เอเจนซีส์/เอเอฟพี - ล่าสุด สหรัฐฯออกแถลงพบ กลุ่มก่อการร้าย IS ใช้ชีวิตประชาชนโมซุลไม่ต่ำกว่า 700,000 คน เป็นโล่มนุษย์ หลังจุดสุดท้ายกำลังเคิร์ดและอิรักยังห่างไปราว 30 - 40 กม. ด้าน พลจัตวา เซอร์วาน บาร์ซานี (Sirwan Barzani) จากเคิร์ดเพชเมอร์กา ยอมรับ 2 สัปดาห์ ถึงจะประชิดโมซุล ท่ามกลางศึกน้ำลายภายในระอุ อิรัก - เคิร์ด ซัดกันนัว รอให้อีกฝ่ายเดินหน้า ฝรั่งเศส ชี้ ปฏิบัติการยึดโมซุลไม่ง่าย อาจต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะยึดสำเร็จ รัฐมนตรีจาก 20 ประเทศ นั่งโต๊ะกลมร่วมประชุมถกชี้ชะตาในกรุงปารีสวันพรุ่งนี้ (20 ต.ค.)
บีบีซีสื่ออังกฤษรายงานวันนี้ (19 ต.ค.) ว่า โฆษกเพนตากอน นาวาเอก เจฟ เดวิส (Jeff Davis) แถลงจากกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวานนี้ (18 ต.ค.) ว่า “ประชาชนชาวโมซุลถูกใช้ต่างเป็นโล่มนุษย์ที่นั่น” และกล่าวยอมรับว่า “ทางสหรัฐฯไม่พบความเปลี่ยนแปลงในช่วงวันล่าสุดที่จะเห็นประชาชนหลบหนี หรือลี้ภัย”
ซึ่งตรงกันกับรายงานของรอยเตอร์ที่ได้สัมภาษณ์ประชาชนชาวโมซุลที่ยังคงอาศัยอยู่ภายใน ที่ได้กล่าวว่า ทางกลุ่มก่อการร้าย IS บังคับไม่ให้ประชาชนภายในเมืองทำการหลบหนี และรวมไปถึงยังออกคำสั่งให้ประชาชนจำนวนหนึ่งมุ่งหน้าไปยังตึกอาคารที่คาดว่าอาจเป็นเป้าหมายการโจมตีทางอากาศ
ทั้งนี้ มีรายงานว่า มีการประเมินว่า มีพลเรือนจำนวนไม่ต่ำกว่า 700,000 คน ยังคงอาศัยอยู่ภายในเมืองโมซุลในขณะนี้ ในขณะที่กลุ่มก่อการร้าย IS ที่มีกำลังพลราว 5,000 นายภายในเมืองโมซุลจากการประเมินในช่วงเดือนกันยายนล่าสุดของทางเพนตากอนต้องเผชิญหน้าเข้าสู่วันที่ 3 ของปฏิบัติการยึดเมืองโมซุลคืนซึ่งเริ่มต้นมาตั้งแต่วันจันทร์ (17 ต.ค.)
นอกจากนี้ มีรายงานข่าวออกมาจากเมืองคาราคอช (Qaraqosh) ที่อยู่ใกล้เมืองโมซุล ว่า เมืองแห่งนี้ได้รับการปลดปล่อยสำเร็จ แต่ทว่ากลุ่มผู้ปกครองเมืองออกมาโต้ข่าวปฏิเสธการรายงานในภายหลัง
อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯซึ่งเป็นชาติผู้นำกองกำลังพันธมิตรได้ประกาศความสำเร็จสามารถยึดพื้นที่คืนซึ่งเป็นหมู่บ้านจำนวน 10 แห่งได้
ในขณะเดียวกัน ความคืบหน้าในการเคลื่อนกำลังพลของกองกำลังอิรักจากทางใต้และกองกำลังเคิร์ดเพชเมอร์กา จากทางตะวันออกดูเหมือนยังทำได้ช้า โดยพบว่ากองกำลังทั้งสองยังอยู่ห่างจากเมืองโมซุลไปราว 30 - 40 กม.
