เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ของกัมพูชา เปิดเผยวันนี้ (25) ว่า ได้อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ใช้เฮลิคอปเตอร์ทหารติดอาวุธเข้าปราบปรามการลักลอบตัดไม้ ในความพยายามที่จะจัดการต่อปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าของประเทศ
นายกฯ ฮุนเซน ได้มอบหมายให้ พล.อ.เสา สุขะ รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการสารวัตรทหารเข้าจัดการการลักลอบตัด และขนไม้ผิดกฎหมาย
การลักลอบค้าไม้ที่ถูกหล่อเลี้ยงจากความรุนแรง และการรับสินบนของเจ้าหน้าที่ป่าไม้และกองกำลังตระเวนชายแดน ได้ทำลายพื้นที่ป่า 1 ใน 4 ของประเทศในช่วงเวลาเพียงหนึ่งชั่วอายุคน
นักอนุรักษ์ธรรมชาติ กล่าวว่า ฮุนเซน ที่อยู่ในอำนาจตลอดช่วงเวลาดังกล่าว กลับมีความคืบหน้าเพียงเล็กน้อยในการลดการลักลอบตัดไม้ แม้จะป่าวประกาศการปราบปรามมาแล้วหลายครั้งก็ตาม
“เราตระหนักดีว่าการตัดไม้ทำลายป่าต้องได้รับการลงโทษ ผมให้เฮลิคอปเตอร์ 2 ลำแก่ พล.อ.เสา สุขะ และอนุญาตให้พวกเขายิงจรวดได้” ฮุนเซน กล่าว
ฮุนเซน ระบุว่า รัฐบาลของเขาได้ยึดที่ดินเกือบ 6 ล้านไร่ จากบริษัทเอกชนในความพยายามที่จะหยุดการแผ้วถางป่าอย่างผิดกฎหมาย
ผู้นำเขมรยังกล่าวเสริมว่า การค้าไม้ผิดกฎหมายเกิดขึ้นใต้จมูกของเจ้าหน้าที่ และตั้งคำถามว่า “ไม้มีขนาดใหญ่มากเช่นนั้น ตำรวจ สารวัตรตำรวจ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และกระทรวงสิ่งแวดล้อมเอาตาไปไว้ที่ไหน หรือพวกคุณก็เป็นแบบเดียวกันกับพวกเขาเหล่านั้น?”
ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา การลักลอบตัดไม้ผิดกฎหมายเพิ่มจำนวนขึ้นทำให้พื้นที่ป่าของกัมพูชาลดลงอย่างมากจาก 73% ในปี 2533 เหลือเพียง 57% ในปี 2553 ตามการระบุของสหประชาชาติ
การสืบสวนการค้าไม้เต็มไปด้วยความเสี่ยง และการสังหารนักเคลื่อนไหวที่มีชื่อเสียงที่พยายามจะเปิดโปงการลักลอบตัดไม้ ได้สร้างควาามเสียหายต่อประเทศในช่วงไม่กี่ปีมานี้
เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า 1 นาย และตำรวจอีก 1 นาย ที่กำลังสึบสวนการลักลอบตัดไม้ผิดกฎหมายในกัมพูชา ถูกสังหารในเดือน พ.ย. และประชาชนอย่างน้อย 10 คน รวมทั้งทหาร ถูกจับกุมตัวจากเหตุฆาตกรรมดังกล่าว
ในความรีบเร่งที่จะพัฒนาประเทศ รัฐบาลถูกวิพากษ์วิจารณ์ที่อนุญาตให้บริษัทต่างๆ เข้าแผ้วถางพื้นที่ป่าจำนวนหลายแสนไร่ ซึ่งรวมทั้งพื้นที่อนุรักษ์ เพื่อเข้าดำเนินการทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่การทำสวนยาง และไร่อ้อย ไปจนถึงการสร้างเขื่อนไฟฟ้า
กลุ่มสิทธิมนุษยชน และกลุ่มเฝ้าระวังสิ่งแวดล้อมพบความเชื่อมโยงระหว่างการสัมปทานเหล่านี้กับการลักลอบตัดไม้ และกล่าวว่า กองกำลังติดอาวุธของรัฐบาลมักทำหน้าที่เป็นดังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้แก่บริษัทที่ทำผิดกฎหมาย ขณะที่นักสิ่งแวดล้อมก็รู้สึกเคลือบแคลงสงสัยต่อคำสั่งล่าสุดของฮุนเซน
อุช เลง นักเคลื่อนไหวอนุรักษ์ป่าชาวเขมร กล่าวว่า แม้ฮุนเซนจะดำเนินการปราบปรามอยู่หลายครั้ง แต่การลักลอบตัดไม้ก็ยังมีอยู่
“กัมพูชาสูญเสียป่าไปเกือบหมดแล้ว” อุช เลง กล่าว
ความต้องการไม้หายากจากชาวจีน และเวียดนามเชื่อว่าเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้การตัดไม้ทำลายป่าเพิ่มมากขึ้นในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงแห่งนี้.