โดย วุฒิพงษ์ หลักคำ-บุญญะสาร
ASTVผู้จัดการออนไลน์ — พล.ท.โงซวนลิก (Ngô Xuân Lịch) เพิ่งได้รับแต่งตั้งขึ้นเป็นหัวหน้ากรมใหญ่การเมืองคนใหม่ของกองทัพประชาชนเวียดนามในเดือนนี้ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงผู้นำระดับสูงครั้งสำคัญอีกครั้งในยุคใหม่ ที่อาจจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในกระทรวงกลาโหม
พล.อ.ฝุ่งกวางแทง (Phùng Quang Thanh) รัฐมนตรีกลาโหม เป็นผู้ประกาศเรื่องนี้ในวันอังคาร (1 ก.พ.) โดย ประธานาธิบดีเวียดนาม เหวียนมีงเจี๊ยต เป็นผู้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้ง หนังสือพิมพ์รายวันของกองทัพรายงานในวันพุธ 2 มี.ค.
พล.ท.ซวนลิก กลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงคนหนึ่งในกองทัพ หลังจากได้รับเลือกเป็นกรรมการกลางพรรคอีกสมัยหนึ่ง ในการประชุมใหญ่ครั้งที่ 11 พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามในเดือน ม.ค.ปีนี้ รวมทั้งยังได้รับเลือกเป็นเลขาธิการกลางคนหนึ่ง เพื่อทำหน้าที่ดูแลงานประจำวันของคณะกรรมการกลางพรรค
นั่นคือ ตำแหน่งที่ พล.อ.ฝุ่งกวางแทง ทำมาคู่ตำแหน่ง รมว.กลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการกองทัพ ที่มีกำลังพล 400,000
พล.ท.ลิก วัย 57 ปี เป็นชาวจังหวัดห่านาม ในเขตที่ราบปากแม่น้ำแดง เรียนสำเร็จปริญญาทางด้านการเมืองจากอดีตสหภาพโซเวียต ทั้งนี้เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์กวานโด่ยเญินซเวิน (Quân đội Nhân dân) หรือ “กองทัพประชาชน”
พล.ท.ลิก ทำหน้าที่รองหัวหน้ากรมใหญ่นี้มาหลายปี และ ได้รับแต่งตั้งขึ้นเป็นหัวหน้าสืบต่อจาก พล.ท.เลวันซวุง (Lê Văn Dung) ที่เกษียนราชการในเดือนนี้
พล.ท.ซวุง ไม่ได้รับการเสนอชื่อเข้าสมัครรับเลือกตั้งเป็นกรรมการกลางพรรคอีกสมัยเมื่อเดือนที่แล้ว ได้ปฏิบัติหน้าที่จนถึงวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยได้ต้อนรับนายรันจิต ราว (Ranjit Rao) เอกอัครราชทูตอินเดียประจำเวียดนามคนใหม่ที่เข้าเยี่ยมเพื่อแนะนำตัวเอง หนังสือพิมพ์ขอกองทัพรายงานในวันอังคาร 1 มี.ค.
การขึ้นสู่ตำแหน่งหัวหน้ากรมใหญ่การเมืองกองทัพ จะทำให้ พล.ท.หลิก กลายเป็นนายพลโทอาวุโส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และ เป็นกรรมาธิการทหารกลาง คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ในขณะเดียวกัน
กรมใหญ่การเมืองกองทัพประชาชนเวียดนามยังมี รองหัวหน้ายศนายพลโทอีก 2 คน คือ พล.ท.เหวียนแถ่งกุง (Nguyễn Thành Cung) กับ พล.ท.เหวียนต๋วนยวุ๋ง (Nguyễn Tuấn Dũng) คนแรกได้รับเลือกเป็นกรรมการกลางพรรคอีกสมัยหนึ่งเดือน ม.ค.ปีนี้ และ ยังเป็น รมช.กลาโหมคนหนึ่งเช่นกัน
(โปรดเลื่อนลงเพื่ออ่านต่อ)
2
แขนงงานป้องกันประเทศได้รับการจับตามอง หลังจาก รมว.กลาโหมได้รับเลือกขึ้นสู่อันดับที่ 2 ในกรมการเมืองชุดใหม่ อันเป็นองค์กรนำสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์ และ อยู่เหนือนายกรัฐมนตรี เหวียนเติ๋นยวุ๋ง 1 อันดับ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ปรกติในการจัดวางลำดับอาวุโสในพรรค
