สุราษฎร์ธานี - แผ่นดินไหวขนาด 3.3 บริเวณ ต.ปากฉลุย อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี รับรู้ความสั่นไหวได้ใน 3 อำเภอ ที่ตั้งอยู่บนรอยเลื่อนมะลุย นายอำเภอท่าฉางวอนประชาชนอย่าตื่นตระหนก พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกตรวจสอบสร้างความมั่นใจแล้ว
จากกรณีเกิดเหตุแผ่นดินไหวบนบก ขนาด 3.3 ความลึก 5 กม. บริเวณหมู่ที่ 5 บ้านเคี่ยมเพาะ ต.ปากฉลุย อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อคืนที่ผ่านมา ล่าสุด วันนี้ (21 มี.ค.) ชาวบ้านพบรอยดินเลื่อน และรอยแตกของดินเป็นทางยาว ขณะที่ นายบรรเจิด สาริพัฒน์ นายอำเภอท่าฉาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ปภ.ได้นำกำลังเข้าพื้นที่เพื่อตรวจสอบความเสียหาย และสอบถามรายละเอียดกับชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ และยังพบรอยเลื่อนต่อเนื่องไปจนถึงพื้นที่โรงเรียนคลองไม้แดง ม.7 ต.ปากหมาก อ.ไชยา และในพื้นที่ อ.ท่าชนะ อีกหลายจุด
โดย น.ส.ปัทมาภรณ์ ไหมแก้ว และนางสุภาณี แวววงศ์ ครูโรงเรียนคลองไม้แดง ที่อยู่ในเหตุการณ์ และรู้สึกได้เล่าให้ฟังว่า รู้สึกได้ถึงบ้านพักครูสั่นสะเทือนประมาณ 5 นาที ขณะที่นางสุภาณี คิดว่าลูกชายถีบฝาผนัง เพิ่งมาทราบตอนเช้าว่าเกิดแผ่นดินไหว
ขณะที่ นายบรรหาญ เทพี อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 233 ม.5 ต.ปากฉลุย อ.ท่าฉาง กล่าวว่า ตอนนั้นไม่ทราบว่าแผ่นดินไหวเพิ่งมาทราบจากข่าว โดยที่ห่างจากบ้านออกไปประมาณ 5 กม.ซึ่งเป็นภูเขาสูงพบรอยแยกของดินที่แตกเป็นทางยาวโดยกว้างประมาณ 1-2 ซม.ยาวประมาณ 1 เมตร
ด้าน นายบรรเจิด สาริพัฒน์ นายอำเภอท่าฉาง กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่พบความเสียหาย แต่สามารถรับความรู้สึกได้ ซึ่งประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นเสี่ยงที่บ้านเรือนตั้งอยู่บนแนวเลื่อนมะลุย ต่างรู้สึกตกใจ และเกรงกลัวว่าจะเกิดอะไร จึงให้ทางการเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าสถานการณ์จะลุกลามต่อไปอีกหรือไม่ แต่อย่างไรแล้วขอให้ประชาชนอย่าตระหนกตกใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ พร้อมกันนี้ ได้จัดทีมพร้อมประสานงานกับเจ้าหน้าที่ธรณีวิทยา จากกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงสำรวจข้อเท็จจริง กรณีชาวบ้านพบมีแผ่นดินแยกว่ามีส่วนเกี่ยวข้องต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ประชาชนในเขตชุมชนบ้านปากฉลุย ที่อยู่ห่างจากจุดเกิดแผ่นดินไหวมาประมาณ 20 กิโลเมตร ได้จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดย น.ส.วัชรี ศรีช่วย อาจารย์โรงเรียนวัดบางคราม ต.ปากฉลุย ได้กล่าวว่า เหตุเกิดขึ้นที่หมู่ 2-4-5-6- บ้านเคี่ยมเพาะ ห่างจากเขตชุมชนประมาณ 20 กม.ช่วงเกิดเหตุสามารถรับความรู้สึกได้แต่เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หากไม่สังเกตก็จะไม่สามารถรับความรู้สึกได้ แต่ถ้าหากสังเกตก็จะเหมือนกับคนเวียนหัวนิดหน่อย ซึ่งขณะเกิดเหตุตนรับความรู้สึกได้ แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ได้รับความรู้สึก แต่หลังเกิดเหตุแล้วในช่วงเช้าวันนี้ชาวบ้านเพิ่งจะมารู้ว่าเกิดเหตุขึ้นจากสื่อต่างๆ แต่ไม่ตกใจ
ด้าน น.ส สุภาพันธ์ กลางหล้า จนท.อบต.ปากฉลุย บอกว่า พอทราบข่าวก็รู้สึกหวั่นเกรงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาตรวจสอบ และให้ความรู้แก่ประชาชนในพื้นที่ เพื่อจะได้เตรียมพร้อมรับมือต่อเหตุการณ์