xs
xsm
sm
md
lg

คนเป็นคนตายต่างสุขสันต์ ใน "สุสานนิเวศน์" โฮจิมินห์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#000033>คนเป็นกับคนตายอยู่ด้วยกันดุจญาติมิตรสนิท ผิดกฎหมายแต่ก็รู้กัน ดีเสียอีกมีคนเฝ้าดูแลสุสาน เจ้าหน้าที่รัฐหมดภาระไม่ต้องจัดการเรื่องความสะอาด.-- Dan Tri Online.</b>

ASTVผู้จัดการออนไลน์-- ที่ดินซึ่งราคาแพงขึ้นหลายเท่าตัวในนครโฮจิมินห์ ไม่เพียงแต่ทำให้คนตายนับแสนๆ จะต้องระหกระเหินออกจากตัวเมืองเท่านั้น อีกจำนวนมากยังถูกคนเป็นแย่งยื้อ เบียดเสียดเข้าไปอาศัยในที่ๆ มีอยู่จำกัดอีกด้วย ในเขตอำเภอที่ 8 ของนครใหญ่แห่งนี้ มีอาณาบริเวณหนึ่งที่คนทั่วไปเรียกว่า “หมู่บ้านสุสาน” ที่คนเป็นกับคนตายอยู่ด้วยกัน

ผู้ชายในหมู่บ้านแห่งนี้ จะนั่งๆ นอนๆ หรือ นั่งดื่มกันเป็นกลุ่มบนหลุมศพ โดยไม่ได้รู้สึกอะไรเกี่ยวกับคนตายที่นอนอยู่ในหลุมเบื้องล่างห่างลงไปราว 1-2 เมตร

เด็กๆ จะพากันวิ่งเล่น บ้างก็เล่นซ่อนหา หลบอยู่ตามหินแผ่นป้ายชื่อตามหลุมศพต่างๆ บ้างก็นอนหลบลงข้างหลุม โดยไม่ได้หวั่นวิตก ไม่รู้จักกับคำว่า "กลัวผี"

ก่อนหน้านี้ทั้งอาณาบริเวณเป็นที่สำหรับคนตายเท่านั้น หลายสิบปีมานี้คนยากคนจนจากชนบทได้อพยพเข้าหางานทำในเมืองและไม่มีที่ไหนดีกว่าไปปักหลักในสุสาน ปลูกบ้านหรือกระต๊อบหลังเล็กๆ ตามมีตามเกิด ตามที่ว่างที่ยังเหลืออยู่

บ้านบางหลังคร่อมอยู่บนหลุมศพซึ่งญาติมิตรของผู้ตายไม่ค่อยได้ไปดูแล ประกอบกับสุสานแห่งนี้เข้าไปลำบากเพราะเป็นที่ตาบอด แถมรายรอบด้วยคลองที่น้ำเน่าเสีย และ ยังเป็นสุสานที่ “เต็ม” มาหลายสิบปีอีกด้วย

ประชากรของหมู่บ้าน “สุขสันต์สุสานนิเวศน์” แห่งนี้ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเป็นคนงานก่อสร้าง ขายลอตเตอรี เก็บของเก่าขายหรือเก็บขยะรีไซเคิ้ล หลายสิบปีผ่านไปจากกระต๊อบก็ค่อยๆ กลายเป็นบ้านถาวร

เมื่อประชากรเป็นๆ มีจำนวนเพิ่มขึ้น พื้นที่สำหรับเด็กๆ วิ่งเล่นก็มีน้อยลง ทุกซอกระหว่างหลุมศพจึงเป็น "สนามเด็กเล่น" ในขณะที่ผู้ใหญ่ ใช้แท่นคอนกรีตของหลุมศพเป็น"ลานอเนกประสงค์" นั่งเล่น ดื่มกิน ตากผ้า ตากอาหารให้แห้ง ที่ตรงไหนอยู่ใต้ร่มเงาของต้นไม้ หลุมศพก็กลายเป็นเตียงสำหรับนอนพักผ่อนไปโดยปริยาย

ร่ำรวยที่สุดในชุมชนนี้ เป็นครอบครัวของนางแถ็กถิห่ม (Thach Thi Hong) วัย 52 ปี ซึ่งอพยพจาก จ.อานซยาง (An Giang) ในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขงเมื่อ 30 ปีก่อน

