ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- กระทรวงกลาโหมสหรัฐ และกระทรวงกลาโหมเวียดนามได้เซ็นเอกสารความตกลงร่วมมือกันครั้งใหม่หลายโครงการ เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับความร่วมมือในหลายขอบเขต เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสองฝ่ายพบเจรจากันในวันจันทร์นี้ (เช้าวันอังคาร 20 ก.ย. เวลาในเวียดนาม) ในกรุงวอชิงตันดีซี
พล.ท.เหวียนจี๋วีง (Nguyễn Chí Vịnh) รัฐมนตรีช่วยว่ากรกระทรวงกลาโหมเวียดนาม พบหารือกับ นายโรเบิร์ต แชร์ (Robert Scher) รองผู้ช่วย รมว.กลาโหมสหรัฐ ซึ่งเป็นการพบหารือครั้งที่ 2 ระหว่างสองฝ่าย สำนักข่าวของทางการเวียดนามรายงาน
"ในการพบสนทนาสองฝ่ายได้แสดงความพึงพอใจต่อผลลัพธ์ จากความร่วมมือด้านกลาโหมในอดีตไม่นานมานี้" สำนักข่าววีเอ็นเอกล่าว
พล.ท.วีงกับนายแชร์ได้เห็นพ้องกันที่จะทำให้ความสัมพันธ์ร่วมมือด้านกลาโหมเวียดนาม-สหรัฐฯ มีผลในทางปฏิบัติมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ร่วมกันและเพื่อสันติภาพ เสถียรภาพและความร่วมมือในภูมิภาคและในโลก ฝ่ายเวียดนามได้แจ้งให้ฝ่ายสหรัฐฯ ทราบถึงผลการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ครั้งที่ 11 เมื่อต้นปีนี้ และฝ่ายสหรัฐฯ ได้ประกาศการเข้าปรากฏตัวในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก วีเอ็นเอกล่าว
รมช.กลาโหมเวียดนามกับรองผู้ช่วย รมว.หลาโหมสหรัฐ ได้ร่วมกันลงนามในบันทึกช่วยความจำ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกระทรวงกลาโหมสองประเทศ ที่มุ่งปฏิบัติใน 5 ขอบเขตสำหรับอนาคตอันใกล้นี้
ตามรายงานของสำนักข่าวทางการ เวียดนามกับสหรัฐฯ จะจัดตั้งกลไกลในระดับสูงเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนระหว่างกระทรวงกลาโหมสองประเทศ งานด้านความมั่นคง การค้นหาและกู้ภัยและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กิจกรรมรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาสาธารณภัย
พล.ท.วีงกับคณะยังได้พบหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ กับเจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ อีกจำนวนหนึ่งด้วย
การเยือนและพบปะแลกเปลี่ยนกับฝ่ายสหรัฐฯ ครั้งนี้ยังมีขึ้นหลังจากคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงกลาโหมเวียดนามนำโดย นายพลโทอาวุโสโงซวนลิก (Ngô Xuân Lịch) กรรมการกลางพรรคและหัวหน้ากรมใหญ่การเมืองกองทัพ ไปเยือนจีนระหว่างวันที่ 14-19 ก.ย.นี้ ซึ่งได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือกับฝ่ายจีนที่นำโดยพล.ท.หลี่เก๋อไน (Li Ke Nai) กรรมการกลาง และกรรมการประจำคณะกรรมาธิการกลาโหมกลาง พรรคคอมมิวนิสต์จีน
.
.
อย่างไรก็ตามในวันที่ 14 ก.ย. นายเลืองแทงงิ (Lương Thanh Nghị) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้ออกแถลงคัดค้านการที่จีนส่งเรือตรวจการณ์ประมงเข้าไปยังเขตน่านน้ำเกาะหว่างซา (พาราเซลส์) ซึ่งเป็นเขตแดนพิพาทระหว่างสองฝ่ายใกล้กับอ่าวตังเกี๋ย
โฆษกเวียดนามกล่าวว่า การกระทำดังกล่าวของจีนสามารถทำให้เกิดความยุ่งยากใน "ทะเลตะวันออก" ได้ และ จีนควรจะกระทำการเพื่อผดุงสันติภาพกับเสถียรภาพในภูมิภาคนี้มากกว่า
นายแทงหงิยังตอบโต้การที่จีนคัดค้านเวียดนาม ที่ให้บริษัทน้ำมันอินเดียเข้าสำรวจน้ำมันในเขตน่านน้ำ โดยระบุว่าแปลงสำรวจ 127 กับ 128 นั้นอยู่ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของเวียดนาม
"การคัดค้านความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับหุ้นส่วนต่างประเทศในเขตไหล่ทวีปกับเขตเศรษฐกิจจำเพาะ 200 ไมล์ทะเลนั้น (เป็นการคัดค้านที่) ไร้ข้อเท็จจริงทางข้อกฎหมายและไร้ผลอย่างสิ้นเชิง" โฆษกเวียดนามกล่าว
รมช.กลาโหมเวียดนาม ได้นำคณะไปเยือนจีนในปลายเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งได้ทำให้สถานการณ์การเผชิญหน้าสองฝ่ายซาลงไป ครั้งนั้น รมช.กลาโหมเวียดนามได้พบหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงกลาโหมจีน รวมทั้งได้เข้าเยี่ยมคำนับ พล.อ.เหลียงกวงเล่ย รมว.กลาโหมจีนด้วย
พล.ท.วีง ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เดิ๊ตเหวียด (Đất Việt) ก่อนออกเดินทางไปเยือนสหรัฐฯ ครั้งนี้ว่า เวียดนามกับจีนได้ตกลงที่จะร่วมกันแก้ไขความแตกต่างใน "ทะเลตะวันออก" โดยเคารพกฎหมายระหว่างประเทศ และสองฝ่ายจะละเว้นการใช้กำลังในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ร่วมกัน และเพื่อสันติภาพ เสถียรภาพกับความร่วมมือในภูมิภาคกับในโลก.