xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐส่งเรือพิฆาตเยือนบ้านเก่าฐานทัพอ่าวยุทธศาสตร์เวียดนามครั้งแรกในรอบ 41 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#00003>เรือพิฆาตติดอาวุธปล่อยนำวิถีจอห์น เอส แม็คเคน จอดในอ่าวกามแรง (Cam Ranh) จ.แค้งหว่า (Khanh Hoa) วันอาทิตย์ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา และ ภาพนี้่เป็นภาพประวัติศาสตร์ เป็นเรือรบสหรัฐลำแรกในรอบ 41 ปี ที่ไปเยือนฐานทัพเก่า ที่สหรัฐใช้เงินหลายล้านดอลลาร์ พัฒนาในช่วงสงครามเวียดนาม ก่อนจะตกสู่มือของสหภาพโซเวียต หลังสงครามเวียดนามยุติลง เรือพิฆาตลำนี้ยังตั้งชื่อตามชื่อนายพลเรือสหรัฐ 2 นาย ซึ่งเป็นปู่และบิดา ของ ร.ท.จอห์น เอส แม็กเคน ที่ 3 อดีตนักบินผู้ช่วย ที่ถูกยิงตกเหนือกรุงฮานอยและตกเป็นเชลย ซึ่งปัจจุบันกลายมาเป็นวุฒิสมาชิกจากรัฐแอริโซนา เป็นประธานคณะกรรมการธิการกลาโหม ที่ทรงอิทธิพลในวอชิงตันดีซี.  --  US Navy Photo/Allen McNair. </b>

MGRออนไลน์ -- เรือจอห์น เอส แม็คเคน (USS John S McCain, DDG 56) แล่นเข้าอ่าวกามแรง (Cam Ranh) อ่าวยุทธศาสตร์สำคัญในภาคกลางเวียดนาม สัปดาห์นี้ กลายเป็นการเยือนครั้งแรกโดยเรือรบสหรัฐลำหนึ่ง นับตั้งแต่สงครามยุติลง 41 ปีที่แล้ว ที่นั่นเคยเป็นฐานทัพใหญ่ ซึ่งในช่วงสงครามเวียดนาม สหรัฐใช้เงินหลายล้านดอลลาร์ พัฒนาให้ทันสมัย เรือพิฆาตลำนี้ไปเยือนพร้อมกับ เรือแฟรงค์เคเบิ้ล (USS Frank Cable, AS 40) ซึ่งเป็นเรือพี่เลี้ยงเรือดำน้ำ

จอห์น เอส แม็คเคน เป็นเรือพิฆาตติดอาวุธปล่อยนำวิถีชั้นอาร์ลีห์เบิร์ค (Arleigh Burke-Class) ลำแรกๆ ของชั้น ที่ปัจจุบันต่อออกมาทั้งหมดกว่า 60 ลำ และ ยังมีล็อตใหม่สุดใน "ไฟล้ต์ II" กับ "ไฟล้ต์ III" อยู่ในไลน์การผลิตอีกกว่า 10 ลำ แต่ถึงจะใช้งานมานานเรือแม็คเคน ได้รับการอัปเกรดมาเป็นระยะๆ รวมทั้งติดตั้งระบบควบคุมเอจิส (Aegis) รุ่นใหม่ ติดจรวดต่อสู้อากาศยาน SM2 (Standard Missile 2) ที่ใช้ป้องกันทางอากาศ และ ใช้เป็นจรวดยิงเรือได้ กับ จรวดร่อนโทมาฮอว์ก (BMG–109) ซึ่งเป็นอาวุธโจมตีหลัก

เรือชั้นนี้ยังติดอาวุธปล่อยนำวิถี ยิงเรือดำน้ำ RUM-139 VL-ASROC กับ อาวุธรองอีกหลายชนิด ทั้งปืนใหญ่เรือ และ ปืนยิงเร็วยิงเป้าหมายระยะประชิด ตอร์ปิโดรุ่นใหม่สำหรับภารกิจปราบเรือดำน้ำ ฯลฯ

