#USNavy’s newest and most technologically advanced surface ship, #USSZumwalt, is brought to life.#ZGram1000 pic.twitter.com/fV6pMt5w0e
— U.S. Navy (@USNavy) October 15, 2016
| บางคนเรียกเรือลำนี้ว่า "ซัม-วอลต์" ขึ้นอยู่กับว่าเป็นใคร หรือมาจากภูมิภาคใดในสหรัฐ แต่ที่นี่ เรียก "ซูม-วอลต์" ตามเสียงที่ถูกต้องของชื่อสกุล พลเรือเอก Elmo "Bud" Zumwalt วีรบุรุษในยุคสงครามเวียดนาม.. (ชมคลิปสัมภาษณ์-ชีวประวัติกับผลงานที่อยู่ล่างลงไป) |
MGRออนไลน์ -- กองทัพเรือสหรัฐได้ทำพิธีบรรจุเรือซูมวอลต์ (USS Zumwalt, DDG 1000) เข้าประจำการอย่างเป็นทางการ สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นี่คือเรือพิฆาตที่ราคาแพงที่สุดตั้งแต่เคยต่อมา และ ถือเป็นการข้ามฝ่าทางด้านเทคโนโลยีกลาโหมครั้งสำคัญที่สุดอีกครั้งหนึ่ง ทั้งทางด้านการอำนวยการและอาวุธยุทโธปกรณ์บนเรือ ซูมวอลต์เป็นเรือต้นของบรรดาเรือพิฆาตยุคหน้า ที่เรียกกันว่า "เรือ DDG 1000" จำนวนทั้งหมด 3 ลำ ที่กำลังจะตามกันออกมา ในอนาคตอันใกล้
พิธีจัดขึ้นวันเสาร์ 15 ต.ค. ตามเวลาในสหรัฐ ที่นอร์ธลูคัสพอยน์ เมืองบัลติมอร์ (Baltimore) รัฐแมรีแลนด์ โดยนายเรย์ มาบัส (Ray Mabus) รัฐมนตรีทบวงกองทัพเรือเป็นประธาน ผู้แสดงสุนทรพจน์หลัก
ซูมวอลต์ เป็นนามที่ตั้งตามชื่อของ พล.ร.อ.เอลโม อาร์ ซูมวอลต์ (Elmo R Zumwalt) หรือ "บัด" ซูมวอลต์ อดีตผู้บัญชาการกองทัพเรือ (Chief of Naval Operations) อายุน้อยที่สุด และ มีบทบาทมากที่สุดอีกคนหนึ่ง ในการเปลี่ยนแปลงนำกองทัพเรือเข้าสู่ยุคใหม่ ในช่วงสงครามเวียดนาม เป็นเรือขั้นใหม่ที่ออกแบบให้สามารถหลบเลี่ยงการสะท้อนคลื่นเรดาร์ (Stealth) เป็นรูปทรงที่เรียกว่า "ทัมเบิ้ลโฮม" (Tumblehome) ปราดเปรียว เพื่อให้แล่นตัดคลื่นได้ดียิ่งขึ้น แต่ภายในกว้างขวาง และ อำนวยการทุกอย่าง ด้วยเทคโนโลยีสูงสุดในปัจจุบัน รวมทั้งติดระบบอาวุธป้องกันกับอาวุธโจมตี ก้าวหน้าที่สุด
นายพลเรือสหรัฐผู้หนึ่งกล่าวว่า "ถ้าหากแบ็ทแมน (มนุษย์ค้างคาว) จะมีเรือสักลำ ก็จะเป็นเรือซูมวอลต์ลำนี้"
"เรือลำนี้เป็นตัวอย่างของความริเริ่มที่ใหญ่กว่า ในการเพิ่มเสถียรภาพการอำนวยการ และ ทำให้สหรัฐเป็นต่อทางด้านยุทธศาสตร์.. กองทัพเรือกับกองกำลังนาวิกโยธินของเรา (สามารถ) ปรากฏตัวในทั่วโลกตลอด 24 ชั่วโมงอย่างแท้จริง -- เป็นหลักประกันสำหรับเสถียรภาพ ให้ความมั่นใจแก่พันธมิตรของเรา ในการป้องปรามฝ่ายตรงข้าม ให้ทางเลือกหลากหลายสำหรับผู้นำประเทศของเรา ในยามวิกฤต" เว็บไซต์กองทัพเรือสหรัฐ อ้างคำกล่าวในตอนหนึ่งของ รมว.ทบวงกองทัพเรือ