นางห่มกล่าวว่า เนื่องจากยากจนมาก ก็ต้องพึ่งสุสานเป็นที่อาศัย แรกๆ ก็รู้สึกกลัวแต่เมื่ออยู่แวดล้อมด้วยหลุมศพ นานปีเข้าก็กลายเป็นสิ่งคุ้นเคยประจำวัน ปัจจุบันลูกๆ เติบโตมีงานทำหมดแล้ว และส่งเสียให้พ่อแม่ซึ่งไม่ยอมออกไปจากสุสานนิเวศน์แห่งนี้
.
<bR><FONT color=#000033>พื้นที่ทุกตารางนิ้วต้องใช้ให้คุ้ม อาณาบริเวณก็มีอยู่เท่านี้ คนตายนอนสงบอยู่ข้างล่าง ส่วนคนเป็นก็โลดแล่นสู้ชีวิตอยู่ข้างบน.. ในสุสานนิเวศน์. -- Dan Tri.</b>
2
นานปีเข้าผู้คนก็เข้าไปอาศัยในนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ จนแออัด

แน่นอนว่า การเข้าไปอยู่ในบริเวณสุสานซึ่งเป็นของทางการนั้นเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่ความต้องการที่อยู่อาศัยทำให้ทุกคนต้องทำ หลายคนปลูกบ้านในนั้นโดย "เซ้ง" สิทธิ์จากผู้อื่นที่อพยพออกไปแล้ว และเนื่องจากเป็นสุสานที่ใช้ฝังคนตายไม่ได้อีกแล้ว การมีคนเข้าไปอยู่และดูแลกลับเป็นเรื่องดีเสียอีก

นอกจากการเข้าออกที่ค่อนข้างยากลำบากแล้ว ความยากลำบากใหญ่หลวงที่สุดน่าจะเป็นเรื่องน้ำดื่มน้ำใช้ เนื่องจากทุกคนไม่ได้รับอนุญาตให้ขุดบ่อน้ำภายในสุสาน หรือ แม้จะได้รับอนุญาตก็คงจะไม่มีใครคิดขุด เพราะน้ำจนปนเปื้อนสูงมาก ซึ่งทุกคนทราบดีว่ามันคืออะไร

น้ำจึงมีค่ามากเพราะต้องซื้อจากภายนอกทั้งหมด ทั้งสำหรับดื่มและใช้ในการชะล้าง

บางครอบครัวอยู่ที่นั่นมา 3 ชั่วคน พ่อแม่ต้องหดบ้านหลังเก่าให้เล็กลง เพื่อแบ่งพื้นที่ให้กับลูกที่สร้างครอบครัวใหม่ปลูกเต็นท์ขึ้นมาเป็นที่ซุกหัวนอน หลังกลับจากทำงานรับจ้างในเมือง

ปัจจุบันมีทั้งหมด 30 ครอบครัว รวมประชากรราว 100 คน แออัดกันอยู่ในบริเวณสุสานนิเวศน์แห่งนี้ อีกจำนวนมากยังคงพยายามหาทางเข้าไปอยู่ที่นั่น

แม้จะอยู่กับคนตายอย่างมีความสุข แต่ที่นี่ก็ยังมีปัญหาซึ่งเป็นปัญหาเดิมๆ คือ ความยากจน ซึ่งทำให้เด็กๆ ขาดโอกาสทางการศึกษา ไม่สามารถอ่านออกเขียนได้ ทั้งหมดนี้เป็นวงจรที่วนเวียนมาหลายชั่วอายุคน สำหรับชาวสุสานนิเวศน์

ถึงขนาดนั้นก็นับว่ายังโชคดี ทางการกำลังย้ายหลุมศพ นับจำนวนแสนๆ หลุมออกจากสุสานขนาดใหญ่หลายแห่งในย่านใจกลางนครไปอยู่ในเขตอำเภอรอบนอก เพื่อนำที่ดินสุสานไปใช้ประโยชน์สำหรับคนเป็น แต่สุสานนิเวศน์แห่งนี้ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ.

[เรียบเรียงเก็บความจากรายงานของสำนักข่าวซเวินจี๊].

สุขสันต์ในสุสานนิเวศน์
by Dan Tri

3

4

5

6

7

8

9

10

11

12
กำลังโหลดความคิดเห็น