ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ชิ้นโลหะขนาดใหญ่หลายชิ้นที่หล่นลงจากท้องฟ้าทำให้บ้านเรือนราษฎรครอบครัวหนึ่งใน จ.บี่งทวน (Binh Thuan) ทางภาคกลางตอนล่างของประเทศเสียหายอย่างหนัก วันศุกร์ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา หลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นชิ้นส่วนของดาวเทียมที่ถูกยิงทำลายแต่เผาไหม้ไม่หมดขณะเคลื่อนเข้าสู่ชั้นบรรยากาศตามแรงดึงดูดของโลก
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ขนาดอันแท้จริงของโลหะเหล่านี้อาจจะใหญ่โตกว่าหลายร้อยเท่าหากเทียบกับชิ้นที่หล่นลงมา และในขณะนี้ยังไม่มีทางทราบได้ว่าเป็นดาวเทียมของฝ่ายใด หนังสือพิมพ์แถ่งเนียน (ยุวชน) รายงานเรื่องนี้อ้างความเห็นเจ้าหน้าที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับขยะอวกาศ
“ตามสมมติฐานของเรา ชิ้นโลหะเหล่านี้หล่นลงจากอวกาศ อาจเป็นชิ้นส่วนของยานอวกาศ หรือชิ้นส่วนจรวดซึ่งโดยทั่วไปเมื่อขึ้นสู่ความสูงที่แน่นอนจะสลัดท่อนบรรจุเชื่อเพลิงทิ้งเป็นท่อนๆ ไปเมื่อใช้เชื่อเพลิงหมด” และยังไม่มีทางที่จะทราบได้ว่าเป็นของฝ่ายใด นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญที่ไม่ประสงค์ให้ระบุชื่อคนหนึ่งกล่าว
โดยปกติทั่วไป เมื่อชิ้นส่วนเหล่านี้ถูกดึงดูดเข้าสู่ชั้นอวกาศ และโคจรรอบรอบๆ ด้วยความเร็วสูงมากตามแรงเหวี่ยงของโลก การเสียดสีกับอากาศจะทำให้เกิดความร้อนเผาไหม้วัตถุเหล่านั้นจนหมด หรือเกือบหมด แต่ที่หล่นลงมาเหลือเป็นชิ้นใหญ่ขนาดนี้แสดงว่าขนาดแท้จริงของมันอาจจะใหญ่กว่านี้สัก 100 เท่า หรือมากกว่า ผู้เชี่ยวชาญกล่าว
สองในสามของพื้นผิวโลกเป็นผืนน้ำทะเล และมหาสมุทร ในแต่ละปีจะมีขยะอวกาศหล่นลงน้ำจำนวนมากมาย แต่ก็มีมากเช่นกันที่หล่นลงสู่ผืนทวีป ซึ่งจะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ถ้าหากหล่นลงในแหล่งชุมชน หรือย่านที่มีผู้คนอยู่อาศัย
อย่างไรก็ตาม ชิ้นโลหะที่พบใน จ.บี่งทวน ไม่มีเครื่องหมายใดๆ บ่งบอกที่พอจะชี้เบาะแสได้ว่าเป็นของประเทศใด
นักวิทยาศาสตร์ชาวเวียดนามกล่าวว่า แต่ละปีจะมีเทหวัตถุหล่นลงสู่พื้นโลกกว่า 20,000 ชิ้น โชคดีที่ “ขยะอวกาศ” มักจะไหม้ไฟจนหมด หรือเกือบหมด อาจจะเหลือขนาดเล็กๆ ราว 5 ซม.เมื่อตกถึงพื้น หรือตกลงในทะเล
องค์การบริหารการบินและการอวกาศสหรัฐฯ หรือนาซาระบุว่า ปัจจุบันมีขยะอวกาศขนาดตั้งแต่ 12 มม. ขึ้นไปโคจรรอบโลกอยู่ราว 170 ล้านชิ้น และมีเพียงชาติที่ก้าวหน้าในด้านนี้ไม่กี่ประเทศคือ สหรัฐฯ รัสเซีย กับญี่ปุ่นเท่านั้นที่สามารรถติดตามความเคลื่อนไหวของวัตถุเหล่านี้ และสามารถเตือนภัยอันตรายล่วงหน้าได้
แต่หลายปีมานี้ก็ยังไม่เคยมีรายงานว่ามีขยะอวกาศชิ้นใดที่หล่นลงมา และทำให้ผู้คนเสียชีวิต หรือได้รับความเสียหายอย่างหนักหน่วง
เหตุการณ์ล่าสุดนี้เกิดขึ้นขณะที่ นางเหวียนถิตื๋อ (Nguyen Thi Tu) วัย 46 ปี ราษฎรคอมมูนห่ามทวนนาม (Ham Thuan Nam) อ.ทวนกวี๋ (Thuan Quy) กับลูกๆ กำลังอยู่นอกบ้าน และได้เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นบนท้องฟ้า ต่อมา ปรากฏกว่ามีเศษโลหะหลายชิ้นตกลงบนหลังคาบ้านซึ่งทำให้เกิดรูโหว่ขนาดใหญ่ อีกหลายชิ้นหล่นกระจายอยู่รอบๆ
ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า เหตุเกิดในตอนบ่ายวันที่ 25 ต.ค. ทุกคนได้ยิงเสียงระเบิดดังรุนแรง ซึ่งคิดว่าอาจจะเป็นเสียงเครื่องบิน แต่ก็ไม่เห็นมีลำใดบินผ่านบริเวณดังกล่าว
คนขับแท็กซี่ที่นำผู้โดยสารไปส่งยังรีสอร์ตชายทะเลแห่งหนึ่งกล่าวว่า ตนเองกำลังขับรถกลับเข้าเมือง และได้ไปพบเหตุการณ์ขณะที่ชาวบ้านช่วยกันเก็บเศษโลหะนับจำนวนได้ 16 ชิ้น ดูคล้ายเป็นโลหะอัลลอย มีความหนา 2-3 มม. บางชิ้นมีขนาดกว้าง 40 ซม. บางชิ้นยาว 2.5-3 ม. ชิ้นหนึ่งมีชิ้นส่วนคล้ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พวกคาปาซิเตอร์ (Capacitor) ติดอยู่ด้วย
ทางการทหารระดับคอมมูนได้รายงานเรื่องนี้ และนำสิ่งที่พบทั้งหมดต่อระดับอำเภอเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญทำการศึกษาต่อไป สื่อออนไลน์กล่าว.