊าย ถูกกระแสน้ำพัดหายไปหลายสิบหลังคา ทางการท้องถิ่นต้องสั่งอพยพราษฎรหลายร้อยครอบครัว ไปยังพื้นที่ปลอดภัย

สำหรับแม่น้ำดำ หรือ แม่น้ำด่า (Sông Đà) ไหลไปจากมณฑลหยุนหนันของจีน ผ่านหลายจังหวัดทางตอนเหนือของเวียดนาม และ ไหลไปลงแม่น้ำแดง ใน อ. เหวียดจิ (Việt Trì) จ.ฟุเถาะ (Phú Thọ) ที่อยู่เหนือกรุงฮานอยขึ้นไปเพียงประมาณ 80 กม. ทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านอุทกศาสตร์กล่าวว่า เมื่อมวลน้ำมหึมามหาศาล ไหลไปรวมกับมวลน้ำในแม่น้ำแดง -- น้ำที่ปล่อยจากเขื่อนหว่าบี่ง และ เขื่อนเซินลา สัปดาห์นี้ กำลังจะส่งผลกระทบ ทำให้เกิดอุทกภัยในเมืองหลวง และ จังหวัดอื่นๆ ที่อยู่ใต้ลงไป ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

นอกจากนั้น ถ้าหากยังเกิดฝนตกหนักติดต่อกัน ในตอนเหนือของประเทศอีกสัปดาห์ ก็อาจจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำเติมอีก เมื่อเขื่อนเซินลา ไม่สามารถจะอุ้มน้ำไว้ได้
.

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

11

12

13

14

15

16
คณะกรรมการค้นหาและกู้ภัยพิบัติแห่งชาติ ได้ออกรายงานฉบับหนึ่งสรุปสถานการณ์ในวันพุธนี้ อุทกภัยทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 29 คน สูญหายอีก 21 คน ราษฎรอีกเกือบ 8,000 ครอบครัว กลายเป็นผู้พลัดถิ่น มีบ้านเรือน 62 หลังคาถูกทำลาย อีก 15 หลัง หลังคาถูกลมแรงพัดหายไป และ มีราษฎรอีก 6,018 ครอบครัว ที่ถูกน้ำท่วม (ยังไม่นับรวมกับตัวเลขที่เกิดจากเขื่อนหว่าบี่ง) มีสัตว์เลี้ยงทั้งสัตว์ปีก และ วัวควาย ล้มตายนับหมื่นๆ ตัว พื้นที่การเกษตรเสียหาย สุดเหลือจะคณานับ โรงเรียน และ สถานที่ทำการทุกแห่งต้องปิดทำการ เส้นทางคมนาคมหลายต่อหลายสายถูกตัดขาด

ดีเปรสชั่นจากทะเลจีนใต้ลูกล่าสุดนี้ พัดเข้าฝั่งในบริเวณรอยต่อ จ.ห่าตี๋ง (Hà Tĩnh) กับ จ.เหงะอาน (Nghệ An) ตอนเช้าวันจันทร์ที่่ผ่านมา แต่เริ่มส่งอิทธิพล ทำให้เกิดฝนตกหนักตั้งแต่หนึ่งวันก่อนหน้านั้น และ ยังทำให้เกิดคลื่นปั่นป่วนในทะเล วิดีโอชิ้นหนึ่งแสดงให้เห็นคลื่นสูง 10 เมตร ถาโถมเข้าหาฝั่ง ในเขตนครหายฝ่อง ที่อยู่ริมอ่าวตังเกี๋ย ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

ดีเปรสชั่นหมายเลข 23 ทำให้เกิดฝนตกหนัก ทั่วทั้งภาคกลาง ตั้งแต่นครด่าหนัง ( Đà Nẵng) ไปจนถึงตอนเหนือสุดของประเทศ วิดีโอหลายชิ้นแสดงให้เห็น น้ำท่วมสูงตามถนนสายหลัก ในกรุงเก่านครเหว (Huế) และ น้ำท่วมสูงในเมืองวีง (Vinh) เมืองเอกของ จ.เหงะอาน กับเมืองห่าตี๋ง ในช่วงวันที่ 10-11 ต.ค.นี้ รถไฟสายฮานอย-นครโฮจิมินห์ ช่วงเมืองวีง น้ำท่วมสูง 3 เมตร ทำให้ต้องหยุดบริการเดินรถ 1 วัน 1 คืน เต็ม เช่นเดียวกันกับใน จ.เอียนบ๊าย เมื่อดินจากภูเขา ถล่มลงทับถมรางเป็นระยะทางกว่า 300 เมตร ทับตู้สินค้าบนรถไฟขบวนหนึ่งที่กำลังแล่นผ่านเสียหายหลายคัน และ ทำให้รถไฟสายฮานอย-หล่าวกาย (Lào Cai) ถูกตัดขาดเป็นเวลา 1 วันเต็ม

นอกจากนั้นยังมีรายงานเหตุที่น่าสลดใจหลายเรื่อง เมื่อเขื่อนชลประทานสูง 20 เมตร เก็บกักน้ำ 3,000 ลบม. ใน จ.เหงะอาน พังทลายลง น้ำไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรของราษฎร หญิงคนหนึ่ง อุ้มหลานตัวเล็กๆ 2 คนไปส่งที่โรงเรียน แต่ถูกน้ำจากเขื่อนแห่งนี้ ซัดถาโหมหายไประหว่างทาง และ อีกกรณีหนึ่ง เด็กชายอายุ 4 ขวบ ออกจากบ้านไปตามหาบิดา แต่ถูกกระแสน้ำพัดพาหายไปอีกคน ขณะเดินข้าม ลำน้ำเล็กๆ สายหนึ่ง

ตามรายงานของสื่อทางการ ยังมีอ่างเก็บน้ำชลประทานขนาดเล็ก ขนาดกลาง ในจังหวัดใกล้เคียง พังทลายอีกนับสิบแห่ง เมื่อดีเปรสชั่น ทำให้เกิดฝนตกหนัก ติดต่อกันเป็นเวลากว่า 10 ชั่วโมง ระหว่างวันที่ 9-10 ต.ค.
เตรียมท่องนะโมฯ รับอภิมหาไต้ฝุ่นลูกใหม่ใหญ่มหึมา กลืนมิดเวียดนาม ลาว เขมรและไทย อาทิตย์หน้ามาลุ้นกัน
เตรียมท่องนะโมฯ รับอภิมหาไต้ฝุ่นลูกใหม่ใหญ่มหึมา กลืนมิดเวียดนาม ลาว เขมรและไทย อาทิตย์หน้ามาลุ้นกัน
MGRออนไลน์ -- สำนักพยากรณ์อากาศชั้นนำหลายแห่งในภูมิภาค ได้ออกคำเตือนตอนหัวค่ำ วันพฤหัสบดี 22 ต.ค.นี้ ให้ฝ่ายต่างๆ เตรียมรับมือพายุลูกใหม่ ที่คาดว่าจะมีขนาดใหญ่มหึมา สามารถ กลืน หรือ แผ่อิทธิพลครอบคลุม ประเทศต่างๆ ในอนุภูมิภาคแม่น้ำโขงได้ทุกประเทศ อันเป็นเหตุการณ์ที่คาดว่าจะได้เห็นในต้นสัปดาห์หน้า ถึงแม้จะไม่ใช่ระดับ ซุเปอร์ไต้ฝุ่น แต่ก็อาจจะเป็นพายุใหญ่ที่สุดลูกหนึ่ง ที่สามารถส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง ต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เกือบ 200 ล้านคน บนผืนแผ่นดินใหญ่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
กำลังโหลดความคิดเห็น