เอเอฟพี - ผู้เห็นต่างกับรัฐที่มีชื่อเสียงชาวเวียดนาม ที่ได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระจากการรณรงค์ของต่างชาติ ได้ร้องต่อรัฐบาลเวียดนามให้ปรับปรุงกฎหมายของประเทศ โดยระบุว่าสิทธิมนุษยชนจะพัฒนาได้ผ่านการปฏิรูปหลักพื้นฐานเท่านั้น
นายกู่ ฮวี ห่า หวู บุตรชายแกนนำนักปฏิวัติชาวเวียดนาม ถูกตัดสินจำคุกนาน 7 ปี เมื่อเดือน เม.ย.2554 หลังพยายามฟ้องร้องนายกรัฐมนตรีเพื่อให้ยุติแผนก่อสร้างเหมืองแร่ที่ไม่ได้รับความนิยม
นายหวู ได้รับการปล่อยตัวอย่างกะทันหันเมื่อเดือนก่อน และได้รับอนุญาตให้เดินทางไปสหรัฐฯ พร้อมกับภรรยา
ในการแถลงข่าวที่อาคารรัฐสภา สหรัฐฯ นายหวู ระบุว่าแรงกดดันจากนานาชาติทำให้ตนได้รับการปล่อยตัว และยังแสดงความขอบคุณต่อสหรัฐฯ สำหรับความพยายามอย่างแน่วแน่ รวมทั้งรัฐบาลสหภาพยุโรป แคนาดา นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ และสวิตเซอร์แลนด์
พร้อมกันนั้น นายหวู ยังเรียกร้องให้สหรัฐฯ ที่สัปดาห์หน้าจะหารือกับเวียดนามในประเด็นสิทธิมนุษยชน ให้เปลี่ยนไปเน้นย้ำกดดันการยกเลิกกฎหมาย
“เพียงแค่การปฏิรูปกฎหมายก็จะช่วยให้ประชาชนชาวเวียดนามได้เห็นประชาธิปไตยที่แท้จริง” นายหวู กล่าว
“จนถึงเวลานี้ รัฐบาลสหรัฐฯ และรัฐบาลชาติตะวันตก มองว่าการปล่อยตัวนักโทษการเมืองของเวียดนาม เป็นตัวชี้วัดการปรับปรุงประเด็นปัญหาด้านสิทธิมนุษยชน แต่ความเป็นจริงแล้ว แม้รัฐบาลเวียดนามจะแสดงให้เห็นว่าปล่อยนักโทษการเมืองจำนวนมาก แต่ขณะเดียวกัน ก็ใช้กฎหมายเหล่านี้คุมขังผู้เห็นต่างคนอื่นๆ อีกมากมาย” นายหวู กล่าว
หวู เรียกร้องให้เวียดนามยกเลิกกฎหมายอาญาบางมาตรา ที่ระบุห้ามโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านรัฐ การใช้ประโยชน์จากเสรีภาพที่จะละเมิดประโยชน์ของรัฐ และการกระทำที่มุ่งหมายโค่นล้มรัฐบาล โดยระบุว่า กฎหมายเหล่านี้ขัดแย้งกับกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมือง และสิทธิทางการเมือง รวมทั้งสิทธิมนุษยชนที่รับรองภายใต้รัฐธรรมนูญของประเทศเอง
นอกจากนั้น นายหวู ยังเรียกร้องให้เวียดนามดำเนินมาตรการเพิ่มเติมหลังลงนามในอนุสัญญาต่อต้านการทรมานของสหประชาชาติ เมื่อเดือน พ.ย. โดยหวู กระตุ้นให้เวียดนามมอบค่าชดเชยให้แก่เหยื่อที่ถูกทารุณ และการให้คำปรึกษาทางกฎหมายแก่นักโทษ
ไม่นานหลังจากการปล่อยตัวนายหวู เวียดนามได้ปล่อยตัวนักเคลื่อนไหวทางการเมืองเพิ่มอีก 2 คน แต่ในวันจันทร์ (5) ทางการได้จับกุมตัวนายเหวียน ฮิว วิง บล็อกเกอร์ที่มีชื่อเสียง เพราะบทความต่อต้านรัฐ
องค์กรนักข่าวไร้พรมแดน ระบุว่า เวียดนามควบคุมตัวบล็อกเกอร์อย่างน้อย 34 คน จำนวนมากรองเพียงแค่จีนเท่านั้น
คริส สมิธ นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน ได้แสดงความยินดีต่อการปล่อยตัวนายหวู แต่ขณะเดียวกัน ก็เตือนว่าไม่ควรหลงเชื่อว่าการปล่อยตัวผู้เห็นต่างกับรัฐเพียงไม่กี่คนคือความคืบหน้าอย่างแท้จริงของปัญหาสิทธิมนุษยชนในเวียดนาม.