เอเอฟพี - พรรคฝ่ายค้านพม่า ของนางอองซานซูจี เผชิญต่อการเรียกร้องให้เพิ่มคนหนุ่มสาวเข้าไปทำหน้าที่ในตำแหน่งระดับสูงของพรรคที่เต็มไปด้วยผู้สูงอายุ ในการประชุมพรรคครั้งสำคัญที่อุทิศให้แก่บรรดาคนหนุ่มสาวของพรรคเมื่อวันเสาร์ (5)
พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ที่ก่อตั้งขึ้นหลังการปราบปรามนองเลือดในปี 2533 กำลังเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งครั้งสำคัญที่จะมีขึ้นในปีหน้าในความหวังที่อาจกวาดคะแนนเสียงเข้าสู่อำนาจ
หม่อง หม่อง อู หนึ่งในผู้จัดการประชุมสมาชิกพรรคฝ่ายค้านราว 150 คน ที่มีอายุระหว่าง 16-35 ปี กล่าวว่า การประชุมมีวัตถุประสงค์ที่จะส่งเสริมผู้นำรุ่นใหม่
“ไม่เพียงเฉพาะพรรคของเรา แต่ทั้งประเทศเผชิญกับช่องว่างระหว่างรุ่น” หม่อง หม่อง อู กล่าว
นักเคลื่อนไหวหนุ่มสาวมักเป็นแนวหน้าในการต่อต้านการปกครองของทหาร ที่สิ้นสุดลงไปเมื่อปี 2554 และแทนที่ด้วยรัฐบาลพลเรือน แต่คนกลุ่มนี้ยังคงดิ้นรนต่อสู้ที่จะก้าวเข้าไปสู่ระบบรัฐสภาในประเทศที่เคารพให้เกียรติอย่างสูงต่อผู้สูงอายุ
“ฉันเดาได้ว่าคนรุ่นใหม่บางส่วนมีความคิดว่า ถึงตาของพวกเขาแล้ว และสงสัยว่าผู้สูงอายุจะปล่อยมือจากตำแหน่งหรือไม่” ซูจี กล่าวในการเปิดประชุม
“คุณจำเป็นต้องพิจารณาว่าผู้สูงอายุเหล่านั้นได้พยายามมาเป็นระยะเวลายาวนานเพื่อให้แน่ใจว่าพรรค NLD อยู่รอดปลอดภัย” ซูจี กล่าว
สมาชิกคนหนุ่มสาวได้เรียกร้องให้พรรคปรับปรุงตำแหน่งอาวุโสของพรรค ที่ถูกครอบครองโดยนักเคลื่อนไหวในยุคทศวรรษ 60 หรือบรรดาผู้สูงอายุ แต่จนถึงเวลานี้พรรคยังไม่ได้ทำการปรับเปลี่ยนอะไรมากนัก
“เสียงของเยาวชนคนหนุ่มสาวในพรรคยังคงอ่อนแอ” ยาซา สมาชิกพรรค NLD อายุ 37 ปี กล่าว
“ผมไม่พอใจต่อโครงสร้างในปัจจุบันที่ขาดคณะกรรมการบริหารส่วนกลางที่เหมาะสม ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับดอว์อองซานซูจี ผมไม่คิดว่านั่นเป็นสัญญาณที่ดี” ยาซา กล่าว
แต่ยังคงต้องยอมรับว่า พรรคจำเป็นต้องใช้ประสบการณ์ของนักเคลื่อนไหวที่ผ่านประสบการณ์มาแล้วเหล่านี้
“เรา เยาวชนคนรุ่นใหม่ ยังคงต้องเรียนรู้อีกหลายสิ่งสำหรับอนาคตของพม่า ดังนั้น เราจำเป็นต้องสร้างความสามารถเป็นอย่างแรก เราจะเรียนรู้สิ่งที่ดีจากผู้สูงอายุ และเลี่ยงสิ่งไม่ดีให้ดีที่สุด” อุกกา มิน อายุ 29 ปี จากเมืองมะริด กล่าว
ประธานาธิบดีเต็งเส่ง ของพม่า ได้รับการชื่นชมจากการดำเนินการปฏิรูปประเทศนับตั้งแต่ขึ้นบริหารในปี 2554 รวมทั้งการปล่อยตัวนักโทษการเมือง ยุติระบบการเซ็นเซอร์สื่อโดยตรง และการเข้าสู่รัฐสภาของฝ่ายค้าน
ซูจี ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งซ่อมปี 2555 และถูกคาดหมายว่าจะนำพรรคไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้งปีหน้า หากการเลือกตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม
ซูจี แสดงความปรารถนาที่จะทำหน้าที่ประธานาธิบดี และเดินหน้ารณรงค์อย่างจริงจัง ที่แม้ว่าจนถึงเวลานี้ยังไม่ประสบความสำเร็จ ให้บรรสมาชิกสภาเห็นชอบแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ห้ามนางทำหน้าที่ดังกล่าว
“เราจะทำงานเพื่อให้ได้ชัยชนะอย่างถล่มทลาย แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ เราจำเป็นต้องคิดถึงรุ่นต่อไป เยาวชนคนรุ่นใหม่ทุกวันนี้จะต้องคิดถึงการเลือกตั้งครั้งถัดไปด้วยเช่นกัน” ซูจี กล่าว
ผู้เชี่ยวชาญบางคนตั้งคำถามถึงความพร้อมของฝ่ายค้านต่อความท้าทายในการบริหารประเทศ ที่รวมทั้งการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน จัดการกับชนกลุ่มน้อย และความรุนแรงระหว่างศาสนา เริ่มฟื้นฟูเศรษฐกิจ สาธารณสุข และการศึกษา
“บนทางข้างหน้า ไม่ว่าคนหนุ่มสาว หรือผู้สูงอายุจะชอบหรือไม่ก็ตาม คนหนุ่มสาวเหล่านี้จะต้องทำหน้าที่ในวันหนึ่ง ผู้สูงอายุจะค่อยๆ หายไปตามธรรมชาติ และคนหนุ่มสาวก็จะกลายเป็นผู้สูงอายุ จงอย่าลืมสิ่งนี้” ซูจี กล่าวต่อที่ประชุม.