เอเจนซีส์ - สหรัฐฯ ฝรั่งเศส และอังกฤษ ส่งกองกำลังรบพิเศษสนับสนุนปฏิบัติการยึดเมืองโมซุลของอิรัก พร้อมเสริมทัพด้วยโจมตีทางอากาศ เป็นครั้งแรกสหรัฐฯ ยอมรับอย่างเป็นทางการ “มีกองกำลังรบทางภาคพื้นดินปฏิบัติการในอิรัก” ในวันแรกฉลองชัยโจมตีทางอากาศประสบความสำเร็จอื้อซ่า ทำลาย 3 หน่วยรบ IS สะพานและระบบจ่ายไฟฟ้า ส่วนกองกำลังกำลังเคิร์ดเพชเมอร์การุกคืบ ทำลายรถบรรทุกระเบิดฆ่าตัวตาย 2 คัน ยึดพื้นที่คืนอีกได้ 200 ตารางกิโลเมตรระหว่างเคลื่อนกำลังผ่านที่ราบนิเนเวห์ พบก่อการร้าย IS แฝงตัวอาศัยร่วมกับชาวโมซุล แถมเผายางรถยนต์ปิดทัศนวิสัยบินรบทิ้งระเบิด
หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานเมื่อวานนี้ (17 ต.ค.) ถึงปฏิบัติการยึดเมืองโมซุลคืนที่เริ่มต้นขึ้นในวันจันทร์ (17 ต.ค.) ล่าสุด โดยมีกองกำลังจำนวน 45,000 นายของกองทัพอิรักเป็นกองกำลังหลักในการเข้ายึด มุ่งหน้าเข้าสู่โมซุลทางทิศใต้ ในขณะที่กองกำลังเคิร์ดเพชเมอร์กาเข้าโจมตีขนาบจากทางตะวันออกของโมซุล
ในปฏิบัติการยึดเมืองโมซุลนี้ได้รับการสนับสนุนจาก 3 ชาติมหาอำนาจตะวันตกสหรัฐฯ อังกฤษ และฝรั่งเศส ที่เชื่อว่าได้ร่วมส่งกองรบพิเศษ รวมไปถึงการโจมตีทางอากาศเข้าสนับสนุนปฏิบัติการ
โดยนักข่าวภาคเดอะการ์เดียนที่ประจำอยู่นอกเมืองโมซุลในขณะนี้ได้รายงานความคืบหน้าล่าสุดว่า เมื่อเย็นวานนี้ (17 ต.ค.) กองกำลังเคิร์ดเพชเมอร์กาเคลื่อนคาราวานกองทัพมุ่งหน้าเข้าสู่จุดปะทะทางตะวันออกของเมืองโมซุล โดยเดินทางตัดผ่านที่ราบนิเนเวห์ และได้หยุดอยู่บริเวณหมู่บ้านร้างแห่งหนึ่งเพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทำการสำรวจทุ่นระเบิดที่ทางกลุ่มก่อการร้าย IS อาจแอบฝังไว้
นอกจากนี้ แหล่งข่าวกองกำลังเคิร์ดเพชเมอร์กายังได้เปิดเผยกับเดอะการ์เดียนว่า ทางกองกำลังประสบความสำเร็จในการใช้รถถังทำลายรถบรรทุกระเบิดฆ่าตัวตายจำนวน 2 คันของกลุ่มก่อการร้าย IS และภายในวันจันทร์ (17 ต.ค.) ทางกลุ่มสามารถยึดพื้นที่ราว 200 ตารางกิโลเมตรกลับคืนมาได้
ทั้งนี้ พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่บริเวณที่ราบนิเนเวห์ได้หลบหนีออกนอกพื้นที่ตั้งแต่กลุ่มก่อการร้ายได้เข้ายึดในช่วงหน้าร้อนปี 2014