ในการประชุมใหญ่เดือน ม.ค.ปีนี้ คณะกรรมการกลางฯ ยังลงคะแนนเป็นเอกฉันท์ผ่านร่างแก้ไขธรรมนูญพรรค ซึ่งหนึ่งในสาระสำคัญ ยังรวมทั้งการให้เลขาธิการใหญ่พรรค เป็นประธานคณะกรรมาธิการทหารกลาง และ เป็นเลขาธิการพรรคสาขากองทัพ ซึ่งถูกมองเป็นการรวมศูนย์อำนาจด้านนโยบายกลาโหมและกองกำลังป้องกันประเทศ เอาไว้ที่ผู้นำสูงสุดของพรรค
ยังเป็นการยากที่จะคาดเดาบทบาทใหม่ของ พล.อ.กวางแทง ซึ่งเป็นนายพลเอกเพียงคนเดียวของกองทัพประชาชนขณะนี้ โดยได้รับเลื่อนยศชั้นปีที่แล้ว
ในช่วงข้ามปีมานี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้นำระดับสูงในกองทัพประชาชนเวียดนามอย่างน้อย 2 หน่วยงาน
นอกจากกรมใหญ่การเมืองแล้ว ในเดือน พ.ย.2553 เวียดนามได้แต่งตั้ง พล.ท.โด๋บ๋าตี (Đỗ Bá Ty) ขึ้นเป็นหัวหน้ากรมใหญ่เสนาธิการคนใหม่ แทน พล.ท.เหวียน-คัก-งเวียน (Nguyễn Khắc Nghiên) ที่ถึงแก่กรรมในเดือนเดียวกัน
การขึ้นสู่ตำแหน่ง “เสนาธิการใหญ่” ของกองทัพ ทำให้ พล.ท.บ๋าตี กลายเป็นนายพลโทอาวุโส เป็นกรรมาธิการทหารกลาง และ รมช.กลาโหมอีกตำแหน่งหนึ่งด้วย เจ้าตัวได้รับเลือกเป็นกรรมการกลางพรรคอีกสมัยในการประชุมใหญ่พรรคเดือน ม.ค.
(โปรดเลื่อนลงเพื่ออ่านต่อ)
3
4
ในระบบของคอมมิวนิสต์เวียดนาม โดยปกติผู้ที่จะขึ้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม จะมีภูมิหลังไปจาก 2 กรมใหญ่สำคัญนี้ รวมทั้ง พล.อ.กวางแทง ซึ่งเคยเป็นเสนาธิการใหญ่กองทัพในช่วงปี 2544-2549
เวียดนามกำลังอยู่ในช่วงการปฏิรูปใหญ่ด้านการป้องกันประเทศ นับตั้งแต่สงครามยุติลงเมื่อกว่า 35 ปีก่อน ซึงครอบคลุมถึงการปฏิรูปสายงานบังคับบัญชา การพัฒนายกระดับกรม กอง และหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งในระดับกองบัญชาการ ตั้งแต่เขตจนถึงภาค และ ครอบคลุมทุกเหล่าทัพ
ในเดือน ธ.ค.2552 พล.อ.กวางแทง ได้ออก “สมุดปกขาว” ซึ่งกล่าวถึงนโยบายที่เรียกว่า “การทูตการทหาร” (Military Diplomacy) ปวารณาที่จะใช้การเจรจาหน้า ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งต่างๆ ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับสากล
แต่ในขณะเดียวกัน 2553 ก็เป็นปีที่กองทัพเวียดนามจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ทันสมัยจากรัสเซียเป็นมูลค่าราว 6,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมทั้งเรือดำน้ำโจมตีระบบขีปนาวุธจากชั้นคิโล (Kilo Class) ถึง 6 ลำ เรือพิฆาต และ เครื่องบินรบ SU-30MK อีก 2 ฝูง
ตามรายงานของสื่อทางการ ปีที่แล้วเวียดนามยังเจรจา ขอซื้อเฮลิคอปเตอร์ เรือรบ กับระบบขีปนาวุธจากฝรั่งเศสอีกด้วย และ กรมใหญ่การเมืองของกองทัพมีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้
แต่การเปลี่ยนรัฐบาลจะมีขึ้น เมื่อมีการประชุมรัฐสภาชุดใหม่ในเดือน ส.ค.ปีนี้ หลังการเลือกตั้งที่มีกำหนดขึ้นในวันที่ 22 พ.ค.ศกนี้ โดยเชื่อกันว่า นายกรัฐมนตรีเหวียนเติ๋นยวุ๋ง จะได้รับเลือกให้ทำหน้าที่อีก 1 สมัย
แต่สำหรับตำแหน่งผู้นำด้านกลาโหมกับกองทัพต้องจับตาต่อไป
อนาคตใหม่
5
6
7