เอเอฟพี -- เรือรบจีนที่ไม่ทราบชื่อได้สั่งให้เรือกองทัพเรืออินเดียลำหนึ่งต้องแสดงตัวเอง และอธิบายเกี่ยวกับการไปปรากฏตัวในน่านน้ำทะเลจีนใต้ นอกชายฝั่งเวียดนามในเดือน ก.ค.ปีนี้ หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์ในอังกฤษรายงานเรื่องนี้ในวันพฤหัสบดี 1 ก.ย.
มีบุคคลที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้ 5 คนที่กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นในน่านน้ำสากล เพียงไม่นานหลังจากเรือจู่โจมยกพลขึ้นบกไอราวัต (INS Airavat) เสร็จสิ้นการแวะเยือนเวียดนาม หนังสือพิมพ์ที่ออกในกรุงลอนดอนกล่าว
ครั้งนี้นับเป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งในหลายเหตุการณ์ในปีนี้ ที่สร้างความวิตกกังวลเกี่ยวกับการคุกคามของจีนต่อประเทศในภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อเวียดนามและฟิลิปปินส์
จีนกล่าวว่าตนเองมีอธิปไตยเหนือทะเลจีนใต้ทั้งหมด ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าหลัก จีนได้ประกาศเป็นเจ้าของหมู่เกาะสแปร็ตลีย์ที่เชื่อว่ารุ่มรวยด้วยน้ำมัน แต่ดินแดนทับซ้อนแห่งนั้นก็มีอีกหลายประเทศอ้างเป็นเจ้าของคือ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ บรูไน มาเลเซียและจีนไทเป
สำหรับเวียดนามกับจีนเองมีความขัดแย้งระหว่างกันมานานแล้ว เกี่ยวกับหมู่เกาะพาราเซลส์ที่อยู่ไกลขึ้นไปทางเหนือ
เรือไอราวัตได้แวะเยี่ยมเมืองญาจาง (Nha Trang) ที่อยู่ในภาคกลางตอนล่างของเวียดนามกับเมืองท่าหายฝ็อง (ฮายฟอง) ในช่วงครึ่งหลังของเดือน ก.ค.
"มีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น" แหล่งข่าวที่ใกล้กับเหตุการณ์บอกกับเอเอฟพี และยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ไม่แน่ใจว่าจุดเกิดเหตุห่างฝั่งเวียดนามออไปเท่าไร
“เป็นวิธีการปรกติธรรมดาของจีน" แหล่งข่าวกล่าวพร้อมทั้งให้ความเห็นว่า การที่เรือจีนกระทำการเช่นนี้ก็เพื่อพยายามทำไห้เห็นว่า "ที่นั่นเป็นเขตของพวกเขาและพวกคุณกำลังทำอะไรอยู่ในน่านน้ำของพวกเขา"
กระทรวงการต่างประเทศเวียดนามไม่สามารถให้ความเห็นต่อเรื่องนี้ตามคำขอในทันทีทันใด และเอกอัครราชทูตอินเดียประจำกรุงฮานอยก็เดินทางไปต่างประเทศ
ในข่วงไม่กี่เดือนมานี้ ฟิลิปปินส์และเวียดนามได้แสดงการคัดค้านสิ่งที่เรียกว่า การข่มขู่ของจีนต่อเรือสำรวจน้ำมันและชาวประมงในทะเลจีนใต้
ในเดือน ก.ค.นางฮิลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้กล่าวประณาม "การข่มขู่" ในน่านน้ำ ซึ่งสหรัฐฯ กล่าวว่า มีผลประโยชน์แห่งชาติเกี่ยวกับการเดินเรือเสรีอยู่ด้วย
กระทรวงกลาโหมสหรัฐได้ออกรายงานสัปดาห์ที่แล้ว ระบุว่าจีนได้หันมาทุ่มเทให้แก่การเสริมสร้างกำลังทางเรือ ในขณะที่จีนได้ให้ความสำคัญเร่งด่วนมากขึ้นในการยึดครองเส้นทางเดินเรือและน่านน้ำที่เชื่อว่ามีแร่ธาตุมากมายในทะเลจีนใต้
แต่ผู้นำจีนหลายคนได้ยืนยันว่า โครงการพัฒนาด้านการทหารให้ทันสมันนั้น มีเป้าหมายเพื่อป้องกันตัวเองล้วนๆ.
.
.