ซึ่งผู้บัญชาการกองกำลังอิรักภาคพื้นรีอัดฮ์ จาฮาล ทาลฟี (Riadh Jalal Tawfee) แถลงยืนยันว่า ในขณะนี้ทางกองกำลังกำลังล้อมเมืองคาราคอชทางตะวันออก ที่มีกองกำลังสไนเปอร์ยังคงเป็นหน่วยหน้า
โดยก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า กองกำลังฝ่ายพันธมิตรสามารถยึดเมืองคาราคอชได้สำเร็จ สร้างความดีใจในหมู่คริสเตียนชนกลุ่มน้อยในอิรัก ที่ก่อนหน้านี้ได้หลบหนีออกนอกพื้นที่ไปยังเมืองเออร์บิล (Irbil) เมืองเอกของเคิร์ด
และก่อนที่จะมีการเข้ายึดจากกลุ่มก่อการร้าย เมืองคาราคอชที่ตั้งอยู่ห่างจากเมืองโมซุลไป 32 กม. ถือเป็นเมืองศูนย์กลางชุมชนชาวคริสต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอิรัก
บีบีซีรายงานต่อว่า การรุกคืบของกองกำลังอิรักและเคิร์ดเพชเมอร์กา จะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งในเช้าวันนี้ (19 ต.ค.) โดยพบว่าในกองกำลังผสมทั้งหมดราว 34,000 นายนั้น มีทหารอิรัก นักรบชาวเคิร์ด ชนเผ่าอาหรับสุหนี่ และกองกำลังจัดตั้งตัวเองมุสลิมชีอะห์ โดยเพนตากอนแถลงระบุผ่านการรายงานของหนังสือพิมพ์วอลสตรีทเจอร์นัล ว่า ในปฎิบัติการนี้มีกองกำลังชาวเคิร์ดเพชเมอร์กา จำนวน 10,000 คน และมีกองกำลังความมั่นคงอิรักร่วมอยู่ด้วยอีก 18,000 นาย และรวมไปถึงกำลังพลตำรวจรัฐบาลกลางอิรักอีกหลายพันนาย
ด้าน พลจัตวา เซอร์วาน บาร์ซานี (Sirwan Barzani) แห่งกองกำลังเคิร์ดเพชเมอร์กากล่าวผ่านการรายงานของหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ เมื่อวานนี้ (18 ต.ค.) ระบุอาจจะต้องใช้เวลาถึง 2 สัปดาห์ที่ทางกองกำลังอิรักและเคิร์ดเพชเมอร์กา จะเดินทางไปถึงเมืองโมซุลสำเร็จ และจากสถานการณ์สภาพอากาศที่เป็นอุปสรรคอาจจะส่งผลทำให้การต่อสู้ต้องยืดเยื้อออกไป
โดยในการให้สัมภาษณ์กับสื่อสหรัฐฯ CNN ในวันอังคาร (18 ต.ค.) บาร์ซานีกล่าวประเมินถึงการรบในวันที่ 2 ของปฏิบัติการยึดเมืองโมซุล ซึ่งทางกองกำลังเคิร์ดเพชเมอร์กาของเขาได้เคลื่อนผ่านแต่ละหมู่บ้านบนที่ราบนิเนเวห์ไปทางตะวันออก ส่วนกองกำลังอิรักเคลื่อนตัวไปตามถนนไฮเวย์จากกรุงแบกแดดเข้าสู่เมืองโมซุลจากทางทิศใต้
ซึ่งทางผู้บัญชาการรบเคิร์ดเพชเมอร์กา กล่าวว่า “ผมประเมินว่าอาจต้องใช้เวลาถึง 2 เดือนในการต่อสู้ภายในโมซุล แต่ทว่าสภาพอากาศจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้การต่อสู้ต้องยืดเยื้อออกไป”
