รอยเตอร์ - นายกรัฐมนตรีของเวียดนาม ได้เรียกร้องบทบาทของสหรัฐฯ ในการป้องกันการเสริมกำลังทางทหาร และการสร้างเกาะในทะเลจีนใต้ให้มากยิ่งขึ้น ตามการเปิดเผยของรัฐบาลเวียดนาม ในการร้องขอที่มีไม่บ่อยนักสำหรับการสนับสนุนจากวอชิงตันเพื่อควบคุมการขยายดินแดนทางทะเลของปักกิ่ง
ระหว่างการประชุมสุดยอดชาติสมาชิกอาเซียน ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันจันทร์ (15) นายกรัฐมนตรีเหวียน เติ๋น ยวุ๋ง ได้แนะนำประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ ว่า วอชิงตันใช้เสียงที่หนักแน่น และดำเนินการในทางปฏิบัติมากขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้นในความคิดเห็นที่มีแนวโน้มจะสร้างความขุ่นเคืองต่อจีน
ความตึงเครียดพุ่งสูงขึ้นนับตั้งแต่การก่อสร้างเกาะเทียม 7 แห่งของปักกิ่ง ในหมู่เกาะสแปรตลีย์
รัฐบาลเวียดนามระบุบนเว็บไซต์ข่าวของทางการว่า นายกรัฐมนตรียวุ๋ง แนะนำว่าสหรัฐฯ ควรส่งเสียงหนักแน่นขึ้น และดำเนินการในทางปฏิบัติมากขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อเรียกร้องการยุติทุกกิจกรรมที่เปลี่ยนแปลงสภาพที่เป็นอยู่
แม้คำแถลงไม่ได้กล่าวเจาะจงถึงจีน แต่คำแถลงระบุว่านายกฯ ยวุ๋ง ได้อ้างถึงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของเกาะเทียม และการเสริมกำลังทหาร
ตามเส้นประ 9 เส้นรูปตัวยู (U) บนแผนที่อย่างเป็นทางการของจีน จีนอ้างสิทธิอธิปไตยเหนือพื้นที่ส่วนใหญ่ของทะเลจีนใต้ ขณะที่มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน บรูไน และเวียดนาม ต่างอ้างสิทธิเหนือพื้นที่บางส่วนของทะเลจีนใต้เช่นกัน
โอบามา และพันธมิตรจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หันความสนใจของพวกเขาไปที่จีนในวันอังคาร (16) ซึ่งเป็นวันที่สองของการประชุมสุดยอดที่มีวัตถุประสงค์ที่จะปรับปรุงการค้า และจัดหาแนวร่วมในข้อขัดแย้งทางทะเลกับปักกิ่ง
จีนกล่าวหาสหรัฐฯ แสวงหาการครอบครองอำนาจทางทะเลในเอเชีย ซึ่งวอชิงตันกล่าวว่า ความสนใจของสหรัฐฯ ในทะเลจีนใต้นั้นคือการรักษาเสรีภาพในการเดินเรือ
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สหรัฐฯ เพิ่มเดิมพันด้วยการส่งเรือพิฆาตติดจรวดนำวิถี USS Lassen และ USS Curtis Wilbur เข้าใกล้พื้นที่พิพาทที่จีนครอบครองอยู่
แม้ว่าเวียดนามมักจะคัดค้านกิจกรรมของจีนในน่านน้ำพิพาทอยู่เป็นประจำ แต่ผู้นำของเวียดนามก็มักระแวดระวังการยั่วยุเพื่อนบ้านยักษ์ใหญ่ ที่มีมูลค่าทางการค้าระหว่างกันมากกว่า 60,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี และเพื่อรักษาความสัมพันธ์ทางอุดมการณ์
นายกฯ ยวุ๋ง ได้รับความนิยมในเวียดนามจากการบรรลุความสัมพันธ์ทางการค้า และการป้องกันกับสหรัฐฯ และสำหรับท่าทีที่หนักแน่นกว่า เมื่อเทียบกับมาตรการที่ผู้นำเวียดนามคนอื่นๆ ใช้ในการตอบโต้การรุกรานของปักกิ่ง
แต่ยวุ๋ง ถูกมองข้ามจากคณะกรมการเมืองพรรคเมื่อเดือนก่อนในการเสนอชื่อสำหรับตำแหน่งหัวหน้าพรรค ซึ่งหมายความว่า อาชีพทางการเมืองของเขาจะยุติเมื่อวาระการดำรงตำแหน่งสิ้นสุดลงในปีนี้
ผู้นำเวียดนามยังขอให้โอบามายกเลิกมาตรการห้ามขายอาวุธร้ายแรงต่อเวียดนามอย่างสมบูรณ์ ที่จะเป็นวิธีการสำคัญที่จะเสริมความไว้วางใจทางการเมือง เว็บไซต์ของรัฐบาลเวียดนามอ้างคำกล่าวนายกรัฐมนตรีของประเทศ
และในวันเดียวกันนี้ ทำเนียบขาวระบุว่า โอบามาจะเดินทางเยือนเวียดนามในเดือน พ.ค.