ส่วนเรือแฟร็งค์เคเบิล เป็นเรือพี่เลี้ยงสำหรับเรือดำน้ำลำหนึ่งของกองทัพเรือ ประจำการที่ฐานเรือเกาะกวม เป็นเรือที่คุ้นเคยกันดีในภูมิภาคนี้ รวมทั้งเมื่อปี 2556 ที่เคยติดตามมาให้บริการเรือดำน้ำชั้นลอสแอนเจลีส ลำหนึ่งถึงก้นอ่าวไทย

ระหว่างปี 2554-2556 เวียดนาม ว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญจากรัสเซีย และ ใช้เทคเนโลยีรัสเซีย ก่อสร้างและพัฒนาท่าเทียบเรือขนาดใหญ่ ในอาณาบริเวณส่วนหนึ่งของอ่าวกามแรง ให้เป็นท่าเรือขนาดใหญ่และ เปิดเมื่อต้นปีนี้ให้เรือของชาติต่างๆ ทั้งพาณิชย์และเรือรบ เข้าไปใช้บริการ
.

ก่อนหน้านั้นเวียดนามเคยใช้อาณาบริเวณดังกล่าว เป็นแหล่งให้บริการซ่อมแซมเรือทุกชนิด รวมทั้งเป็นแหล่งเติมเชื้อเพลิง กับเสบียงอาหาร ที่ผ่านมามีเรือรบอังกฤษ และฝรั่งเศส เคยไปแวะเยือนอ่าวแห่งนี้ เรือริชาร์ด เบียร์ด (USNS Richard Byrd, T-AKE-4) ซึ่งเป็นเรืออำนวยการ ของกองบัญชาการขนส่งทางทะเล กองทัพเรือที่ 7 ก็เคยไปใช้บริการซ่อมแซม ในอ่าวกามแรงมาหลายครั้ง

เป็นพิเศษก็คือ ก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน เรือแม็คเคน ได้ไปแวะเยือนนครด่าหนัง ที่อยู่เหนือขึ้นไปในภาคกลาง เป็นเวลา 3 วัน ทหารเรือสองฝ่ายได้ร่วมกันฝึกในหลายเนื้อหา ที่ไม่เกี่ยวกับการสู้รบ ลูกเรือขึ้นบกร่วมกิจกรรมกับฝ่ายเจ้าภาพ และ ทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม และ มีการแสดงดนตรีของวง "ออเรียนต์เอ็กซ์เพรส" ของกองทัพเรือที่ 7 บนเวทีริมฝั่งแม่น้ำฮั่น

เป็นพิเศษยิ่งกว่านั้นอีกก็คือ การเยือนเวียดนามของเรือจอห์น แม็คเคน ครั้งนี้ อยู่ภายใต้การอำนวยการของ น.อ.เล บ๋า หุ่ง (Lê Bá Hùng) นายทหารเชื้อสายชาวเวียดนามอพยพจากนครเหว ทางภาคกลางตอนบนของประเทศ ซึ่งหลายปีก่อน เมื่อครั้งเป็นผู้บังคับการเรือพิฆาตแลสเซ็น (USS Lassen, DDG 82) ได้เคยไปเยี่ยมบ้านเกิด และ อยู่ร่วมกับญาติพี่น้อง เรือลำดังกล่าวไปเยือนนครด่าหนังเมื่อปี 2552
.