เรือพิฆาตลำนี้ เช่นเดียวกันกับเรือน้องอีกสองลำ กำลังจะเข้าปฏิบัติการร่วมกับเรือพิฆาตชั้นอาร์ลีห์เบิร์ก (Arleigh Burke-Class) อีกกว่า 60 ลำ เรือลาดตระเวณ (Cruiser) ชั้นไทคอนดีโรกา (Ticonderoga) อีกเกือบ 20 ลำ เรือโจมตีชายฝั่ง (Littoral Combat Ship) อีกกว่า 30 ลำในอนาคต เรือสนับสนุนใหญ่น้อยอีกหลายขนาด ที่รายล้อมกองเรือบรรทุกเครื่องบินจำนวน 10 ลำ เรือดำน้ำชั้นโอไฮโอ ชั้นลอสแอนเจลีส และ ชั้นเวอร์จิเนีย ที่รวมกันขึ้นเป็นกองทัพเรือใหญ่และทันสมัยที่สุดในโลก
.
.
ขีดความสามารถของระบบคอมพิวเตอร์ ล้ำสมัยของเรือซูมวอลต์ จะเชื่อมข้อมูลเข้ากับกองเรือรบทั้งกอง ให้เรือรบทั้งมวลของสหรัฐ ทั้งใต้น้ำและบนผิวน้ำ น่าเกรงขามและมีพิษสงน่าเกรงกลัวยิ่งขึ้นไปอีก ระบบอาวุธเทคโนโลยีล่าสุดของเรือซูมวอลต์ จะสามารถเข้ากันได้ เป็นอย่างดีกับระบบอาวุธของเรือรบทุกลำที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน นายมาบัสกล่าว
ซูมวอลต์ยังเป็นเรือรบลำแรกที่จะติดปืนใหญ่เรือ 155 มม. ซึ่งเป็นแคลิเบอร์เท่ากับปืนใหญ่สนาม 155 มม. ที่ทหารราบใช้ แต่กระสุนนำวิถียิงระยะไกล มีอานุภาพรุนแรงกว่า กระสุน ป.155 มม.ทั่วไปถึง 5 เท่าตัว สามารถยิงลายเป้าหมาย ที่อยู่ไกลกว่า 120 กิโลเมตร วันข้างหน้าซูมวอลต์จะเปลี่ยนอาวุธหลัก เป็น "เรลกัน" (Rail Gun) ปืนใหญ่ระบบอีเล็กโตรแม็กเนติก หรือ ปืนที่ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าขับดันหัวรบ ที่มีอำนาจทะลุทะลวงสูงยิ่ง เร็วและแรง ยิงได้ไกลกว่า โดยที่ยังไม่มีเทคโนโลยีใดสามารถหยุดยั้งได้ในปัจจุบัน (โปรดชมวิดีโอคลิปข้างล่างประกอบ)
ด้วยขนาด 15,500 ตัน ยาว 186 เมตร เรือพิฆาตลำใหม่ จึงมีชั้นดาษฟ้ากว้างใหญ่กว่าเรือรบลำอื่นๆ มีพื้นที่เพียงพอสำหรับ เครื่องบินร่วมโจมตีแบบ F-35C ขึ้นลงได้ และ อากาศยานโรเตอร์แกนเอียง MV-22 "ออสปรีย์" (Osprey) ลงจอดได้ ส่วนท้ายเรือมีโรงเก็บ ที่สามารถเก็บเฮลิคอปเตอร์ "ซีฮอว์ก" (MH-60R) 2 ลำ หรือ จะเป็น ฮ.ปีกหมุนเพียง 1 ลำ กับโดรนปีกหมุนอีก 4 ลำ รุ่นที่เข้าประจำการในปัจจุบัน และรู้จักกันดีที่สุดก็คือ MQ-8C "ลูกเสือไฟ" (Fire Scout)