และยังยืนยันว่า ทางกองกำลังต้องใช้เวลา 2 สัปดาห์ที่จะเดินทางไปถึงเมืองโมซุลสำเร็จ แต่ย้ำว่า จากข้อตกลงระหว่างเคิร์ดเพชเมอร์กา และรัฐบาลอิรักในกรุงแบกแดดที่ระบุว่า ทางฝ่ายเคิร์ดเพชเมอร์กาจะไม่เคลื่อนตัวเข้าไปภายในเมืองโมซุล และลงมือปะทะกับกลุ่มก่อการร้าย IS บนถนนโดยเด็ดขาด ซึ่งหน้าที่ปะทะกับกลุ่มก่อการร้าย IS จะเป็นความรับผิดชอบของกองกำลังหลักอิรัก ตำรวจรัฐบาลกลางอิรัก และกองกำลังชนเผ่าสุหนี่เท่านั้น
และข้อกำหนดห้ามเคลื่อนพลเข้าไปภายในเมืองโมซุล ยังรวมไปถึงกองกำลังจัดตั้งตัวเองชีอะห์ ที่เรียกว่า ฮาชด์ อัล-ชาอาบี (Hashd al-Shaabi) หรือหน่วยประชาชนเคลื่อนตัว (PMU) ซึ่งผู้ช่วยผู้บัญชาการรบกองกำลังฮาชด์ อัล-ชาอาบี อาบู มาห์ดี อัล-มูฮานดิส (Abu Mahdi al-Muhandis) ออกมายอมรับในเรื่องนี้ในวันอังคาร (18 ต.ค.) แต่ทว่า ยังชี้ว่า ทางกองกำลังชีอะห์จะทำการต่อสู้ในบริเวณทางตะวันตกของเมืองโมซุล ที่เมืองทาล อาฟาร์ (Tal Afar)
ทั้งนี้ มีรายงานความไม่ลงรอยเกิดขึ้นภายในกองกำลังพันธมิตรในปฏิบัติการยึดเมืองโมซุลคืน โดยสื่อวอลสตรีทเจอร์นัลรายงานล่าสุดในวันอังคาร (18 ต.ค.) ถึงร่องรอยความแตกแยกระหว่างกองกำลังอิรักและกองกำลังเคิร์ดเพชเมอร์กาก่อนที่จะมีการเริ่มต้นยิงต่อสู้กับศัตรูตัวจริง กลุ่มก่อการร้าย IS เสียด้วยซ้ำ
ความตึงเครียดเกิดขึ้นเมื่อพบการรุกคืบอย่างรวดเร็วจากฝ่ายกองกำลังเคิร์ดเพชเมอร์กา เพราะในเพียงแค่เริ่มปฏิบัติการภายในวันแรก แต่พบว่าฝ่ายเคิร์ดสามารถยึดคืนพื้นที่หมู่บ้านจากกลุ่มตรงกันข้ามได้ถึง 9 แห่ง
และทำให้ พลเอก ซีฮัด บาร์ซานี (Sihad Barzani) น้องชายของมาซวด บาร์ซานี (Masoud Barzani) ประธานาธิบดีเขตปกครองตัวเองเคอร์ดิสถานในอิรัก ได้ออกมาโจมตีกองกำลังอิรักถึงความล่าช้าว่า “พวกเขาไม่เคลื่อนตัวเลย” และกล่าวต่อว่า “แผนการคือพวกเรายึดพื้นที่หมู่บ้านกลับคืน และกองกำลังอิรักเข้ายึดอีกบางส่วน แต่พวกเขากลับไม่ได้ทำอะไรเลย”
ซึ่งในขณะให้สัมภาษณ์ทางบาร์ซานีได้ชี้ไปที่บริเวณใกล้เคียงซึ่งเป็นที่ตั้งของปืนใหญ่ของกองทัพอิรักซึ่งถูกติดตั้งอยู่บนรถบรรทุกที่มีผ้าใบปกคลุม แต่ทว่าทางพลเอก ฮาซา โคเรค (Hazaa Korek) ผู้บัญชาการหน่วยปืนใหญ่แห่งกองกำลังอิรักได้ยืนยันกับเดอะวอลสตรีทเจอร์นัลด้วยเช่นกันว่า “ทางหน่วยแนวหน้าของเรายังไม่ได้เริ่มปฏิบัติการเพราะต้องรอให้กองกำลังเคิร์ดเพชเมอร์กาทำงานให้เสร็จก่อน” ซึ่งทางหน่วยของเขาได้วางแผนเดินหน้าไปยังแนวปะทะในวันก่อนหน้านี้ โคเรค ชี้ และกล่าวอธิบายต่อว่า “แต่ทว่าทางหน่วยมีปืนใหญ่จำนวนมาก จึงจำเป็นต้องหยุดรอที่นี่”
