MGRออนไลน์ -- เรือโจมตีชายฝั่ง LCS 4 โคโรนาโด (USS Coronado) กองทัพเรือสหรัฐ แวะเข้าจอดในท่าเรือนานาชาติ อ่าวกามแรง (Cam Ranh/คัมราน) ในภาคกลางเวียดนามวันจันทร์ 11 มิ.ย.นี้ เพื่อตรวจซ่อมบำรุงเป็นเวลา 5 วัน ซึ่งจะเป็นครั้งแรกสำหรับเรือ LCS ที่เข้ารับการตรวจซ่อม ในดินแดนอีกประเทศหนึ่ง ที่ไม่ใช่ศูนย์ซ่อมบำรุงโดยตรง อันแสดงให้เห็นขีดความสามารถอีกประการหนึ่ง กองทัพเรือสหรัฐแถลงเรื่องนี้ในเว็บไซต์วันจันทร์
"การเยือนทางเทคนิคครั้งนี้่แสดงให้เห็น ขีดความสามารถในการซ่อมบำรุง ในขณะออกปฏิบีติการในต่างถิ่น รวมทั้งเป็นการกระชับการเป็นหุ้นส่วน กับเวียดนามอีกด้วย" พล.ร.ต.ดอน เกเบรuยลสัน (Don Gabrielson) ผู้บัญชาการกลุ่มสนับสนุนแปซิฟิกตะวันตก/กองเรือเฉพาะกิจ 73 กล่าว ทั้งยืนยันว่า "การเยือนทางเทคนิค" ครั้งนี้ เป็นประโยชน์ต่อสองประเทศ และ เป็นการขยายความยืดหยุ่นทางภูมิศาสตร์ ในการตรวจบำรุงรักษา ให้เรือมีความพร้อมในระดับสูง
เรือโคโรนาโด ไม่ได้เสียหายอะไร หลังจากเข้าร่วมการฝึกซ้อม กับกองทัพเรือในย่านนี้มาเป็นเวลา 2 เดือน แต่หากเป็น "การตรวจซ่อมบำรุงเพื่อป้องกัน" หรือ preventive maintenance ซึ่งมีถึง 450 รายการที่จะต้องตรวจ อันเป็นการปฏิบัติปรกติ เจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าว
ศูนย์ซ่อมบำรุงของเรือ LCS อยู่ที่ฐานทัพเรือชางง สิงคโปร์ การตรวจซ่อมที่มีขึ้นนอกจุดประจำการ จำเป็นต้องใช้เจ้าหน้าที่ชุดซ่อมบำรุง จากกองบัญชาการสนับสนุนฯ โดยประสานงานอย่างใกล้ชิดกับสถานทูตสหรัฐ ในกรุงฮานอย บริษัทที่รับดำเนินการ และ ทางการที่ท่าเรือนานาชาติท้องที่ของฝ่ายเวียดนาม ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดี
เรือโคโรนาโด เพิ่งเสร็จสิ้นการฝึกซ้อม CARAT 2017 กับราชนาวีไทย วันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังดำเนินมาเป็นเวลา 5 วัน แต่การฝึกซ้อมอื่นกับเรือรบของราชนาวีไทย กองทัพเรือสิงคโปร์ และ กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลของญี่ปุ่น ดำเนินมาก่อนหน้านั้นในท่ะเลจีนใต้
ในช่วงกลางเดือน พ.ค.เรือโจมตีชายฝั่งลำนี้ ได้เคยร่วมกับเรือหลวงนเรศวร (421) ของไทย เรือพิฆาตสหรัฐลำหนึ่ง และ เรือฟริเกตของกองทัพเรือสิงคโปร์อีก 1 ลำ ออกฝึกซ้อมใน CARAT 20147 สามฝ่ายในทะเลจีนใต้ ก่อนเข้าร่วมงาน IMDEX Asia 2017 ที่ท่าเรือชางงี สิงคโปร์ และ กลับมาร่วมฝึกซ้อม CARAT 2017 ทวิภาคีกับไทยอีกครั้ง ในบริเวณอ่าวสัตหีบ 2-6 มิ.ย.นี้
ถึงแม้ว่าการฝึกในทะเลอ่าวไทยจะผ่านไปแล้ว 1 สัปดาห์ แต่การมาปรากฏตัวของเรือ โคโรนาโด มีความหมายสำคัญ ในสายตาของนักสังเกตุการณ์ เนื่องจากเป็นเรือโจมตีชายฝั่ง (Littoral Combat Ship) ของกองทัพเรือสหรัฐลำแรก ที่แล่นเข้าสู่น่านน้ำไทย ถึงแม้เรือ LCS จะสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมา ประจำในย่านแปซิฟิกตะวันตก มาเป็นเวลาหลายปีแล้วก็ตาม
ไทยเป็นประเทศสุดท้ายในย่านนี้ ที่สหรัฐส่งเรือรบรุ่นใหม่ล่าสุด มาร่วมการฝึกซ้อมทางทหาร ซึ่งแสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงทางทัศนคติ ของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อประเทศไทย ที่ต่างไปจากสมัยประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งได้ลดระดับความสัมพันธ์ทางทหาร กับรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ที่สหรัฐกล่าวว่า เป็นรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง
แต่เนื่องจากมีการประกาศการมาเยือนของเรือ โคโรนาโด ตั้งแต่เดือน ก.พ. เมื่อครั้งจัดการแถลงข่าวการฝึกซ้อม CARAT 2017 มาเยือนจริงเมื่อต้นเดือนนี้ ก็จึงไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเท่าที่ควร
.