รัฐบาลสหรัฐอนุมัติให้ใช้เงินถึง 4,400 ล้านดอลลาร์ ในการต่อเรือขนาดเกือบ 16,000 ตันลำนี้ แพงกว่าเรืออาร์ลีเบิร์ก ขนาด 9,200 ตันรุ่นปัจจุบันถึง 2 เท่าครึ่ง
หมายความว่า ราคาค่าตัวของเรือพิฆาตชั้นใหม่ สามารถต่อเรือพิฆาตที่ใช้อยู่ในปัจจุบันได้สองลำครึ่ง ทำให้ซูมวอลต์กลายเป็นเรือรบราคาแพงที่สุด เท่าที่กองทัพเรือสหรัฐเคยมีมา แต่ขณะเดียวกันกลับใช้นายทหารและลูกเรือเพียง 147 คน ในการออกปฏิบัติการ เทียบกับเรืออาร์ลีห์เบิร์ก (หรือ "เรือ DDG 51") ที่ต้องใช้ถึง 276 คน น้อยกว่ากัน 129 คน
ตามข้อมูลที่เปิดเผย เรือซูมวอลต์ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์ไบน์ เพื่อปั่นไฟฟ้าขนาด 78 เมกะวัตต์ เกือบเท่ากับเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของเรือบรรทุกเครื่องบิน เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนเรือด้วยมอเตอร์ใบพัด ไฟฟ้าขนาดนี้พอใช้สำหรับเมืองขนาดย่อมๆ ทั้งเมือง บนเรือจึงมีไฟเหลือเฟือ สำหรับระบบคอมพิวเตอร์ ระบบอำนวยการ รวมทั้งปืนใหญ่อีเล็กโตแม็กเนติก และ อุปกรณ์อีเล็กทรอนิกส์ในยุคหน้าอีกด้วย
.
.
เมื่อวันที่ 13 ต.ค. หรือก่อนพิธีบรรจุ 2 วัน กองทัพเรือได้เชิญผู้สื่อข่าว ที่เลือกแล้วกลุ่มหนึ่งขึ้นชมบนเรือ และ เป็นครั้งแรกที่สื่อได้เห็นรายละเอียดมากที่สุด
เบื้องหลังของการสร้างเรือซูมวอลต์ขึ้นมา ก็เพื่อให้สามารถเข้าถึงชายฝั่งของฝ่ายปรปักษ์ได้ลึกที่สุด ด้วยคุณสมบัติล่องหน ทำให้เรือ DDG 1000 มีมุมสะท้อนเรดาร์คิดเป็นเพียง 1 ใน 50 ส่วนของเรือ DDG 51 ซึ่งเรือชั้นอาร์ลีห์เบิร์กเอง ก็มีมุมสะท้อนเรดาร์คิดเป็นสัดส่วนเท่าๆ กัน เมื่อเทียบกับเรือลาดตระเวณไทคอนเดโรกา นั่นคือเรือพิฆาตขนาด 15,500 ตัน จะกลายเป็นเรือประมงเล็กๆ ลำหนึ่ง บนจอเรดาร์ฝ่ายตรงข้าม
อาวุธหลักคือ ปืน 155 มม. พร้อมกระสุนนำวิถีกว่า 600 นัด แม้ว่าเรือจะสามารถทำหน้าที่ได้สารพัดก็ตาม จุดประสงค์หลักๆ กลับมีไว้เพื่อสนับสนุนการยกพลขึ้นบกของนาวิกโยธิน หรือ ยิงทำลายเป้าหมายชายฝั่งของข้าศึก และ ยังมีปืนใหญ่ 30 มม. Mk46 อีกสองกระบอกซ่อนอยู่ในโครงการสร้างล่องหน เพื่อป้องกันตนเองในระยะใกล้
แต่ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป เมื่อติดปืนใหญอีเล็กโตแม็กเนติก ซึ่งจะยิงได้อย่างไม่จำกัด ตราบเท่าที่มีไฟฟ้าใช้ ซึ่งเป็นการยิงต่อครั้งในราคาที่ต่ำมากๆ อย่างเหลือเชื่อ เมื่อเทียบกับกระสุนนำวิถี
.
