xs
xsm
sm
md
lg

งามตระการตาสู่หลังคาอินโดจีนกับรถกระเช้าไฟฟ้าเวียดนาม 3,000 เมตรเหนือน้ำทะเล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#00003>ไม่เพียงแต่สะดวกรวดเร็วเท่านั้น แต่เวลา 15 นาทีในการเดินทางสู่ยอดเขาสูงที่สุดในคาบสมุทรอินโดจีนในเวียดนาม สุดคุ้มค่าเหนือราคา เพราะเต็มไปด้วยทัศนียภาพอันสวยงามแห่งขุนเขา ก่อนหน้านี้เดินจากซาปา ขึ้นไปยังยอดเขาฟานสิปานต้องใช้เวลาทั้งวัน เช้าจดเย็นและเต็มไปด้วยอันตราย รถกระเช้าไฟฟ้าเป็นคำตอบ เปิดบริการแล้ววันอังคาร 3 ก.พ. ที่ผ่านมา. -- Zing Online. </b>

MGRออนไลน์ -- นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกรู้จักเมืองซาปา แหล่งท่องเที่ยวบนเขาใน จ.หล่าวกาย (Lao Cai) เป็นอย่างดี แต่ยังมีไม่มากนักที่เคยขึ้นไปถึงยอดเขาฟานสิปาน (Fan Si Pan) ที่อยู่ถัดกันไปเพียงประมาณ 20 กิโลเมตร ทั้งนี้เนื่องจากการขึ้นไปเที่ยวบนยอดสูงที่สุดในเวียดนามนั้นไม่สะดวกและเต็มไปด้วยอันตราย แต่สัปดาห์นี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป

นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เหวียนเตื๋นยวุ๋ง เซ็นอนุมัติโครงการเมื่อปี 2548 แต่หลายปีที่ผ่านมา ถูกคัดค้านจากบรรดานักอนุรักษ์ธรรมชาติ ทั้งในและต่างประเทศ ที่กล่าวว่ารถกระเช้าจะส่งกระทบต่อพืชพรรณและสัตว์ป่า แต่รัฐบาลมีความปรารถนาที่จะสร้าง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และนำการพัฒนาเข้าสู่ท้องถิ่นที่อยู่ห่างไกล การก่อสร้างจึงเริ่มขึ้นเมื่อปี 2556

รถกระเช้าไฟฟ้าจากซาปาไปยังยอดเขาฟานสิปาน ซึ่งเป็นเสมือน "หลังคาอินโดจีน" เริ่มเปิดให้บริการวันอังคาร 2 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยมีสถานีที่หุบเขาเมืองหัว (Muong Hoa) ห่างจากเมืองซาปาไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ราว 10 กิโลเมตร มีมูลค่า 197 ล้านดอลลาร์ เป็นระบบรถกระเช้าสามสาย สายยาวที่สุดในเวียดนาม รวมระยะทาง 6.3 กม. สถานีสุดท้ายอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลราว 3,000 เมตร จากนั้นต้องปีนบันไดอีก 600 ขั้น เพื่อไปถึงยอดเขา

รถกระเช้าแต่ละคันนั่งได้ 35 คน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที เทียบกับการเดินเท้าขึ้นเขา ที่จะต้องใช้เวลาเกือบทั้งวัน ทั้งระบบขนส่งผู้โดยสารได้ 2,000 คนต่อวัน ซิงออนไลน์สำนักข่าวภาษาเวียดนามยอดนิยมรายงาน

การได้ชมความงามแห่งขุนเขาจากมุมสูง ซึ่งสวยงามจับใจนับเป็นกำไรชีวิต 15 นาทีแห่งการเดินท่างจึงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น จากความงดงามตระการตาที่อยู่เบื้องหน้าและเบื้องล่าง สื่อออนไลน์กล่าว

นายห่าวันคเวียน (Ha Van Khuyen) วัย 70 ปี กับหลานชายวัย 3 ขวบ ที่ไปกับรถกระเช้าไฟฟ้าเที่ยวปฐมฤกษ์ เคยพิชิตยอดฟานสิปานเมื่อปี พ.ศ.2515 อีกครั้งหนึ่งในปี 2530 แต่ครั้งหลังไปในฐานะมัคคุเทศน์นำเที่ยวให้แก่กรู๊ปทัวร์ชาวโซเวียต

นอกจากบรรดาเจ้าหน้าที่ของรัฐในพื้นที่แล้ว รถกระเช้าเที่ยวปฐมฤกษ์ยังมีนักปีนเขาชาวเวียดนามอีก 2 คนรวมอยู่ด้วย ทั้งคู่เคยขึ้นไปปักธงชาติ บนยอดสูงสุดเมื่อ 8 ปีที่ก่อน

การสำรวจโดยองค์การบริหารการท่องเที่ยวเวียดนามพบว่า มีประชาชนจำนวนมากต้องการขึ้นไปเที่ยวชมทิวทัศน์ จากจุดสูงที่สุดของประเทศ แต่สภาพทางภูมิศาสตร์และสภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวย รถกระเช้าทำให้ความฝันของทุกคนเป็นจริง ด้วยตั๋วโดยสารราคา 600,000 ด่ง (ประมาณ 1,000 บาท) สำหรับผู้ใหญ่ และ 400,000 ด่ง สำหรับเด็กโตสูง 130 ซม.ขึ้นไป เด็กเล็กสามารถติดตามผู้ปกครองขึ้นไปได้ฟรี

นับเป็นระบบรถกระเช้าไฟฟ้าแห่งที่สองในเวียดนาม แห่งแรกอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวภูเขานครด่าหนัง ทางตอนกลางของประเทศ

ในปัจจุบันบริษัทลงทุนเอกชนแห่งหนึ่ง กำลังก่อสร้างระบบรถกระเช้าที่เกาะฟุก๊วก (Phu Quoc) เกาะท่องเที่ยวในทะเลอ่าวไทย จากเกาะใหญ่ข้ามอ่าวไปยังเกาะเล็กทางตอนใต้ ซึ่งจะมีสวนสนุกขนาดใหญ่กับแหล่งบริการอื่นๆ ครบครัน และ จะเป็นแห่งที่สาม.
.
[Courtesy Zing Online]
.

2
<br><FONT color=#00003>นายห่าวันคเวียน (Ha Van Khuyen) วัย 70 ปี เคยพิชิตฟานสิปาน 48 ปีที่แล้ว กลับไปคราวนี้พร้อมกับหลานชาย. -- Zing Online. </b>
3
<br><FONT color=#00003>ชายทั้งสองในภาพเคยขึ้นไปปักธงบนยอดฟานสิปาน 8 ปีก่อน เมื่อวันอังคารไปกับเที่ยวปฐมฤกษ์ด้วย.  -- Zing Online. </b>
4

5
<br><FONT color=#00003>ค่าตั๋ว 600,000 ด่งสำหรับผู้ใหญ่ 400,000 ด่งสำหรับเด็กโตสูง 130 ซม.ขึ้นไป เด็กเล็กขึ้นฟรีกับผู้ใหญ่.   -- Zing Online. </b>
6

7
<br><FONT color=#000033>จากสถานีสุดท้ายขึ้นบันไดอีก 600 ขั้นก็ถึง หลังคาอินโดจีน กว่า 3,100 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล. -- Zing Online. </b>
8

9

10
กำลังโหลดความคิดเห็น