เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่พม่าเผยว่า ทางการได้เริ่มเก็บรวบรวมบัตรประชาชนชั่วคราวคืนจากชาวมุสลิมโรฮิงญาในรัฐยะไข่ ในความเคลื่อนไหวที่สหประชาชาติเตือนว่า อาจเป็นการยึดเอกสารทั้งหมดจากชาวโรฮิงญา
เจ้าหน้าที่พร้อมกองกำลังรักษาความปลอดภัยได้เดินทางไปตามค่ายผู้ไร้ที่อยู่อาศัยอันเนื่องจากเหตุความรุนแรงระหว่างชาวพุทธ และมุสลิมในรัฐทางภาคตะวันตกของพม่านับสิบแห่ง เจ้าหน้าที่ได้ขอให้ผู้ที่อยู่ในค่ายคืน “บัตรขาว” หลังประธานาธิบดีมีประกาศในเดือน ก.พ. ว่า บัตรดังกล่าวจะหมดอายุลงในวันที่ 31 มี.ค.
“เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองบอกว่า สถานการณ์เป็นไปด้วยดี พวกเขารวบรวมบัตรจากผู้ที่อยู่ในค่ายผู้ไร้บ้าน 11 แห่ง พร้อมกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย” เจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อสารของรัฐบาลรัฐยะไข่ เผย
ประชาชนหลายแสนคนที่ส่วนใหญ่เป็นชนกลุ่มน้อยโรฮิงญา คาดว่าเป็นผู้ที่ถือบัตรขาวเหล่านี้ ซึ่งเห็นได้ชัดเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการยื่นขอสิทธิความเป็นพลเมือง
ประธานาธิบดีเต็งเส่ง ประกาศว่าบัตรขาวจะหมดอายุลง หลังเกิดข้อขัดแย้งเกี่ยวกับกฎหมายรัฐสภาที่จะอนุญาตให้ผู้ถือบัตรประชาชนชั่วคราว (บัตรขาว) สามารถลงคะแนนเสียงในการลงประชามติต่อการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญได้ ซึ่งความคิดนี้ก่อให้เกิดการชุมนุมประท้วงจากบรรดาพลเมืองชาวพุทธ
ชาวโรฮิงญา ที่สหประชาชาติระบุว่า เป็นหนึ่งในชนกลุ่มน้อยที่ถูกข่มเหงรังแกมากที่สุดในโลก ถูกรัฐบาลพม่าระบุว่า เป็นชาวเบงกาลี และชาวพม่าส่วนใหญ่ก็มองว่าชาวโรฮิงญาเหล่านี้เป็นผู้อพยพผิดกฎหมายมาจากบังกลาเทศ
“ประชาชนกังวลเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมบัตรขาว เพราะพวกเขาไม่มีบัตรประจำตัวอื่นๆ” อาบู ตาเฮ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยแห่งชาติเพื่อการพัฒนา ที่รณรงค์เรียกร้องสิทธิชาวโรฮิงญา กล่าว
กลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวว่าหลายคนสูญเสียเอกสารสำคัญไปกับเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นทั่วรัฐยะไข่ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
ด้านผู้แทนพิเศษของสหประชาชาติ ด้านสิทธิมนุษยชนในพม่า ยางฮี ลี ได้ยกประเด็นเกี่ยวกับการหมดอายุของบัตรขาวลงในรายงานเกี่ยวกับพม่าเมื่อไม่นานนี้ โดยระบุว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะเป็นการปฏิเสธการระบุตัวตนในทุกรูปแบบ และสิทธิในการลงคะแนนเสียงของชนกลุ่มน้อยโรฮิงญา.