โดย วุฒิพงษ์ หลักคำ-บุญญะสาร
ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ประธานาธิบดีคนใหม่ประกาศจะร่วมกับประชาชนเวียดนามทุกคน พิทักษ์ปกป้องอธิปไตยเหนือหมู่เกาะในทะเลจีนใต้อย่างถึงที่สุด โดยระบุว่า ความมุ่งมั่นนี้จะไม่มีอะไรสั่นคลอนได้ นายเจืองเติ๋นซาง (Trương Tấn Sang) กล่าวในการตอบคำถามเกี่ยว ระหว่างให้สัมภาษณ์หลังจากได้รับเลือกเข้าดำรงตำแหน่งในวันจันทร์ 25 ก.ค.ศกนี้
นายซาง ได้รับคะแนนโหวตจากรัฐสภาคิดเป็น 97% ของผู้แทนราษฎรที่ร่วมลงคะแนนจำนวน 496 คน จากทั้งหมด 500 คน
ตามรายงานของสำนักข่าวซเวินจี๊ (Dan Tri) ประธานาธิบดีคนใหม่ยังประกาศต่อต้านการฉ้อราษฎร์บังหลวง อย่างถึงที่สุด โดยระบุว่าเป็นปัญหาเร่งด่วนและเป็นเรื่องคอขาดบาดตายสำหรับประเทศและพรรคคอมมิวนิสต์ และเป็นความคาดหวังของผู้ใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้ง
นายซาง กล่าวว่า ในปัจจุบันเวียดนามมีกฎหมายกับเครื่องมือต่างๆ พร้อมอยู่แล้ว เหลือเพียงจะต้องลงมือปฏิบัติอย่างจริงจังเท่านั้น
“พรรคและรัฐมีภาระที่จะต้องนำหน้าในความรับผิดชอบ ในการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน ให้เป็นไปตามความคาดหวังของประชาชน” นายซาง กล่าว
“ผมเชื่อว่า ประชาชนจะไม่ลืมความคาดหวังอันนี้ และประชาชนมีความรับผิดชอบที่จะต้องทำการตรวจสอบและแนะนำเรา บรรดาผู้แทนที่ได้รับเลือกจะทำหน้าที่นี้แทนพวกเขา อย่างน้อยที่สุดก็จะต้องดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา” สำนักข่าวภาษาเวียดนามอ้างคำพูดของประมุขแห่งรัฐคนใหม่
.
.
นายซางวัย 62 ปี ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี โดยนายเหวียนซีงหุ่ง (Nguyễn Sinh Hùng) อดีตรองนายกรัฐมนตรีคนที่ 1 ซึ่งกลายเป็นประธานรัฐสภาคนใหม่ในวันเสาร์ที่ผ่านมา
นายซาง เป็นชาว จ.ลองอาน (Long An) ในที่ราบปากแม่น้ำโขง เป็นอดีตประธานคณะปกครองนครโฮจิมินห์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอีกคนหนึ่ง ในช่วงปีกแรกๆ ที่เวียดนามใช้ระบบเศรษฐกิจแบบตลาด และเปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศ
นักวิเคราะห์มองว่า นายซาง เป็นผู้นำผู้สืบทอดแนวคิดปฏิรูปจากภาคใต้ต่อจากยุคของนายเหวียนวันลีง (Nguyễn Văn Linh) ผู้ล่วงลับ ซึ่งเป็นอดีตเลขาธิการพรรคสาขานครโฮจิมินห์ และต่อมาได้รับเลือกขึ้นเป็นเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามอีกคนหนึ่ง
ประธานาธิบดีคนใหม่เคยเป็นผู้ปฏิบัติงานใกล้ชิดกับนายหวอวันเกียต (Võ Văn Kiệt) อดีตนายกรัฐมนตรีนักปฏิรูป อดีตเลขาธิการพรรคสาขาโฮจิมินห์ ที่ได้รับความเคารพรักอย่างสูง ถนนมอเตอร์เวย์สายใหม่ซึ่งใหญ่และทันสมัยที่สุดในนครใหญ่แห่งภาคใต้ ได้ชื่อเป็น “ถนนหวอวันเกียต” เพื่อเป็นเกียรติแด่อดีตผู้นำที่ล่วงลับ
นายซาง ได้รับเลือกเข้าสู่กรมการเมืองซึ่งเป็นองค์กรสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์ในการประชุมใหญ่ครั้งที่ 8 ปี 2540 และอยู่ต่อมาเป็นสมัยที่ 3 เคยเป็นประธานคณะกรรมการเศรษฐกิจของพรรค ตำแหน่งล่าสุดเป็นกรรมการถาวร ประจำคณะเลขาธิการกลางพรรค ซึ่งเป็นสำนักบริหารกำกับดูแลงานประจำวันของพรรค
ประมุขแห่งรัฐคนใหม่กำลังจะเสนอชื่อผู้เข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ประธานศาลสูงสุด และตำแหน่งอื่นๆ ในระดับรัฐอีกจำนวนหนึ่ง ต่อที่ประชุมรัฐสภาในวันอังคาร 26 ก.ค.นี้
.
.
คณะกรรมการตรวจตราของคณะเลขาธิการพรรคเป็นหน่วยงานแรกที่ตรวจพบเมื่อปีที่แล้วว่า กลุ่มอุตสาหกรรมต่อเรือใหญ่ของประเทศมีฐานะใกล้ล้มละลาย เนื่องจากการประพฤติมิชอบ การค้นพบได้นำไปสู่การปลดผู้บริหารระดับสูงหลายคนออกจากตำแหน่ง และ นายกรัฐมนตรีตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อสอบสวนหาคนผิด
นายซาง กล่าวในวันจันทร์นี้ ว่า แม้ที่ผ่านมาจะประสบความสำเร็จในการปรามปรามการทุจริตคอร์รัปชันโดยพื้นฐาน แต่ก็ยังไม่บรรลุเป้าหมายที่การประชุมใหญ่ครั้งที่ 11 ของพรรค (ม.ค.2554) วางออก การปราบปรามช่วยเพียงหยุดยั้งการทุจริต แต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้อย่างถอนรากถอนโคนได้
ต่อปัญหาในทะเลจีนใต้นายซาง กล่าวว่า อธิปไตยเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถให้ใครล่วงละเมิดได้ ไม่ว่าประเทศนั้นจะมีขนาดเล็กหรือใหญ่อย่างไรก็ตาม
การแก้ไขปัญหาพิพาทจะต้องยึดถือ หลักกฎหมายเกี่ยวกับน่านน้ำระหว่างประเทศ ซึ่งมีการกำหนดเขตน่านน้ำไส้ชัดเจน ทั้งเขตน่านน้ำ 12 ไมล์ทะเล เขตเศรษฐกิจจำเพาะ 200 ไมล์ทะเล และเขตไหล่ทวีป 300 ไมล์ทะเล ซึ่งเวียดนามกับอีกหลายประเทศทั่วโลกได้ให้สัตยาบรรณต่อกฎหมายทางทะเลปี 2525 หลังมีการต่อสู้เรื่องนี้มานานหลายสิบปี นายซาง กล่าว
เวียดนามจะยืนหยัดสิทธิป้องกันอธิปไตย สิทธิเหนือเขตเศรษฐกิจจำเพาะและสิทธิเหนือเขตไหล่ทวีปของตน ซึ่งเวียดนามได้ครอบครองและทำกินบนผืนดินกับผืนน้ำของตนมายาวนานในประวัติศาสตร์จนถึงทุกวันนี้ ประธานาธิบดีเวียดนาม กล่าว