.
ปัจจุบัน น.อ.เล หุ่ง เป็นผู้บังคับการกองเรือพิฆาต 7 กองทัพเรือที่ 7 สหรัฐ ที่กำกับและบังคับบัญชาเรือพิฆาต รวมทั้งเรือจอห์น เอส แม็คเคน กับเรือสนับสนุนอื่นๆ อีกหลาย ที่ประจำในย่านอินโดเอเชียแปซิฟิกขณะนี้

สำหรับเรือจอห์น เอส แม็คเคน ไปเยือนด่าหนังก่อนหน้านี้เมื่อปี 2553 และ 2557 โดยมีการประกอบกิจกรรมคล้ายกัน แต่เป็นครั้งแรกสำหรับอ่าวกามแรง ซึ่งเป็นฐานทัพเรือใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ปัจจุบันยังเป็นที่จอดเรือดำน้ำทั้ง 5 ลำ อีกด้วย

การเยือนอ่าวยุทธศาสตร์ ของเรือจอห์น เอส แม็คเคน มีขึ้นเพียงเดือนเศษ หลังจากประธานาธิบดีบารัก โอบามา ไปเยือนเวียดนาม และ กลายเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่ไปเยือน ประเทศคอมมิวนิสต์แห่งนี้อย่างเป็นทางการ หากไม่นับรวมเมื่อครั้งอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช เคยไปร่วมประชุมผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจแปซิฟิก (เอเปก) ในกรุงฮานอยปี 2550

ประธานาธิบดีโอบามาได้ประกาศ ยกเลิกเอ็มบาร์โกต่อเวียดนาม ทั้งหมด เปิดทางให้ประเทศคอมมิวนิสต์ เข้าถึงแหล่งอาวุธป้องกันประเทศ ที่ผลิตในสหรัฐได้อย่างไม่จำกัดอีกต่อไป

ในช่วงสงครามเวียดนาม คือคริสต์ทศวรรษที่ 1960-1970 สหรัฐเคยควบคุมพื้นที่กว่า 25,000 เอเคอร์ (62,500 ไร่) รอบอ่าวกามแรง ซึ่งในช่วงนั้นเป็นทั้งฐานทัพเรือน้ำลึก และฐานทัพอากาศ เรือรบกับเครื่องบินรบสหรัฐ รวมทั้งเครื่องบินตรวจการณ์ ที่สามารถบินได้ทั่วทะเลจีนใต้ ได้เข้าประจำการที่นั่น เป็นฐานปฏิบัติการสำคัญที่สุดแห่งหนึ่ง ในสงครามต่อต้านเวียดนามเหนือและเวียดกง

เมื่อสงครามยุติลง โดยเวียดนามใต้ หรือ สาธารณรัฐเวียดนาม (Republic of Vietnam) เมื่อก่อน ตกอยู่ในมือของฝ่ายคอมมิวนิสต์และ นำมาสู่การรวมประเทศ เปลี่ยนชื่อจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม (Democratic Republic of Vietnam) หรือ "เวียดนามเหนือ" เป็นสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (Socialist Republic of Vietnam) จนทุกวันนี้
.
<br><FONT color=#00003>ทหารเรือบนเรือแฟร็งค์ เคเบิ้ล (USS Frank Cable, AS 40) ยืนแถว ขณะเรือแล่นเข้าสู่อ่าวกามแรง วันที่ 2 ต.ค.2559 วันเดียวกับที่เรือพิฆาตจอห์น เอส แม็คเคน ไปเยือนครั้งประวัติศาสตร์ หลายปีมานี้ มีเรือกองทัพเรือสหรัฐ รวมทั้งที่ไม่ใช่เรือรบ  เข้าไปใช้บริการในอ่าวยุทธศาสตร์แห่งนี้มาหลายครั้ง การปรากฏตัวของเรือแฟร็งค์ เคเบิ้ล อาจบ่งบอกว่า ไม่นานเรือลำน้ำสหรัฐลำใดลำหนึ่ง อาจไปเยือนที่นั่น เป็นการสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งหนึ่ง. -- US Navy Photo/Alana Langdon.</b>
2
<br><FONT color=#00003>น.อ.เล บ๋าย หุ่ง (Le Bai Hung) รองผู้บังคับการ กองเรือพิฆาต 7 กองทัพเรือที่ 7 สัมผัสมือ นายทหารกองทัพเรือเวียดนามที่ไปต้อนรับ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเรือพิฆาตจอห์น เอส แม็คเคน เริ่มการเยือนนครด่าหนังเป็นเวลา 3 วัน ในโครงการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างกัน สองฝ่ายกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองกองทัพเรือ กว้างขวางยิ่งขึ้น ในช่วง 7 ปีมานี้ มีเรือพิฆาตกับเรืออื่นๆ นับสิบๆ ลำไปเยือนเวียดนาม แต่เป็นครั้งแรกตั้งแต่สงครามยุติลง ที่มีเรือรบลำหนึ่งไปเยือนฐานทัพเก่าอ่าวกามแรง. -- US Navy Photo/Mass Communication Specialist 3rd Class Madailein Abbott. </b>
3
<br><FONT color=#00003>กงสุลใหญ่สหรัฐประจำเวียดนาม นางแมรี ทาร์โนว์คา (Mary Tarnowka) ในพิธีต้อนรับ การเปิดกิจกรรมสัมพันธ์กองทัพเรือ 28 ก.ย.259 ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 7 ระหว่างเวียดนามกับสหรัฐ. -- Photo: American Center/Ho Chi Minh City. </b>
4
หลังสงครามสิ้นสุดลง 4 ปี ในปี 2522 สหภาพโซเวียตได้เซ็นสัญญาเช่าอ่าวกามแรงจากเวียดนาม เป็นเวลา 25 ปี และ ได้กลายเป็นฐานทัพเรือกับฐานทัพอากาศใหญ่ ที่สุดในย่านเอเชียแปซิฟิก ของยักษ์ใหญ่ค่ายคอมมิวนิสต์ยุโรป หันหน้าเผชิญกับฐานทัพอากาศคลาร์ก กับฐานทัพเรือสหรัฐ ที่อ่าวซูบิกในฟิลิปปินส์ ตลอดยุคสงครามเย็น

หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายในปี 2533 รัฐบาลใหม่ได้ถอนกองเรือกับอากาศยาน ออกจากอ่าวกามแรงทั้งหมด และ ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากฐานทัพแห่งนี้อีกเลย รวมทั้งไม่ต่อสัญญาอีก เมื่อสัญญาเช่าจะสิ้นสุดลงในปี 2547 โดยเห็นว่าไม่มีความจำเป็น อีกทั้งในช่วงปีแรกๆ รัสเซี่ยประสบปัญหาเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ซึ่งเวลาต่อเจ้าหน้าที่สหพันธรัฐรัสเซียในยุคใหม่ กล่าวว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างยิ่ง

รัสเซียในปัจจุบันได้เพียรพยายามมาหลายครั้ง ที่จะกลับไปใช้ฐานทัพเก่าของสหรัฐ ในเวียดนาม แต่ถูกปฏิเสธจากเจ้าของประเทศ ซึ่งกล่าวว่า รัฐธรรมนูญใหม่ไม่อนุญาตให้ชาติใด เข้าไปตั้งฐานทัพในดินแดนเวียดนามได้อีก

เรือจอห์น เอส แม็คเคน มีความผูกพันกับเวียดนาม และ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกแนบแน่น ตั้งชื่อตามชื่อนายพลเรือกองทัพเรือสหรัฐ ซึ่งเป็น "นายพลสี่ดาว" ทั้ง 2 นาย คือ พล.ร.อ.จอห์น เอส แม็คเคน (John S McCain, Sr) กับ พล.ร.อ.จอห์น เอส แม็คเคน จูเนียร์ (John S McCain, Jr)

คนแรกเคยเป็นอดีตผู้บังคับการเรือบรรทุกเครื่องบิน ปฏิบัติการรบในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 บุคคลหลังเป็นอดีตผู้บังคับการเรือดำน้ำจำนวน 2 ลำ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนเกษียนในปี 2515 โดยตำแหน่งสุดท้าย เป็นผู้บัญชาการกองเรือแปซิฟิกสหรัฐ