ในขณะเดียวกัน กองทัพอิรักที่มุ่งหน้าสู่โมซุลจากทิศใต้ได้เคลื่อนกองกำลังเข้าสู่หมู่บ้านต่างๆ บริเวณรอบเมืองโมซุลแล้ว และพบว่าหมู่บ้านเหล่านี้ได้ทำการขับไล่กลุ่มติดอาวุธออกนอกพื้นที่ด้วยตัวพวกเขาเอง โดยในรายงานเบื้องต้นชี้ว่า การรุกคืบจากทางตะวันออกของโมซุล กลุ่มเคิร์ดเพชเมอร์กาไม่ได้รับการต่อต้านมากนักเมื่อเทียบกับกองทัพอิรักและกองกำลังชีอะห์ที่ต้องพบกับการต่อต้านอย่างหนักหน่วงมากกว่า และรวมไปถึงความยากลำบากด้านสภาพภูมิประเทศ ทำให้อุปสรรคในการเคลื่อนกำลัง
ทั้งนี้ยังมีรายงานว่า สหรัฐฯ อังกฤษ และฝรั่งเศสได้ส่งกองกำลังรบพิเศษของตัวเองเข้าสนับสนุนปฏิบัติการเช่นกัน ซึ่งมีบางส่วนทำหน้าที่หาพิกัดการโจมตีกลุ่มก่อการร้ายเพื่อป้อนให้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศรับทำหน้าที่ต่อ
เดอะการ์เดียนรายงานว่า สหรัฐฯ มีกำลังทหารอยู่ในอิรักทั้งหมด 5,000 นาย ซึ่งส่วนใหญ่ทำหน้าที่ให้คำแนะนำแก่ 12 กองพลน้อยที่อยู่ภายใต้การฝึกรบพิเศษสำหรับปฏิบัติการยึดเมืองโมซุล ทั้งนี้ นักข่าว ABC ที่ทำหน้าที่รายงานการรุกคืบของกองกำลังเคิร์ดเพชเมอร์การะบุว่า ***กองกำลังรบสหรัฐฯจากหน่วยอากาศโยธินที่ 101 ถูกพบเห็นออกปฏิบัติการอย่างเปิดเผยร่วมกับกองกำลังเคิร์ดเพชเมอร์กา***
ด้านโฆษกเพนตากอน ปีเตอร์ คุกได้กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า “ในการคาดการณ์เบื้องต้นชี้ว่า กองกำลังอิรักพบกับการต่อต้าน แต่สามารถเคลื่อนที่ไปได้เร็วกว่ากำหนดในวันแรก” และกล่าวต่ออีกว่า ทางสหรัฐฯเชื่อว่า ทางกลุ่มก่อการร้าย IS มีกองกำลังในเมืองโมซุลราว 3,000-5,000 นาย และมีพลเรือนอาศัยอยู่ในเมืองแห่งนี้จำนวน 1 ล้านคน
คุกแถลงต่ออีกว่า “กลุ่มก่อการร้ายเหล่านี้มีเวลาถึง 2 ปีในการขุดและฝังทุนระเบิด IED” และเสริมต่อว่า “เรามีข้าศึกที่มีความสามารถทำให้ชีวิตต้องตกอยู่ในความยากลำบาก”
นอกจากนี้ โฆษกเพนตากอนยังชี้ว่า และเมื่อกองกำลังอิรักสามารถระบุที่ตั้งของกลุ่มก่อการร้าย IS ได้แล้ว ทางอิรักสามารถส่งจุดพิกัดต่อไปยังสหรัฐฯ ที่ทำหน้าที่ Air Controllers สนับสนุนทหารแนวหน้า ซึ่งการออกปฎิบัติการโจมตีทางอากาศแต่ละครั้งจะต้องได้รับอนุญาตจากสหรัฐฯ และอิรักเสียก่อน
คุกย้ำว่า “มีกองกำลังทหารสหรัฐฯอยู่นอกเมืองโมซุล แต่ทว่ากองกำลังอิรักเป็นผู้นำ และกองกำลังสหรัฐฯ จะทำการสนับสนุนจากด้านหลังของแนวหน้า”
ทั้งนี้ สื่ออังกฤษชี้ว่า นี่ถือเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการที่สหรัฐฯ ยอมรับต่อสาธารณะว่าได้ส่งกองรบสหรัฐฯ สู่สนามรบในอิรักหลังจากที่ผ่านมาผู้นำอเมริกา ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ประกาศจุดยืนมาโดยตลอดในการไม่มีกองกำลังสหรัฐฯ ปฏิบัติการภาคพื้นในอิรัก