2
3
4
เรือ LCS 4 เป็นลำที่สาม ที่หมุนเวียนมาประจำการที่ฐานทัพเรือในสิงคโปร์ นับตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา แต่เป็นเรือ LCS ชั้นอินดีเพนเด็นซ์ (Independence) รหัสหมายเลขคู่ลำแรกที่มาประจำในย่านนี้ โดยลำที่หนึ่งเป็นเรือ LCS 1 ฟรีดอม (USS Freedom) ซึ่งเป็นเรือต้นของเรือชั้นฟรีดอม หมายเลขคี่ อันเป็นเรือโจมตีชายฝั่งในอีกรูปลักษณ์หนึ่ง
ลำที่สองเป็นเรือ LCS 3 ฟอร์ตเวิร์ธ (USS Fort Worth) แต่ปฏิบัติหน้าที่ได้ไม่นาน ก็เกิดขัดข้องในระบบเกียร์ ต้องจอดซ่อมที่ฐานทัพชางงีเป็นเวลาหลายเดือน ก่อนจะแล่นกลับไปซ่อมแซมต่อ ที่ฐานทัพเพิร์ลฮาร์เบอร์ มลรัฐฮาวาย และ กองทัพเรือสหรัฐ ต้องส่งเรือ LCS 1 กลับมาประจำในย่านนี้อีกรอบ จนกระทั่งครบวาระ
เรือโคโนาโดก็เช่นกัน หลังการฝึก RIMPAC 2016 ในทะเลรอบๆ มลรัฐฮาวาย ได้มุ่งหน้ามายังแปซิฟิกตะวันตก เพื่อประจำการแทนเรือ LCS 1 แต่แล่นต่อมาไม่นาน ก็เกิดเครื่องยนต์ขัดข้อง ต้องกลับไปยังฐานทัพร่วมเพิร์ลฮาร์เบอร์ เพื่อตรวจซ่อมอีกครั้ง
เรือ Coronado เป็นลำที่ 2 ของเรือชั้นฟรีดอม ซึ่งปัจจุบันต่อออกทั้งหมด 5 ลำ โดยลำล่าสุดคือ LCS 10 เกเบรียล กิฟฟอร์ดส์ (USS Gabriel Giffords) เพิ่งบรรจุเข้าประจำการวันเสาร์ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา พิธีจัดขึ้นที่ท่าเรือกาลเวสตัน (Galveston) มลรัฐเท็กซัส
USS Coronado ยังมีขีดหมายสำคัญหลายประการ ในบรรดาเรือ LCS ด้วยกันทั้งหมด 10 ลำ (รวมเรือชั้นฟรีดอมอีก 5 ลำ) ที่ต่อเสร็จ และ เข้าประจำการแล้วในขณะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ LCS 4 เป็นลำแรกที่ได้ทดลองยิงอาวุธปล่อยนำวิถี ทั้งอาวุธยิงเรือผิวน้ำในระยะไกล และ อาวุธปล่อยนำวิถีป้องกันทางอากาศหลายชนิด เป็นลำแรกอีกเช่นกัน ที่ติดอาวุธปล่อยนำวิถียิงเรือ เอจีเอ็ม-84 ฮาร์พูน (Harpoon) หลังจากเรือ LCS ถูกวิจารณ์ว่า "ไร้เขี้ยวเล็บ" จนอาจจะไม่สามารถป้องกันตัวเองได้
ต่างกับเรือ LCS ลำก่อน เรือโคโรนาโด ยังเป็นลำแรกที่มาประจำการในย่านนี้ พร้อมโดรนปีกหมุนไฟร์สเกาต์ (Fire Scout) จำนวน 2 ลำ โดยไม่มีเฮลิคอปเตอร์ติดมาด้วย เช่นเดียวกับเรือโจมตีชายฝั่ง 2 ลำก่อนหน้านี้.
