“หวอจี๋กง” อดีตประธานาธิบดี อดีตผู้นำเวียดกง ถึงแก่กรรม

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- นายหอวจี๋งกง (Võ Chí Công) อดีตประธานสาภาแห่งรัฐเวียดนามหรือประธานาธิบดีในยุคทึ่เวียดนาม กำลังหันเปลี่ยนนโยบายเปิดประเทศ ได้ถึงแก่กรรมในวันพฤหัสบดี 8 ก.ย.2554 รวมอายุ 99 ปี กับ 1 เดือนพอดี พรรคคอมมิวนิสต์ ได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นชุดหนึ่งประกอบด้วยผู้แทนพรรค รัฐสภา รัฐบาล และ แนวร่วมปิตุภูมิเวียดนาม กับสมาชิกครอบครัว เพื่อจัดพิธีไว้อาลัยระดับชาติและจัดงานศพในระดับรัฐ

นายจี๋กง ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อเวลา 15 นาฬิกาเศษ ด้วยชราภาพกับโรคประจำตัว หลังเข้ารับการรักษาที่โรงพยายามถ่งเญิต นครโฮจิมินห์มาหลายเดือน พิธีศพจะจัดขึ้นที่ทำเนียบแห่งการรวมชาติตั้งแต่วันศุกร์ 9 ก.ย.นี้ เป็นต้นไป สื่อของทางการรายงานอ้างคำแถลงฉบับหนึ่งของคณะกรรมการกลางพรรค
.

.
พิธีฝังศพตามประเพณีมีกำหนดขึ้นในวันที่ 12 ณ สุสานแห่งหนึ่งในโฮจิมินห์ และในระหว่างนี้ทางการได้ขอให้หน่วยงานของรัฐกับสถานประกอบการภาคเอกชนทั่วประเทศประดับธงชาติ ขอให้สถานบันเทิงกับสถานบริการต่างๆ หรี่ไฟ ละเว้นการติดป้ายโฆษณาขนาดใหญ่สำหรับงานรื่นเริงต่างๆ ในช่วงนี้อีกด้วย

อดีตผู้นำเกิดวันที่ 7 ส.ค.2455 เป็นชาว อ.เติ่มกี่ จ.กว๋างนาม-ด่าหนัง เมื่อก่อน เป็นอดีตกรมการเมืองอาวุโสของพรรคคอมมิวนิสต์ เป็นกรรมการกลางพรรค เป็นสมาชิกรัฐสภา เคยเป็นรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรี ได้รับอิสริยาภรณ์ดาวทองซึ่งเป็นขั้นสูงสุดของรัฐเวียดนาม และ อิสริยาภรณ์กับเหรียญสดุดียกย่องเกียรติคุณอีกจำนวนมาก

วิทยุและโทรทัศน์เวียดนามจะถ่ายทอดรัฐพิธีฝังศพของอดีตผู้นำอย่างสมเกียรติในวันที่ 12 ก.ย.ศกนี้ หนังสือพิมพ์กวนโด่ยเญินซเวิน (Quan Quân Đội Nhân Dân) หรือ “กองทัพประชาชน” ของกระทรวงกลาโหมรายงาน

ในปี 2473 อายุยังไม่ถึง 20 ปี “หนุ่มหวอตวาน” (Võ Toan) ซึ่งเป็นชื่อตั้งแต่แรกเกิด ได้เข้าร่วมกับขบวนการต่อสู้ที่นำโดยนายฟานโบยเจิว (Phan Bội Châu) กับนายฟานเจิวจีง (Phan Châu Trinh)ซึ่งเป็นผู้นำการเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อเอกราชจากผู้ปกครองฝรั่งเศสในยุคแรกๆ ในศตวรรษที่ 20

ในปี 2478 หวอตวาน ได้เข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์อินโดจีนที่นำโดยอดีตประธานโฮจิมินห์และเป็นผู้บัญชาการกองกำลังรบมาตลอด จนกระทั่งถูกฝรั่งเศสจับตัวได้ในปี 2486 แต่ได้รับการปล่อยตัวเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลงในปี 2488 และได้ทำการต่อสู้แบบปิดลับตลอดมานับตั้งแต่นั้น

โลกภายนอกได้รู้จักชื่อหวอจี๋กงในปี 2504 ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งและเป็นรองประธานแนวร่วมปลดปล่อยภาคใต้เวียดนาม ซึ่งเป็นองค์กรที่คอมมิวนิสต์เวียดนามเหนือ หรือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามในขณะนั้นตั้งขึ้นเป็นหัวหอกทางการเมืองรณรงค์การรวมชาติ โดยมีกองกำลังรักชาติติดอาวุธ ที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในชื่อ “เวียดกง”

สงครามในเวียดนามมยุติลงในเดือน เม.ย.2518 หลังการพังทลายของรัฐบาลไซ่ง่อนที่สหรัฐฯ ให้การหนุนหลัง และนำมาสู่การรวมเวียดนามเหนือ-ใต้เข้าด้วยกันในปี 2519 นายหวอจี๋กงได้รับเลือกเข้าเป็นกรมการเมืองคนหนึ่งของพรรคคอมมิวนิสต์ และในช่วงปี 2519-2523 ได้ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงการประมง กระทรวงเกษตร และ ยังควบตำแหน่งรองนายกฯ อีกตำแหน่งหนึ่งจนถึงปี 2525

นายจี๋กง ได้รับเลือกเป็นผู้นำแห่งรัฐระหว่างปี 2530-2535 อันเป็นช่วงปีหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญในการหันเปลี่ยนไปยอมรับระบบเศรษฐกิจแบบตลาดไปใช้พัฒนาประเทศและแก้ปัญหาความยากจนของประชาชนซึ่งได้ชื่อว่าเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่ หรือยุคปฏิรูป

นั่นคือ ช่วงปีแห่งความยากลำบากยิ่งในขณะที่นายเหวียนวันลีง (Nguyễn Văn Linh)นักปฏิรูปเศรษฐกิจจากนครโฮจิมินห์ เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ ต้องต่อสู้ทางความคิดอย่างหนักกับผู้นำสายอนุรักษ์นิยมในพรรค ที่กำลังหวาดผวา กับการเปลี่ยนแปลงในสหภาพโซเวียต กับนโยบาย “เปเรสตรอยกา” (Perestroika) ของนายมิกาอิล กอร์บาชอฟ ที่นำไปสู่การล่มสลายของค่ายคอมมิวนิสต์ใหญ่ในปี 2532

นายหวอจี๋กง ดำรงตำแหน่งประมุขแห่งรัฐจนครบวาระ 5 ปีก่อนจะเกษียณ และ ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการกลางพรรคต่อมา เช่นอดีตผู้นำระดับสูงอีกหลายคน จนกระทั่งมีการยุบตำแหน่งนี้ลงในปี 2540.