เอเจนซีส์ - สื่อทางการจีนเมื่อวันพุธ (28 ต.ค.) พากันประณามอเมริกาส่งเรือพิฆาต “รุกล้ำ”น่านน้ำ แต่สนับสนุนให้ปักกิ่งอดกลั้น เพื่อให้เห็นว่า มีวุฒิภาวะเหนือกว่า “อันธพาลอเมริกัน” ขณะที่ชาวเน็ตแดนมังกรยัวะจัด เรียกร้องให้ตอบโต้ขั้นเด็ดขาด ในอีกด้านหนึ่งมีรายงานเพิ่มเติมว่า จีนได้ส่งเรือตามประกบเรือรบสหรัฐฯ โดยที่นาวีอเมริกันลำนี้ไม่ได้แค่แล่นเฉียดเกาะเทียมของจีนเท่านั้น แต่ยังโฉบใกล้แนวปะการังที่เวียดนามและฟิลิปปินส์อ้างกรรมสิทธิ์ด้วย
ทะเลจีนใต้กำลังกลายเป็นสนามประลองกำลังทางเศรษฐกิจและการทหารเพื่อชิงความเป็นผู้นำในเอเชียระหว่างอเมริกากับจีน โดยล่าสุดเมื่อวันอังคาร (27) วอชิงตันส่งเรือพิฆาตติดจรวดนำวิถี “ยูเอสเอส แลสเซน” แล่นเข้าสู่ระยะ 12 ไมล์ทะเลห่างจากเกาะเทียมที่แดนมังกรเดินหน้าสร้างขึ้นโดยไม่ฟังการคัดค้านของเพื่อนบ้านหลายชาติที่อ้างสิทธิ์ในบริเวณดังกล่าวเช่นเดียวกัน
วันเดียวกันนั้น เจ้าหน้าที่อเมริกันยังกล่าวอีกว่า ในเร็วๆ นี้ กองทัพเรือจะส่งเรือรบเข้าไปในบริเวณดังกล่าวอีก เนื่องจากเป็นน่านน้ำสากล และยังระบุว่า เรือแลสเซน ถูกเรือจีนแล่นติดตามมาหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้
เจ้าหน้าที่อเมริกันอีกสองคนเผยว่า มีการติดต่อผ่านวิทยุสื่อสารกับจีนขณะที่เรือรบแลสเซนเข้าใกล้แนวปะการัง “ซูบี” ที่จีนสร้างเกาะเทียม
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ทหารของสหรัฐฯผู้หนึ่งระบุว่า เรือแลสเซน ยังแล่นเข้าสู่ระยะ 12 ไมล์ทะเลจากเกาะปะการังในทะเลจีนใต้ ซึ่งเวียดนามและฟิลิปปินส์ อ้างกรรมสิทธิ์เช่นเดียวกัน โดยที่ในขณะนั้นเรือจีนไม่ได้ตามประกบในระยะประชิด
ขณะเดียวกัน จอห์น เคอร์บี้ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวระหว่างการแถลงข่าววาระปกติเมื่อวันอังคารว่า ความสัมพันธ์จีน-อเมริกามีความสำคัญอย่างมาก และวอชิงตันต้องการให้สัมพันธภาพนี้คืบหน้าต่อไปเพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศ โดยที่ไม่ควรนำสถานการณ์ในทะเลจีนใต้มาเป็นประเด็นถ่วง
ทางด้านปักกิ่งที่ย้ำมาตลอดว่า จะใช้มาตรการเด็ดขาดกับประเทศที่ละเมิดอธิปไตย แต่เมื่อเกิดเหตุจริง กลับทำเพียงส่งเรือพิฆาตติดจรวดนำวิถีและเรือตรวจการณ์ตามประกบ พร้อมส่งคำเตือนไปยังเรือแลสเซน โดยไม่ได้เข้าแทรกแซงอย่างเป็นรูปธรรมใดๆ รวมทั้งกลับไปใช้สูตรเดิมคือ เรียกเอกอัครราชทูตอเมริกันประจำปักกิ่งเข้าพบเพื่อแสดงการประท้วง และประณามการกระทำของวอชิงตัน พร้อมขู่ลอยๆ ว่า จะตอบโต้ขั้นเด็ดขาด
กระทรวงกลาโหมจีนออกคำแถลงในวันอังคารว่า การตรวจการณ์ลาดตระเวนของอเมริกาเป็นการดำเนินการแบบบีบบังคับ และพยายามสะสมกำลังทางทหารในทะเลจีนใต้ รวมทั้งละเมิดเสรีภาพในการเดินเรือภายใต้กฎหมายสากล
ขณะเดียวกัน สื่อของทางการจีนต่างเชียร์ให้รัฐบาลอดกลั้นกับการยั่วยุของอเมริกา แม้แต่โกลบัล ไทมส์ ซึ่งขึ้นชื่อว่า มีจุดยืนชาตินิยมเข้มข้น ยังย้ำถึงความจำเป็นที่จีนจะต้องแสดงให้เห็นว่า มีวุฒิภาวะเหนือกว่าอันธพาลอเมริกัน
“เห็นได้ชัดว่า เพนตากอนกำลังยั่วจีน ถ้าเรารู้สึกเสียหน้าและพ่นคำผรุสวาท จะเท่ากับว่า อเมริกายั่วยุเราสำเร็จ”
อย่างไรก็ดี สื่อบางฉบับ อาทิ เจ่ฟ่างจิ๊ว์นเป้า ของกองทัพ แสดงความเห็นในบทความหน้าหนึ่งฉบับวันพุธ (28) ว่า อเมริกาต้องเรียนรู้บทเรียนจากความวุ่นวายในอิรักและอัฟกานิสถานว่า การแสดงอำนาจบาตรใหญ่ของตัวเองไม่สามารถสร้างเสถียรภาพได้
“ข้อเท็จจริงแสดงให้เห็นซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า การใช้กำลังอย่างสะเพร่าเลินเล่อของอเมริกาและก่อสงคราม ทำให้ดินแดนที่เคยมีเสถียรภาพ เกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย และสร้างความเสียหายรุนแรงที่สุดต่อประเทศที่เกี่ยวข้องโดยตรง”
สำหรับชาวเน็ตจีนนั้นเรียกร้องให้ปักกิ่งตอบโต้ขั้นเด็ดขาดให้สมกับที่เป็นมหาอำนาจโลกและบัญชาการกองทัพที่ใหญ่ที่สุดในโลก
“อเมริกามาท้าทายเราถึงประตูบ้าน การประณามเหมือนที่ผ่านๆ มาคงไร้ประโยชน์” ผู้ใช้คนหนึ่งแสดงความคิดเห็นบนเว็บไซต์ซินล่าง เวยป๋อ ขณะที่อีกคนแนะนำให้จมเรือรบอเมริกันที่รุกล้ำเข้ามาให้รู้แล้วรู้รอด