ด้าน พันจ่า ยาดการ์ มูฮัมหมัด (Yadgar Muhammad) แห่งกองกำลังเคิร์ดเพชเมอร์กากล่าวโต้กับหนังสือพิมพ์วอลสตรีทเจอร์นัลในระหว่างที่เขากำลังจิบชาและง่วนอยู่กับปืนกล็อกในมือ ว่า “หากทางเคิร์ดเพชเมอร์กาต้องจัดการเคลียร์ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว จะเหลืออะไรให้กับกองทัพอิรักต้องลงมือ”
การมีกลุ่มกองกำลังชีอะห์อยู่ร่วมกับกองกำลังกองทัพอิรักในปฏิบัติการยึดโมซุลคืนนั้น และยังปรากฏตัวอยู่ในพื้นที่ ถือเป็นความกังวลอย่างมากในส่วนของกลุ่มกองกำลังฝ่ายเคิร์ดเพชเมอร์กา โดยทางบาซาร์นีกล่าวให้ความเห็นว่า “นี่เป็นกองทัพอิรัก หรือกองกำลังอิหร่านกันแน่” และกล่าวต่ออีกว่า “มียานพาหนะทั่วไปที่ติดทั้งธงและสโลแกนของทางกลุ่มเต็มไปหมด”
สื่อธุรกิจชี้ว่า ปัญหาความไม่ลงรอยระหว่างภายในกลุ่มกองกำลังฝ่ายพันธมิตรได้กลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยต่อความสำเร็จในการเข้ายึดเมืองโมซุล ที่อาจทำให้ต้องล่าช้า
โดยพบว่าทางเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ประเมินว่า กองกำลังอิรักอาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์จึงจะสามารถเข้าไปยังเมืองโมซุลได้
โฆษกเพนตากอน ระบุว่า กองกำลังปฏิบัติการมักจะหยุดเคลื่อนตัวบ่อยครั้งจากการรุกคืบสาเหตุจากการหยุดเติมน้ำมัน หรือรอคอยกำลังตามมาสมทบ “ความล่าช้าเริ่มก่อตัวขึ้นในขณะที่พวกเขากำลังเคลื่อนที่ โดยที่ทางกองกำลังต้องหยุด และรอสำหรับหน่วยฝ่ายการส่งกำลังบำรุง การเช็กระวังหลัง และสิ่งอื่น ๆ ที่พวกเขาต้องทำ”
ซึ่งกองกำลังอิรักรายงานว่า ทางกองกำลังล่าสุดอยู่ที่จุดซึ่งกำลังคืบหน้าไปยังเขตฮัมดานิญา (Hamdaniya) ห่างจากภาคกลางของเมืองโมซุลไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 25 กม.
และเอเอฟพีรายงานถึงการกำหนดการประชุมหารือระหว่างรัฐมนตรีจาก 20 ชาติทั่วโลกในกรุงปารีสที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (20 ต.ค.) ถึงสถานการณ์ความคืบหน้าของเมืองโมซุล และในวันอังคาร (25 ต.ค.) ถัดไป จะมีการประชุมระดับรัฐมนตรีกลาโหมชาติต่าง ๆในฝรั่งเศสเพื่อประเมินความคืบหน้าแนวสมรภูมิการรบ
โดยรัฐมนตรีกลาโหมฝรั่งเศส ฌอง-อีฟส์ เลอ ดริญอง (Jean-Yves Le Drian) ได้ให้ความเห็นถึงสถานการณ์ล่าสุดในปฏิบัติการยึดโมซุลคืน ว่า อาจต้องยาวนานหลายเดือนจึงจะสามารถประสบความสำเร็จในการปลดปล่อยโมซุลออกมาจากกลุ่มก่อการร้ายได้ โดยทาง ดริญอง ย้ำว่า “อาจต้องใช้เวลาร่วมหลายสัปดาห์ หรืออาจหลายเดือนในการต่อสู้”