บุคคลทั้งสองเป็นปู่และบิดาของ ร.ท.จอห์น เอส แม็คเคน (John S McCain III) ผู้ช่วยนักบิน F-4 ซึ่งในเดือน ต.ค.2510 เครื่องบินถูกยิงขณะทิ้งระเบิดโจมตีเป้าหมาย ในเมืองหลวงของเวียดนามเหนือ ดีดตัวออกได้ และตกลงในทะเลสาปจุ๊กแบ๊ก (Trúc Bạch) ก่อนถูกจับเป็นเชลย และ ถูกคุมขังในเรือนจำกลางกรุงฮานอย ที่เรียกกันทั่วไปว่า "ฮานอย ฮิลตัน" เป็นเวลา 6 ปีเต็ม จนกระทั่งปี 2516 จึงได้รับการปล่อยตัว
.

<br><FONT color=#00003>เรือ USS John S McCain, DDG 56 ร่วมกับเรือ USS Benfol, DDG 65 ฝึกซ้อมยิงอาวุธปล่อยนำวิถี SM2 (Standard Missile 2) อันเป็นส่วนหนึ่ง ในการฝึกวาเลียนต์ชีลด์ ในทะเลฟิลิปปินส์ 19 ก.ย.2559 ทั้งสองลำประจำกองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตี 5 นำโดยเรือ USS Ronald Raegan, CVN 76 ก่อนลำแรก จะไปเยือนเวียดนาม สร้างหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ในความสัมพันธ์สองฝ่าย สัปดาห์นี้. -- US Navy Photo/Mass Communication Specialist 2nd Class Andrew Schneider. </b>
5
นายเรืออากาศโทคนนั้น ปัจจุบันคือวุฒิสมาชิกจอห์น เอส แม็กเคนที่ 3 สังกัดพรรครีปับลิกัน และ เป็นประธานคณะกรรมาธิการกลาโหม (Senate Armed Services Committee) ที่ทรงอิทธิพลของวุฒิสภา ผู้ออกเรียกร้องในเดือน พ.ค.ปีนี้ ให้กองทัพเรือสหรัฐ กระชับความร่วมมือกับเวียดนามให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

สหรัฐกับเวียดนามในยุคใหม่ พันตูกันทางด้านทหารมานานกว่า 10 ปี และ พัฒนาความร่วมมือระหว่างกันมาเป็นลำดับ และในช่วง 7 ปีที่ผ่านมามีเรือรบสหรัฐไปเยือนเวียดนาม เป็นจำนวนหลายลำ รวมทั้ง เรือบรรทุกเครื่องบินด้วย โดยฝ่ายเจ้าภาพเปิดนครด่าหนังต้อนรับ

เดือน เม.ย.ปีที่แล้ว สหรัฐส่งเรือฟอร์ตเวิร์ธ (USS Forth Worth, LCS 3) ไปเยือนเมืองท่าแห่งเดียวกันนี้ ซึ่งเป็นการเยือนครั้งแรก โดยเรือโจมตีชายฝั่ง (Littoral Combat Ship) ลำหนึ่ง เรือ LCS 3 ไปเยือนเวียดนาม พร้อมเรือฟิตซ์เจอรัลด์ (USS Fitzgerald, DDG 62) เรือพิฆาตชั้นอาร์ลีเบิร์กอีกหนึ่งลำ และ เรือทั้งสองลำอยู่ภายใต้ การอำนวยการของ น.อ.เล บ๋า หุ่ง

การแล่นเข้าสู่อ่าวกามแรงของ เรือจอห์น เอส แม็คเคน ในช่วงสุดสัปดาห์ทีผ่านมา จึงเป็นสัญลักษณ์สำคัญ ของความสัมพันธ์ที่ก้าวไปไกลระหว่างสองกองทัพ และสองประเทศ ..สหรัฐกับเวียดนาม.
.

.

เยี่ยมชมเรือ DDG 56
Courtesy of Tuoi Tre Online

6

7

8

9

10

11

12

13

14

15

16

17
.

เชื่อมสัมพันธ์ไมตรี
US Navy Photo

18

19

20

21

22

23
กำลังโหลดความคิดเห็น