นอกจากนี้ เพนตากอนยังระบุต่อว่า ใบปลิวจำนวน 7 ล้านแผ่นจะถูกหย่อนลงในโมซุลภายในอีก 48 ชม.ข้างหน้า เพื่อประกาศให้พลเรือนต้องหลบอยู่แต่ภายในบ้านของตัวเอง รวมไปถึงคำแนะนำด้านความปลอดภัยในยามที่มีการรบเกิดขึ้น
เดอะการ์เดียนรายงานต่อว่า ยุทธวิธี Jtacs หรือ Joint Terminal Air Controllers ที่ถูกนำมาใช้จากกองกำลังรบพิเศษสหรัฐฯ คือกองกำลังรบบนภาคพื้นที่มีหน้าที่สังเกตปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ เพื่อยืนยันความแม่นยำของการโจมตี ซึ่งถือว่านี่เป็นการปรากฏตัวของกองกำลังสหรัฐฯ บนพื้นที่การรบในอิรักที่ไม่ได้ทำหน้าที่การรบอย่างเป็นทางการ แต่เป็นการเสริมสมรรถนะปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเหนือเมืองโมซุล
ด้านอดีตนักบินกองทัพเรือสหรัฐฯ คริสโตเฟอร์ ฮาร์เมอร์ (Christopher Harmer) ได้อธิบายในเรื่องนี้ว่า “หากใช้ยุทธวิธี Jtacs ผู้ลงมือสามารถเลือกเป้าหมายบุคคลแบบเรียลไทม์และสามารถทำการโจมตีได้อย่างแม่นยำ แต่หากไม่ใช้ยุทธวิธีนี้ ผู้ปฏิบัติการได้แต่โจมตีทั่วไป และหวังว่าจะประสบความสำเร็จถูกเป้าหมาย”
นอกจากสหรัฐฯ แล้ว ทางสื่ออังกฤษยังเชื่อว่ามีกองกำลังรบพิเศษจากอังกฤษและฝรั่งเศสเข้าร่วมปฏิบัติการยึดเมืองโมซุลคืนด้วย ซึ่งในต้นเดือนตุลาคมนี้พบว่ามีกองกำลังรบพิเศษฝรั่งเศส 2 นายที่ถูกส่งไปทำการฝึกรบให้กับกองกำลังเคิร์ดเพชเมอร์กา ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากโดรนของกลุ่มก่อการร้าย IS ที่ได้เกิดระเบิดขึ้นใกล้กับคนทั้งคู่ในโดฮุค (Dohuk) ห่างจากเมืองโมซุลไปทางตอนเหนือราว 75 กม.
มาจนถึงทุกวันนี้ยังไม่มีการเปิดเผยถึงหน้าที่หลักของกองกำลังรบพิเศษอังกฤษและฝรั่งเศสในปฏิบัติการยึดเมืองโมซุลคืนล่าสุด แต่ทว่าเดอะการ์เดียนชี้ว่าเชื่อว่าทางกองกำลังรบพิเศษอังกฤษได้ร่วมสนับสนุนในการโจมตีทางอากาศ ทั้งนี้ ฝรั่งเศสได้ส่งกองกำลังรบจำนวน 150 นายเข้าควบคุมปืนใหญ่อัตราจร Caesar ซีซา 155 มม. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังวากรัม (Wagram) ของฝรั่งเศส
และยังพบว่าเรือรบบรรทุกเครื่องบินฝรั่งเศส “ชาร์ลส์ เดอ โกล” (Charles de Gaulle) พร้อมเครื่องบินรบขับไล่ราฟาลจำนวน 24 ลำลอยลำอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออกคอยสนับสนุน
