ซินหวา - รองประธานาธิบดีสาย หมอก คำ ของพม่า เร่งหาแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ยอมรับได้จากทั้งสองชุมชนในรัฐยะไข่ พร้อมเตือนว่าปัญหารัฐยะไข่ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องในรัฐเท่านั้น แต่เป็นปัญหาที่สามารถขัดขวางอนาคตของชาติในความสัมพันธ์กับประชาคมโลก สื่อทางการพม่ารายงานวันนี้ (29)
"ปัญหารัฐยะไข่ทำให้รัฐบาลประสบกับความยากลำบากและยังทำให้ประชาคมโลกเปลี่ยนมุมมองจากด้านบวกเป็นด้านลบ" รองประธานาธิบดีพม่ากล่าวในที่ประชุมคณะกรรมการกลางดำเนินการสร้างสันติภาพ ความมั่นคง และพัฒนารัฐยะไข่ ในกรุงเนปีดอ
พร้อมกันนี้ ยังย้ำถึงความสำคัญของความช่วยเหลือจากหน่วยงานสหประชาชาติและองค์กรระหว่างประเทศ เมื่อการสนับสนุนของรัฐบาลไม่เพียงพอที่จะจัดการกับความต้องการขั้นพื้นฐานและประเด็นปัญหาทางสังคมของผู้ประสบภัยจากชุมชนต่างๆ ที่มีจำนวนหลายแสนคน
รองประธานาธิบดีสาย หมอก คำ ได้เรียกร้องให้หน่วยงานระหว่างประเทศรับรองความช่วยเหลือต่อเหยื่อทุกคนและลงนามข้อตกลงกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง และกระตุ้นให้ทางการดำเนินกระบวนการตรวจสอบความเป็นพลเมืองและผู้อพยพให้เรียบร้อยเพื่อจัดการกับผู้พลัดถิ่นภายในประเทศด้วยความโปร่งใส และมุ่งมั่นที่จะสร้างความเป็นอยู่ของผู้ประสบภัย รวมทั้งการศึกษา สาธารณสุข สังคมและศาสนา
ตามรายงานของทางการพม่าระบุว่า กลุ่มให้ความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ระหว่างประเทศ รวมทั้งหน่วยงานของสหประชาชาติและองค์กรนอกภาครัฐ (NGO) กำลังกลับเข้าทำงานในพื้นที่รัฐยะไข่ เมื่อสถานการณ์ในรัฐยะไข่กลับสู่สภาวะปกติ หลังเกิดเหตุจลาจลครั้งล่าสุดในเดือนมี.ค. ที่โจมตีสำนักงานและบ้านพักของกลุ่มช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่ในเมืองซิตตะเว
และจนถึงตอนนี้ มีหน่วยงานสหประชาชาติและเอ็นจีโอ 11 กลุ่ม ได้กลับเข้าดำเนินการในเมืองซิตตะเว เมืองเอกของรัฐยะไข่ และเมืองมองตอ ซึ่งรัฐบาลพม่าได้ให้คำมั่นที่จะจัดการรักษาความปลอดภัยให้กับกลุ่มช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ที่ตั้งอยู่ในเมืองซิตตะเว
ความรุนแรงในรัฐยะไข่เริ่มปะทุขึ้นในช่วงกลางปี 2555 มีประชาชนเสียชีวิตรวม 167 คน และได้รับบาดเจ็บอีก 223 คน อาคารบ้านเรือนรวม 10,100 หลัง ถูกเผาเสียหาย และมีผู้ไร้ที่อยู่อาศัยกว่า 111,000 คน.