.
มากกว่าที่มองเห็นข้างบนก็คือ เรือซูมวอลต์ติดตั้งระบบท่อยิงอาวุธปล่อยนำวิถี Mk57 ถึง 80 ท่อ ยิงได้สารพัดรุ่น ทั้งจรวดโทมาฮอว์คสำหรับการโจมตีข้าศึก จรวดแอสร็อค (ASROC) สำหรับสงครามใต้น้ำ จรวด ESSM และ จรวด SM2 ในการป้องกันทางอากาศ และ ป้องกันเมื่อถูกโจมตีด้วยอาวุธปล่อยนำวิถี ในอนาคตระบบเราดาร์ใหม่ จะทำให้สามารถยิงจรวด SM3 และ SM6 ได้ ซึ่งทั้งสองรุ่น เป็นอาวุธปล่อยที่สามารถยิงสะกัดขีปนาวุธโจมตีระยะไกล (Ballistic Missile) ได้
ถึงแม้เรือ DDG 1000 จะเข้าประจำการอย่างเป็นทางการแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่ได้อยู่ในสภาพพร้อมรบ เรือกับลูกเรือยังจะต้องผ่านการฝึก และระบบต่างๆ ยังจะต้องผ่านการทดสอบครั้งแล้วครั้งเล่า ไปจนถึงต้นปีหน้า ก่อนจะส่งไปประจำที่ฐานทัพเรือซานดีเอโก แคลิฟอร์เนีย ฐานทัพหน้าด่านแปซิฟิก
กองทัพเรือสหรัฐแถลงก่อนหน้านี้ว่าทั้งเรือซูมวอลต์ เรือไมเคิล มอนซูร์ (Michael Monsoor, DDG 1001) และ เรือ ลีนดอน บี จอห์นสัน (Lyndon B Johnson, DDG 1002) ในอนาคต จะถูกส่งเข้าประจำการกองทัพเรือที่ 3 ที่ซานดีเอโกทั้งหมด นั่นคือด่านแรกสำหรับการ ออกไปประจำกองทัพเรือที่ 7 ที่คุมย่านอินโดเอเชียแปซิฟิก ซึ่งรวมทั้งทะเลจีนใต้.
| กองทัพเรือสหรัฐจัดพิธีบรรจุเรือ USS Zumwalt, DDG 1000 อย่างเป็นทางการ สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่เมืองบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์ เรือพิฆาตยักษ์ต่อในรัฐเมนที่อยู่เหนือขึ้นไป แล่นทดสอบในทะเลที่นั่นเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว ก่อนจะแล่นลงใต้ หลังจากนี้เรือยังจะต้องทำการทดสอบ ระบบต่างๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า จนกว่าจะอยู่ในสภาพพร้อมรบ นั่นคือวันที่จะต้องแล่นผ่านคลองปานามา เพื่อไปประจำยังฐานทัพเรือซานดีเอโก ในแคลิฟอร์เนียอันเป็นที่ตั้งของกองทัพเรือที่ 3 หน้าด่านไปยังแปซิฟิกตะวันตก. |
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
17
16
17