เดอะการ์เดียนรายงานว่า เมื่อวานนี้ (17 ต.ค.) เครื่องบินรบสหรัฐฯ ได้โจมตีทางอากาศอย่างต่อเนื่องในบริเวณเป้าหมายรอบเมืองโมซุล และมีรายงานว่าสหรัฐฯ สามารถทำลายหน่วยรบ 3 หน่วยของกลุ่มก่อการร้าย IS พื้นที่ปฏิบัติการ 2 แห่งของกลุ่มก่อการร้าย และรวมไปถึง 12 จุดสัญลักษณ์ของกลุ่ม IS และสะพานอีก 1 แห่ง
นอกจากนี้ จากข้อมูลของกองทัพสหรัฐฯ ยังพบว่า สหรัฐฯ สามารถทำลายทางเข้าอุโมงค์ 6 แห่ง ระบบต่อต้านปืนใหญ่ ระบบจ่ายไฟ 4 แห่งให้กับหอส่งสัญญาณและการสื่อสาร และปืนใหญ่อีก 4 จุด
ในขณะเดียวกัน ประชาชนชาวอิรักในพื้นที่ เช่น อาบู โมฮัมเหม็ด ( Abu Mohammed)วัย 35 ปี ซึ่งเป็นนามแฝง อาศัยอยู่ในโมซุลตะวันออกได้กล่าวเปิดใจกับนักข่าวเดอะการ์เดียนว่า “ในเวลานี้ประชาชนทุกคนต้องหลบอยู่แต่ภายในบ้านของตัวเอง เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรแล้ว ทั้งนี้ สมาชิกลุ่ม IS เดินทางไปทั่วทั้งเมืองบนรถมอเตอร์ไซค์และมีปืนกลและอาวุธต่างๆ ติดตัว”
พร้อมกับกล่าวต่อว่า “เครื่องบินได้เริ่มต้นการโจมตีทางอากาศเหนือท้องฟ้าเมืองโมซุลในเวลา 1.00 น.ในช่วงเช้าวันนี้ และสามารถพบเห็นเครื่องบินรบปรากฏอยู่เสมอ พร้อมยังโจมตีไปที่เป้าหมายเป็นระยะๆ”
นอกจากนี้ โมฮัมเหม็ดยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “กองกำลัง IS ได้ย้ายเข้าไปอยู่ร่วมกับพลเรือนในบ้านพักของพวกเขา ปะปนอยู่ทั่วไป ตัวอย่างเช่น กลุ่มก่อการร้ายได้นำระเบิด IED จำนวนมากเข้าไปซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านหลังหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับบ้านของลูกพี่ลูกน้องของผม และผมได้ขอร้องให้ญาติคนนี้หนีออกไปพร้อมกับครอบครัวของตัวเขา แต่เขากลับปฏิเสธ โดยกล่าวเพียงว่า “ไม่ว่าโชคชะตาจะเล่นตลกอะไรก็ตาม”
ด้าน อาบู ซาบรา (Abu Sabra) ชาวโมซุล วัย 22 ปี ได้ให้ความเห็นกับสื่อเดอะการ์เดียนว่า “ในขณะนี้กลุ่มก่อการร้าย IS กำลังรวบรวมยางรถยนต์ในเมืองทั้งหมดเพื่อเผาที่บริเวณแยกบาชิกา (Bashiqa) ให้เกิดควันไฟสีดำพวยพุ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้นักบินเครื่องบินขับไล่กลุ่มพันธมิตรสามารถมองเห็นเป้าหมาย และโจมตีทางอากาศได้”
ซาบรากล่าวต่อถึงสถานการณ์ในเมืองว่า “พวกเราไม่มีเงินเลยถึงแม้อาหารจะมีราคาถูกมาก แต่พวกเราไม่สามารถจะซื้อได้” และเสริมว่า “ในค่ำนี้พวกเรามีแต่มันฝรั่งทอดเป็นอาหารค่ำเท่านั้น” พร้อมกับเปิดเผยว่า กลุ่มก่อการร้าย IS จะลงมือยิงใครก็ตามที่พยายามหลบหนีออกจากเมืองโมซุล แต่ดูเหมือนว่าจะมีสัญญาณการต่อต้านกลุ่มก่อการร้ายจากภายในเมืองแล้ว